สร้างพอร์ตโต ด้วยกลยุทธ์ลงทุนแบบ DCA

การลงทุนในตลาดหุ้นมีหลายรูปแบบที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จ และหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว คือ  กลยุทธ์การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือเรียกง่ายๆ ว่า  DCA (Dollar-Cost Averaging) 

กลยุทธ์ลงทุนแบบ DCA 

เป็นการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน เพื่อสร้างวินัยการออมและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ทั้งในยามตลาดหุ้นวิกฤติ หุ้นถูกผิดปกติ หรือในยามที่ตลาดหุ้นแพงมากกว่าปกติ DCA จะทำให้นักลงทุนได้หุ้นที่มีราคาต้นทุนแบบ “ถัวเฉลี่ย” จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แม้ว่าจะไม่ได้กำไรสูงสุด แต่ก็ไม่มีทางขาดทุนแบบกู่ไม่กลับ ช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีส่วนต่างความปลอดภัย (Margin of Safety) 

และที่สำคัญไปกว่านั้นจะช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนมากๆ อย่างในตลาดหุ้นหรือกองทุนรวมหุ้นได้เป็นอย่างดี แถมยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลเป็นกอบเป็นกำจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นด้วย 

การลงทุนแบบ DCA ไม่ยาก แต่ต้องอาศัยวินัยการลงทุนและการกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ขอแค่เข้าใจ “3 เรื่องต้องรู้ก่อนเริ่ม DCA” เพื่อให้การลงทุนนั้นได้ผลดีที่สุด ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น 

img-newinvest-23
1
ระยะเวลาการลงทุนต้องชัดเจน
การลงทุนแบบ DCA เป็นการลงทุนระยะยาวที่มักจะผ่านทั้งภาวะที่ตลาดรุ่งเรืองเฟื่องฟู หรือลงทุนท่ามกลางภาวะวิกฤติ ทำให้ราคาหุ้นอาจแพงหรือถูกเกินไปในบางช่วงได้ ซึ่งการลงทุนระยะยาวจะช่วยลดความผันผวนของผลตอบแทนได้ เราจึงควรตั้งเป้าหมายระยะเวลาการลงทุนให้ชัดเจนและเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนที่ตั้งใจไว้ เช่น ต้องการลงทุนแบบ DCA เป็นเวลา 5 ปี เพื่อเป็นเงินออมสำหรับไปเรียนต่อต่างประเทศ เป็นต้น 
img-newinvest-24
2
กำหนดกติกาลงทุน

หัวใจสำคัญของการลงทุนแบบ DCA คือ “การลงทุนที่สม่ำเสมอ” เราต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าจะลงทุนเมื่อไหร่ เช่น ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน หรือทุกไตรมาส ซึ่งจะช่วยให้เรามีวินัยการลงทุนและลดความผันผวนของราคาได้ 

นอกจากนี้ ต้องกำหนดจำนวนเงินลงทุนในแต่ละครั้งด้วย หากกำหนดวงเงินที่เท่ากันจะช่วยลดแรงกดดันจากราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นในบางช่วง ในขณะเดียวกันหากราคาหุ้นลดลงรุนแรงจากภาวะตลาดไม่เป็นใจ ก็เป็นโอกาสให้นักลงทุนซื้อหุ้นได้จำนวนหุ้นมากกว่าปกติ  

img-newinvest-24
img-newinvest-25
3
ไม่หวั่นไหวกับสภาพตลาด
เป็นที่รู้กันดีว่า ตลาดหุ้นมีความผันผวนตลอดเวลา หากเราหวั่นไหวไปกับภาวะตลาด ก็อาจจะพลาดจังหวะที่ดีที่สุดของการลงทุนได้ นักลงทุนจึงต้องมีวินัยและแผนการลงทุนที่ชัดเจน ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไรก็ต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอตามแผนที่วางไว้ ยกเว้นปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์ที่เราเลือกลงทุนนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมที่วิเคราะห์ไว้ ก็ต้องเตรียมปรับแผนการลงทุนให้สอดรับกับทิศทางที่ในอนาคตที่เปลี่ยนไปด้วย

เคล็ดลับอีกอย่างที่จะช่วยเร่งให้พอร์ตการลงทุนของเราเติบโตได้มากขึ้นก็คือ
 ลงทุนเพิ่มตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพียงแค่เราจัดสรรค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนและแบ่งเงินออกมาลงทุนเพิ่มขึ้นให้ได้อย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยสร้างโอกาสการลงทุนและทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายการลงทุนได้เร็วขึ้นด้วย