วิธีจัดพอร์ตการลงทุนจากเป้าหมายตามระยะเวลา

โดย วริศรา สาระขวัญ AFPT™ ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3 Min Read
24 กันยายน 2568
336 views
TSI-Article-711-investment-portfolio-allocation-by-financial-goals-Thumbnail
Highlights
  • ตั้งเป้าหมายการเงินให้ชัดเจน แบ่งตามระยะเวลา ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

  • ระยะเวลาของเป้าหมายต่างกัน วิธีเลือกสินทรัพย์เข้าพอร์ตลงทุนต่างกัน

  • ควรจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับตัวเอง กระจายความเสี่ยง และหมั่นปรับพอร์ตสม่ำเสมอ

เมื่อเราตั้งเป้าหมายทางการเงินได้แล้ว แน่นอนว่าเราต้องหาวิธีเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมาย หลายคนอาจถามว่า “เราควรนำเงินไปลงทุนอะไรดี” หรือ “จะเก็บเงินไว้ที่ไหนดี” แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่เราต้องถามตัวเองก่อน นั่นคือ “เราลงทุนไปเพื่ออะไร” จึงนำมาสู่แนวคิดการจัดพอร์ตลงทุนตามเป้าหมายการเงิน

ทำไมการจัดพอร์ตลงทุนตามเป้าหมายถึงสำคัญ

หลายคนที่เริ่มลงทุนเพราะอยากให้เงินงอกเงย แต่บางครั้งพอร์ตการลงทุนอาจไม่ตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิต เช่น ต้องการเก็บเงินดาวน์บ้านภายใน 3 ปี แต่กลับนำเงินไปลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง หรือเริ่มทำงาน อยากวางแผนเกษียณในอีก 20 ปี แต่กลับนำเงินไปลงทุนในกองทุนตลาดเงินที่ให้ผลตอบแทนต่ำ

ดังนั้น การตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน เราจะรู้ว่า เงินก้อนนี้จะให้ไปกับอะไร เมื่อไหร่ และเสี่ยงได้แค่ไหน ช่วยให้การลงทุนของเราไม่หลงทาง เพื่อเลือกสินทรัพย์ได้อย่างเหมาะสมกับช่วงเวลาและความต้องการในชีวิต เพิ่มโอกาสได้ทำเป้าหมายในชีวิตให้สำเร็จ

หลักการจัดพอร์ตตามระยะเวลา

วิธีตั้งเป้าหมายทางการเงินตามระยะเวลา ขึ้นอยู่กับความต้องการในชีวิตของแต่ละคน แบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งมีลักษณะเป้าหมายและวิธีการจัดพอร์ตลงทุนที่แตกต่างกัน

วิธีจัดพอร์ตลงทุนสำหรับเป้าหมายระยะสั้น

  • ลักษณะเป้าหมาย : เป็นเป้าหมายที่เกิดขึ้นภายใน 1 ปี ต้องการใช้เงินแน่ ๆ เช่น เงินสำรองฉุกเฉิน, ทริปท่องเที่ยว, ซื้ออุปกรณ์ทำงาน
  • แนวทางลงทุน : ควรเน้นสภาพคล่องเป็นสำคัญ สามารถถอนเงินมาใช้ได้เมื่อต้องการ อาจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ สอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้องใช้เงิน เช่น เงินฝากออมทรัพย์, เงินฝากประจำ, กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund), พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น
  • ข้อควรระวัง : ไม่ควรนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพราะถ้าราคาสินทรัพย์ผันผวน อาจทำให้พลาดเป้าหมายที่วางไว้ได้

วิธีจัดพอร์ตลงทุนสำหรับเป้าหมายระยะกลาง

  • ลักษณะเป้าหมาย : เป็นเป้าหมายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 1 – 5 ปีข้างหน้า ต้องใช้เวลาสะสมเงินก้อน เช่น เรียนต่อ ป.โท, เก็บเงินดาวน์บ้าน, ค่าเทอมลูก
  • แนวทางการลงทุน : ควรเลือกลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงปานกลาง เน้นการสร้างผลตอบแทนให้ชนะเงินเฟ้อ เช่น พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว, หุ้นกู้, กองทุนรวมตราสารหนี้
  • ข้อควรระวัง : ควรกระจายการลงทุนให้เหมาะสม ไม่ควรลงในสินทรัพย์เสี่ยงมากเกินไป

วิธีจัดพอร์ตลงทุนสำหรับเป้าหมายระยะยาว

  • ลักษณะเป้าหมาย : เป็นเป้าหมายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต อาจมีระยะเวลามากกว่า 5 ปีขึ้นไป ต้องการเงินก้อนใหญ่ เช่น เกษียณอายุ, มรดก ฯลฯ
  • แนวทางการลงทุน : สามารถลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงสูงได้ เพื่อความหวังผลตอบแทนที่สูงและลดความกังวลจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น หรือพูดง่าย ๆ คือ “ให้เงินทำงาน” เช่น หุ้น, ทองคำ, สินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ
  • ข้อควรระวัง : แม้เป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่ว่าปล่อยทิ้งไว้ได้เลย ต้องหมั่นติดตามและปรับพอร์ตลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้ว่าใกล้ถึงเป้าหมายแล้วหรือยัง โอกาสที่จะทำสำเร็จมีมากน้อยเพียงใด

การจัดพอร์ตตามระยะเวลา ช่วยให้เราเลือกลงทุนได้เหมาะกับเป้าหมาย และยังทำให้เราจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลาได้ง่ายขึ้นอีก เช่น เป้าหมายเรียนต่อภายใน 3 ปีข้างหน้า เป็นเป้าหมายระยะกลางแต่สำคัญ เราอาจปรับลดเป้าหมายท่องเที่ยวในระยะสั้นลงบ้าง เพื่อโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ

TSI-Article-711-how-to-allocate-investment-portfolio-by-financial-goals

เทคนิคการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับตัวเอง

นอกจากการจัดพอร์ตลงทุนตามระยะเวลาของเป้าหมายแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ การจัดพอร์ตให้เหมาะกับตัวเราเอง ซึ่งทำได้ดังนี้

  • ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ : อย่ามองแต่ผลตอบแทน ต้องดูด้วยว่าเรารับความเสี่ยงไหวแค่ไหน เช่น ถ้าอยากลงทุนหุ้น แต่เครียดทุกครั้งที่ราคาผันผวน แปลว่าการลงทุนในสินทรัพย์นี้อาจไม่เหมาะกับเรา หรือเรายังไม่เข้าใจสินทรัพย์ที่ลงทุน
  • กระจายการลงทุน : “อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” เป็นคำกล่าวที่มักได้ยินในโลกการเงิน เพราะหากเราลงทุนในสินทรัพย์หนึ่งมากเกินไป อาจทำให้มูลค่าพอร์ตผันผวนตามราคาสินทรัพย์นั้น

ปรับพอร์ตตามสถานการณ์ : ราคาสินทรัพย์อาจปรับตัวขึ้นหรือลง ตามสถานการณ์ที่เข้ามากระทบ ดังนั้น ควรติดตามและปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ

ตัวอย่างการจัดพอร์ตลงทุนจากเป้าหมายจริง

เป้าหมายเก็บเงินดาวน์บ้านในอีก 5 ปี

การซื้อบ้านมีเงินที่ต้องจ่ายหลักอยู่ 2 ส่วน คือ เงินดาวน์ และ ค่าผ่อนบ้านรายเดือน ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ลองคำนวณค่าผ่อนบ้านต่องวดดูก่อนว่าเราผ่อนไหวจริงหรือไม่ หากอยากให้ค่าผ่อนบ้านต่องวดน้อยลง ก็ต้องเตรียมเงินดาวน์ให้มากพอ

เราอาจต้องใช้เวลาในการเก็บเงินดาวน์ ซึ่งเป็นเงินก้อน หากใช้เวลา 5 ปี อาจนำเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ กองทุนตราสารหนี้ หุ้นกู้ที่มี Rating ที่ดี หรืออาจแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในหุ้น แต่สัดส่วนไม่ควรสูงเกินไป เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้ชนะเงินเฟ้อ  

ในระหว่างที่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อบ้าน อาจเลือกเป็นการเช่าบ้านที่มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านที่อยากได้จริง ๆ ไปก่อน เพื่อดูว่าเราต้องการอยู่บ้านลักษณะนี้ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือไม่ ก่อนตัดสินใจซื้อจริง



เนื้อหานี้มีประโยชน์กับคุณแค่ไหน?

เป้าหมายเกษียณอายุในอีก 20 ปี

การเกษียณอายุเป็นหนึ่งในเป้าหมายการเงินที่สำคัญที่สุด เพราะเราต้องการเตรียมเงินก้อนใหญ่ไว้ใช้จ่ายหลังจากหยุดทำงาน วิธีเริ่มต้นคือการคำนวณก่อนว่า หลังเกษียณอยากมีรายได้ต่อเดือนเท่าไร และต้องเตรียมเงินประมาณกี่บาท เพื่อจะได้รู้ว่าเราต้องเก็บและลงทุนปีละเท่าไร

สำหรับระยะเวลา 20 ปี ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาว อาจเน้นลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีโอกาสเติบโต เช่น หุ้น กองทุนหุ้น กองทุน RMF และกระจายความเสี่ยงไปยังพันธบัตรหรือตราสารหนี้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสมดุลในพอร์ต

ทั้งนี้ เมื่อเวลาผ่านไปจนเราใกล้เกษียณ ควรทยอยปรับลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงสูง แล้วเพิ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้นและมั่นใจว่าจะมีเงินใช้แน่นอนหลังเกษียณ นอกจากนี้ อย่าลืมเตรียมตัวในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่น การเตรียมตัวก่อนเกษียณ วิธีบริหารเงินหลังเกษียณ การวางแผนภาษี และการจัดการมรดก

สรุปการจัดพอร์ตลงทุนตามระยะเวลา

การจัดพอร์ตลงทุนตามระยะเวลา แบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ เป้าหมายระยะสั้น เน้นสภาพคล่อง ความเสี่ยงต่ำ, เป้าหมายระยะกลาง ลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงปานกลางเพื่อชนะเงินเฟ้อ และเป้าหมายระยะยาว สามารถลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงสูงเพื่อสร้างการเติบโต อย่างไรก็ตาม ควรปรับพอร์ต กระจายการลงทุน และเลือกตามความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อเพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้จริง


อยากลงทุน แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง มาทางนี้

เริ่มต้นง่าย ๆ กับ 21-Day Challenge ได้เลย! ทั้งหุ้น กองทุนรวม หรือลงทุนต่างประเทศ ภารกิจเทรดเป็นใน 21 วัน เลือกเส้นทางที่ใช่ พร้อมก้าวสู่โลกการลงทุนอย่างมั่นใจ

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน