เมื่อเราตั้งเป้าหมายทางการเงินได้แล้ว แน่นอนว่าเราต้องหาวิธีเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมาย หลายคนอาจถามว่า “เราควรนำเงินไปลงทุนอะไรดี” หรือ “จะเก็บเงินไว้ที่ไหนดี” แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่เราต้องถามตัวเองก่อน นั่นคือ “เราลงทุนไปเพื่ออะไร” จึงนำมาสู่แนวคิดการจัดพอร์ตลงทุนตามเป้าหมายการเงิน
หลายคนที่เริ่มลงทุนเพราะอยากให้เงินงอกเงย แต่บางครั้งพอร์ตการลงทุนอาจไม่ตอบโจทย์เป้าหมายในชีวิต เช่น ต้องการเก็บเงินดาวน์บ้านภายใน 3 ปี แต่กลับนำเงินไปลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง หรือเริ่มทำงาน อยากวางแผนเกษียณในอีก 20 ปี แต่กลับนำเงินไปลงทุนในกองทุนตลาดเงินที่ให้ผลตอบแทนต่ำ
ดังนั้น การตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน เราจะรู้ว่า เงินก้อนนี้จะให้ไปกับอะไร เมื่อไหร่ และเสี่ยงได้แค่ไหน ช่วยให้การลงทุนของเราไม่หลงทาง เพื่อเลือกสินทรัพย์ได้อย่างเหมาะสมกับช่วงเวลาและความต้องการในชีวิต เพิ่มโอกาสได้ทำเป้าหมายในชีวิตให้สำเร็จ
วิธีตั้งเป้าหมายทางการเงินตามระยะเวลา ขึ้นอยู่กับความต้องการในชีวิตของแต่ละคน แบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งมีลักษณะเป้าหมายและวิธีการจัดพอร์ตลงทุนที่แตกต่างกัน
การจัดพอร์ตตามระยะเวลา ช่วยให้เราเลือกลงทุนได้เหมาะกับเป้าหมาย และยังทำให้เราจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลาได้ง่ายขึ้นอีก เช่น เป้าหมายเรียนต่อภายใน 3 ปีข้างหน้า เป็นเป้าหมายระยะกลางแต่สำคัญ เราอาจปรับลดเป้าหมายท่องเที่ยวในระยะสั้นลงบ้าง เพื่อโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ
นอกจากการจัดพอร์ตลงทุนตามระยะเวลาของเป้าหมายแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ การจัดพอร์ตให้เหมาะกับตัวเราเอง ซึ่งทำได้ดังนี้
ปรับพอร์ตตามสถานการณ์ : ราคาสินทรัพย์อาจปรับตัวขึ้นหรือลง ตามสถานการณ์ที่เข้ามากระทบ ดังนั้น ควรติดตามและปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ
การซื้อบ้านมีเงินที่ต้องจ่ายหลักอยู่ 2 ส่วน คือ เงินดาวน์ และ ค่าผ่อนบ้านรายเดือน ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน ลองคำนวณค่าผ่อนบ้านต่องวดดูก่อนว่าเราผ่อนไหวจริงหรือไม่ หากอยากให้ค่าผ่อนบ้านต่องวดน้อยลง ก็ต้องเตรียมเงินดาวน์ให้มากพอ
เราอาจต้องใช้เวลาในการเก็บเงินดาวน์ ซึ่งเป็นเงินก้อน หากใช้เวลา 5 ปี อาจนำเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ กองทุนตราสารหนี้ หุ้นกู้ที่มี Rating ที่ดี หรืออาจแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในหุ้น แต่สัดส่วนไม่ควรสูงเกินไป เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้ชนะเงินเฟ้อ
ในระหว่างที่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อบ้าน อาจเลือกเป็นการเช่าบ้านที่มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านที่อยากได้จริง ๆ ไปก่อน เพื่อดูว่าเราต้องการอยู่บ้านลักษณะนี้ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือไม่ ก่อนตัดสินใจซื้อจริง
การเกษียณอายุเป็นหนึ่งในเป้าหมายการเงินที่สำคัญที่สุด เพราะเราต้องการเตรียมเงินก้อนใหญ่ไว้ใช้จ่ายหลังจากหยุดทำงาน วิธีเริ่มต้นคือการคำนวณก่อนว่า หลังเกษียณอยากมีรายได้ต่อเดือนเท่าไร และต้องเตรียมเงินประมาณกี่บาท เพื่อจะได้รู้ว่าเราต้องเก็บและลงทุนปีละเท่าไร
สำหรับระยะเวลา 20 ปี ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาว อาจเน้นลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีโอกาสเติบโต เช่น หุ้น กองทุนหุ้น กองทุน RMF และกระจายความเสี่ยงไปยังพันธบัตรหรือตราสารหนี้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสมดุลในพอร์ต
ทั้งนี้ เมื่อเวลาผ่านไปจนเราใกล้เกษียณ ควรทยอยปรับลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงสูง แล้วเพิ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้นและมั่นใจว่าจะมีเงินใช้แน่นอนหลังเกษียณ นอกจากนี้ อย่าลืมเตรียมตัวในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เช่น การเตรียมตัวก่อนเกษียณ วิธีบริหารเงินหลังเกษียณ การวางแผนภาษี และการจัดการมรดก
การจัดพอร์ตลงทุนตามระยะเวลา แบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ เป้าหมายระยะสั้น เน้นสภาพคล่อง ความเสี่ยงต่ำ, เป้าหมายระยะกลาง ลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงปานกลางเพื่อชนะเงินเฟ้อ และเป้าหมายระยะยาว สามารถลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงสูงเพื่อสร้างการเติบโต อย่างไรก็ตาม ควรปรับพอร์ต กระจายการลงทุน และเลือกตามความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อเพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้จริง
อยากลงทุน แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง มาทางนี้
เริ่มต้นง่าย ๆ กับ 21-Day Challenge ได้เลย! ทั้งหุ้น กองทุนรวม หรือลงทุนต่างประเทศ ภารกิจเทรดเป็นใน 21 วัน เลือกเส้นทางที่ใช่ พร้อมก้าวสู่โลกการลงทุนอย่างมั่นใจ