หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจและกำลังจะเริ่มลงทุนในหุ้น IPO ลองสอบถามตัวเองดู ว่ารู้และเข้าใจ ในหุ้นตัวที่จะลงทุนมากพอหรือยัง การศึกษารายละเอียดข้อมูลก่อนลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนอื่นต้องตรวจสอบข้อมูลหุ้นว่าได้รับการอนุมัติขายให้กับประชาชนแล้วหรือยัง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่อยู่ระหว่างคำขอเข้าจดทะเบียน (Upcoming IPO) และดาวน์โหลดหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ คลิก หรือที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. ( www.sec.or.th )
หลังจากเช็กสถานะของหุ้นแล้วก็ต้องศึกษาข้อมูลสำคัญที่ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน
1 - เข้าใจธุรกิจ เพื่อพิชิตโอกาส
“ลักษณะธุรกิจ” เป็นพื้นฐานที่ผู้ลงทุนต้องเข้าใจเป็นอันดับแรก เนื่องจากจะเป็นข้อมูลสำคัญในการวิเคราะห์โอกาสการเติบโตของธุรกิจนั้นๆไปทิศทางใด เช่น ยอดขายของบริษัท สัดส่วนรายได้มาจากการขายสินค้าใดบ้าง ผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโดยรวม เพื่อให้ภาพเห็นภาพรวมของการแข่งขันชัดเจนขึ้น ปัจจุบันบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนจะมีด้วยกัน 2 ตลาด คือ
2 - โอกาสการเติบโต อยู่ตรงไหน อะไรคือความเสี่ยง
เราต้องทำให้เข้าใจภาพรวมของการดำเนินธุรกิจ โดยตามทฤษฎีเราจะสามารถวิเคราะห์ธุรกิจง่ายๆ ด้วยตัวเองโดยใช้ ปัจจัยกดดันทั้ง 5 ด้าน หรือ 5 Force Model คือ ประเมินสภาวะการแข่งขันภายในอุตสาหกรรม การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ มีสินค้าทดแทนหรือไม่ อำนาจต่อรองของผู้ซื้อ และอำนาจต่อรองกับผู้ขายวัตถุดิบ ซึ่งหากธุรกิจนั้นอยู่ในสภาวะแข่งขันกับธุรกิจอื่นได้ดี ก็มีโอกาสเติบโตได้สูงขึ้น และความเสี่ยงของแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกันถึงแม้จะอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ผู้ลงทุนสามารอ่านรายละเอียดความเสี่ยงของหุ้น IPO ได้ที่หนังสือชี้ชวน คลิก
3 - ระดมทุน แล้วเอาเงินไปทำอะไร
วัตถุประสงค์ของการระดมทุนเป็นเรื่องสำคัญ บริษัทที่เข้ามาระดมทุน ส่วนหนึ่งก็เพื่อนำเงินไปประกอบธุรกิจ ซึ่งวัตถุประสงค์ก็แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ เช่น ระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ ขยายหรือพัฒนาโครงการทั้งปัจจุบันและโครงการในอนาคต ระดมทุนเพื่อซื้อเครื่องจักร ระดมทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือแม้กระทั่งระดมทุนเพื่อชำระหนี้ ซึ่งต้องทราบ และศึกษาส่วนนี้ให้ละเอียดเพราะสะท้อนถึงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนกลับมายังผู้ถือหุ้นอย่างเราๆ ด้วย โดยสามารถอ่านข้อมูลในส่วนนี้ได้จากหนังสือชี้ชวน คลิก
4 - ต้องเข้าใจ “อัตราส่วนทางการเงิน”
เราสามารถเปรียบเทียบข้อมูลหุ้นใหม่ IPO กับหุ้นที่มีการประกอบธุรกิจในลักษณะเดียวกันด้วย “อัตราส่วนทางการเงิน” แม้ว่าในรายละเอียดของแต่ละบริษัทฯ จะแตกต่างกัน เช่น ความได้เปรียบเสียเปรียบ ความชำนาญ การบริหารจัดการ และผู้บริหาร แต่อีกหนึ่งข้อมูลที่เป็น“จุดเริ่มต้น” ที่ดีของผู้ลงทุนมือใหม่อย่างเรา ได้ใช้เป็นแหล่งข้อมูลตั้งต้นในการศึกษาได้
อัตราส่วนทางการเงินที่นิยมใช้ในการเปรียบเทียบ เช่น
(ผู้ลงทุนศึกษา 7 อัตราส่วนทางการเงินที่นิยมใช้ได้ที่นี่ คลิก)
5 - หาอ่านบทวิเคราะห์ดู รู้มูลค่าที่เหมาะสม
เมื่อเข้าใจตัวบริษัทที่จะเข้ามาซื้อขายเบื้องต้น สรุปสาระสำคัญและมูลค่าที่เหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว อีกแหล่งข้อมูลสำคัญคือบทวิเคราะห์การลงทุนถือ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการลงทุนอย่างหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมาก โดยบทวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือควรถูกจัดทำโดยนักวิเคราะห์การลงทุนที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมักมีข้อมูลที่หลากหลายประกอบกัน เช่น ข้อเท็จจริงของบริษัท ซึ่งเป็นข้อมูลจริงที่เกิดขึ้นและเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว, ความคิดเห็นของบริษัท, ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์การลงทุน จะได้นำผลการวิเคราะห์มาเปรียบเทียบจากหลายๆ แหล่ง เพื่อให้มีข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจได้มากที่สุด
ปัจจุบัน เราหาข้อมูลบทวิเคราะห์การลงทุนได้จากจากหลายแหล่ง โดยเฉพาะเว็บไซต์ ทั้งจากบริษัทหลักทรัพย์และผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriter) แต่สิ่งสำคัญผู้ลงทุนต้องแยกระหว่างข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นออกจากกัน (คลิกอ่านบทวิเคราะห์ได้ที่นี่)
6 - ลงทุนที่ไหน ยังไง กับใครดี
เราสามารถซื้อ “ หุ้น IPO” ได้ใน 2 ลักษณะ คือ
ผู้ลงทุนสามารถศึกษาวิธีการรับหุ้น IPO ได้จาก
https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/investhow-recieve-ipo
และสุดท้ายนี้มาเช็กลิสต์ 4 สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ต้องมีกันดีกว่า
https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/145-timelinefornewinvestor