เลือกหุ้นแบบไหน ได้รับปันผลตลอด

 การลงทุนในหุ้น คือ การลงทุนในธุรกิจ หากเราเลือกลงทุนในธุรกิจที่ดี มีความสามารถในการแข่งขันสูง ธุรกิจก็จะมีผลกำไรที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลเป็นการตอบแทนให้กับนักลงทุนระหว่างการถือหุ้นนั้นๆ

การหา “หุ้นปันผลสูง” จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักลงทุนหลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะคนที่อยากถือหุ้นลงทุนยาวๆ สร้างกระแสเงินสดกลับมาสม่ำเสมอ ยิ่งในช่วงที่ตลาดผันผวน เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ หุ้นกลุ่มนี้ยิ่งดูน่าสนใจ มีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมากทีเดียว

เทคนิคการเลือกหุ้นปันผล

การจะเลือกหุ้นปันผลสักตัวไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญหลายอย่าง บริษัทมีฐานะการเงินอย่างไร กระแสเงินสดดีแค่ไหน มีสภาพคล่องมากไหม และปันผลสม่ำเสมอรึเปล่า เอาเป็นว่า... ใครอยากรู้และอยากได้หุ้นปันผลมาครอบครอง เราลองมาดูเทคนิคการเลือกหุ้นปันผลกันดีกว่า

1
เป็นธุรกิจที่ดีมีการเติบโต

หัวใจสำคัญของหุ้นปันผล คือ ต้องเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่ดี ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของกิจการ เราต้องพิจารณา “ความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจ” โดยเลือกหุ้นที่มีจุดแข็งในการแข่งขันกับคู่แข่ง ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งขันน้อยรายหรือหน้าใหม่เข้ามาในธุรกิจได้ยาก ก็ยิ่งดี รวมไปถึงพิจารณา “อนาคตการเติบโตของกิจการ” โดยเลือกธุรกิจที่มีแนวโน้มไปต่อได้และยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว

2
มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง
image-stock-6-1

•    โครงสร้างหนี้เหมาะสม
การที่บริษัทจะจ่ายปันผลได้ต้องมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถดูได้จากโครงสร้างหนี้ว่ามี “หนี้สินต่อทุน” (D/E Ratio) มากเกินไปหรือไม่” และหนี้สินที่มีอยู่เป็นหนี้ระยะสั้นหรือระยะยาว เพราะหากมีหนี้ระยะสั้นจำนวนมาก บริษัทอาจต้องใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อจ่ายหนี้ในเวลาอันใกล้ อาจทำให้ความพร้อมที่จะปันผลน้อยลง

•    กำไรสะสมเป็นบวก
นอกจากดูโครงสร้างหนี้แล้ว เรายังสามารถดูจาก “กำไรสะสม” โดยปกติบริษัทจดทะเบียนจะนำกำไรส่วนที่เหลือจากการปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมาเก็บเป็นกำไรสะสม หากบริษัทไหนยังขาดทุนสะสมอยู่ แม้จะมีกำไรสุทธิระหว่างงวด แต่บริษัทอาจพิจารณานำกำไรเหล่านั้นไปชดเชยในส่วนที่ยังขาดทุนสะสมอยู่ ทำให้ผู้ถือหุ้นอาจไม่ได้รับเงินปันผลก็ได้

•    กระแสเงินสดเป็นบวก
นอกจากดูโครงสร้างหนี้แล้ว เรายังสามารถดูจาก “กำไรสะสม” โดยปกติบริษัทจดทะเบียนจะนำกำไรส่วนที่เหลือจากการปันผลให้กับผู้ถือหุ้นมาเก็บเป็นกำไรสะสม หากบริษัทไหนยังขาดทุนสะสมอยู่ แม้จะมีกำไรสุทธิระหว่างงวด แต่บริษัทอาจพิจารณานำกำไรเหล่านั้นไปชดเชยในส่วนที่ยังขาดทุนสะสมอยู่ ทำให้ผู้ถือหุ้นอาจไม่ได้รับเงินปันผลก็ได้

3
มีสภาพคล่องในการซื้อขาย

หุ้นปันผลที่ดีนอกจากจะมีฐานะการเงินแข็งแกร่งแล้วต้องมี “สภาพคล่อง” สูงด้วย เพราะต่อให้เป็นหุ้นที่ให้ปันผลดี แต่มีสภาพคล่องน้อย การซื้อขายแต่ละครั้งอาจทำได้ยากและต้องใช้เวลานาน ดังนั้น ควรเลือกหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่พอสมควร เช่น หุ้นในกลุ่ม SET50 หรือหุ้นในกลุ่ม SET High Dividend 30 Index

4
จ่ายปันผลสม่ำเสมอ

เราควรประเมินแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เพื่อประเมินว่าบริษัทจะสามารถจ่ายปันผลได้หรือไม่ และยังต้องพิจารณาอีกว่าเงินปันผลที่นำมาจ่ายนั้นมาจากการดำเนินงานไม่ใช่ “กำไรพิเศษ” ที่อาจเกิดขึ้นครั้งเดียว ซึ่งอาจส่งผลต่อความสม่ำเสมอของการจ่ายปันผลได้ และนึกอยู่เสมอว่าการจ่ายปันผลในอดีตไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดได้ทั้งหมด

โดยทั่วไปเราจะดูความสม่ำเสมอในการจ่ายปันผลจาก “อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน” (Dividend Yield) ซึ่งอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะอยู่ที่ประมาณ 3% ดังนั้น หุ้นปันผลที่เราควรลงทุน อาจต้องให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยและเมื่อรวมกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 1-2% ต่อปี เท่ากับว่า... อัตราเงินปันผลตอบแทนที่เราควรได้จากหุ้นปันผลควรมากกว่า 4-5% ต่อปี

หุ้นปันผลเหมาะกับใครบ้าง?

หุ้นแต่ละสไตล์จะเหมาะกับนักลงทุนแต่ละประเภทแตกต่างกันออกไป สำหรับหุ้นปันผลจะเหมาะกับ นักลงทุนระยะยาว  เนื่องจากหุ้นที่พื้นฐานธุรกิจดีมีอนาคตเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงควรมีช่วงระยะเวลาเพียงพอที่จะรอให้กิจการเติบโต และรอเก็บผลตอบแทนจากเงินปันผลในอนาคต

นอกจากนี้ ยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่อง เนื่องจากเงินปันผลที่นักลงทุนได้รับจะช่วยสร้างสภาพคล่องระหว่างการถือหุ้นของนักลงทุนด้วย หากใครที่ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอเป็นเงินสดทุกๆ ปี ในรูปแบบ Passive Income หุ้น
image-stock-6-2
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับหุ้นปันผล
นอกจากเรื่องที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ยังมีเรื่องสำคัญที่นักลงทุนมือใหม่จะต้องทำความเข้าใจ ได้แก่ เครื่องหมายเกี่ยวกับการรับปันผล และดัชนีที่เกี่ยวข้องกับหุ้นปันผล
image-stock-6-3

เครื่องหมาย XD นักลงทุนหลายคนอาจสับสนว่าซื้อหุ้นตอนไหนถึงจะได้รับปันผล ต้องบอกว่าโดยปกติตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย XD (Excluding Dividend) เพื่อแสดงให้นักลงทุนทราบว่า... หากเราซื้อหุ้นในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD แปลว่าเราจะไม่มีสิทธิรับปันผลในงวดนั้นๆ ดังนั้น หากต้องการได้รับปันผล ก็ควรซื้อก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD

btn-stock-6-1
image-stock-6-4

ดัชนี SETHD เป็นดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น 30 ตัวที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง สภาพคล่องการซื้อขายอยู่ในเกณฑ์ดี มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทเหล่านี้มักจะมีนโยบายจ่ายเงินปันผลมากกว่า 85% ของกำไรในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยรายชื่อหุ้นที่ใช้ในการคำนวณดัชนีจะมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนทุก 6 เดือน เพื่อให้ดัชนีสะท้อนสถานการณ์การลงทุนที่เกิดขึ้น

btn-stock-6-2
image-stock-6-4

เมื่อได้หุ้นปันผลที่ดีแล้ว การเข้าลงทุนในจังหวะในที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ หากเราเข้าลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นปรับลง และเน้นการลงทุนระยะยาว จะทำให้ต้นทุนราคาหุ้นของเราอยู่ในระดับต่ำและมีโอกาสได้รับเงินปันผลสูง อย่าลืม!!! ประเมินสถานการณ์อื่นๆ ที่อาจส่งกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัทด้วย เพราะอาจมีผลต่อการจ่ายปันผลโดยตรง
เพียงเท่านี้... เราก็จะมีหุ้นปันผลดีๆ
ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดกลับเข้ากระเป๋าเราอย่างสม่ำเสมอได้ยาวๆ แล้ว