ก้าวแรกในตลาดอนุพันธ์ ควรเริ่มด้วยสินค้าไหนดี

โดย ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
3 Min Read
26 พฤศจิกายน 2563
1.832k views
TSI_Article_098_Inv_Thumbnail
Highlights
  • SET 50 Index Futures เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะเป็นเครื่องมือการเงินที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย สามารถศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง

  • ข้อดีของการลงทุนใน SET 50 Index Futures คือ สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง

  • ไม่เพียงที่ SET 50 Index Futures จะเป็นผู้ช่วยในการบริหารพอร์ตลงทุน ยังช่วยเพิ่มระดับผลตอบแทนและเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนไม่มาก

“จะเริ่มลงทุนในหุ้น หรือเก็งกำไรในอนุพันธ์ก่อนดี? เป็นคำถามที่ได้ยินกันบ่อยๆ ขอบอกว่า... อย่าเพิ่งนำ “หุ้น” กับ “อนุพันธ์” มาเปรียบเทียบกัน เพราะ “หุ้น” เป็นสินทรัพย์ลงทุน ส่วน “อนุพันธ์” เป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อลดความเสี่ยง และช่วยสร้างกำไรให้ได้ในทุกสภาวะตลาด


ด้วยลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งในมุมของผลตอบแทนและความเสี่ยง จึงไม่สามารถมาเปรียบเทียบกันได้ว่าควรเลือกลงทุนในอะไรก่อนดี


SET50 Index Futures สินค้าตัวแรกของตลาดอนุพันธ์


แต่หากนักลงทุนสนใจลงทุนอนุพันธ์ว่าควรเริ่มต้นที่สินค้าไหนระหว่าง Futures กับ Options ก็ต้องบอกว่า... สินค้าแรกที่ตลาดอนุพันธ์หรือ TFEX เปิดให้มีการซื้อขายก็คือSET50 Index Futures” ซึ่งเป็นฟิวเจอร์สที่ราคาซื้อขายอ้างอิงกับตัวดัชนี SET50


หลังจาก SET50 Index Futures เปิดให้ลงทุนไม่นาน พบว่าถูกใจนักลงทุนอย่างมาก ในแวดวงนักลงทุนคงทราบกันดีว่า... กิจวัตรประจำวันทุกเช้า คือ รีบดูข้อมูลตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาว่ามีทิศทางเป็นอย่างไร ลบหรือบวกด้วยเหตุผลอะไร เพื่อนำมาประเมินทิศทางดัชนีหุ้นไทยว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่


โดยเฉพาะถ้าวันนั้นตลาดหุ้นไทยไม่มีปัจจัยที่โดดเด่น นักลงทุนมักจะใช้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดต่างประเทศมาเป็นปัจจัยในการประเมิน เช่น ถ้าตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับลดลง บรรยากาศการซื้อขายวันนั้นก็จะไม่สดใส แต่ถ้าตลาดหุ้นดาวโจนส์เขียวยกแผง นักลงทุนจะอารมณ์ดี ทำให้บรรยากาศการซื้อขายวันนั้นคึกคักตามไปด้วย


ด้วยความที่นักลงทุนคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นทุกเช้าอยู่แล้ว จะว่าไปก็ดีเหมือนกันที่จะซื้อขายดัชนีไปเลย เพราะบางครั้งได้หุ้นถูกใจ แต่ซื้อขายไม่ถูกจังหวะอาจไม่ประสบความสำเร็จ เช่น หุ้นตัวอื่นขึ้นกันถ้วนหน้า แต่หุ้นที่เราเลือกกลับปรับลดลงสวนตลาด ทั้งที่วันนั้นประเมินถูกว่าตลาดหุ้นจะขึ้น แต่ดันเลือกหุ้นผิดตัว ดังนั้น ซื้อขายที่ดัชนีโดยตรงไปเลย ซึ่ง SET50 Index Futures” ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด


แล้วทำไมต้องเป็น
SET50 Index Futures? ไม่ใช่ SET Index Futures


จริงอยู่ที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของ SET Index มากกว่า SET50 Index แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศส่วนใหญ่จะลงทุนตามดัชนี (Index or Passive Fund) และเลือกลงทุนตาม SET50 Index มากกว่าที่จะซื้อหุ้นทั้งตลาด


อีกทั้ง SET50 Index Futures จะเคลื่อนไหวตามราคาหุ้นขนาดใหญ่ 50 บริษัทในกลุ่ม SET50 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ความผันผวนของราคาจะต่ำ เพราะเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องดีและมีขนาดใหญ่ มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี


ถึงแม้ว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นทุกตัวที่อยู่ในดัชนี SET50 Index แต่การมี SET50 Index Futures มาให้ใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน จึงน่าจะเหมาะกว่า พูดง่ายๆ คือ เป็นการขายสินค้าที่น่าจะมีผู้ซื้อแน่ๆ นั่นเอง!!!


หลังจากเปิดให้เริ่มซื้อขาย SET50 Index Futures เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2549 นักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนมากถึง 52% ของปริมาณการซื้อขายรวม รองลงมาเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศ 37% ของปริมาณการซื้อขายรวม ที่เหลือเป็นนักลงทุนต่างชาติ 11% ของปริมาณการซื้อขายรวม


เมื่อ SET50 Index Futures เริ่มติดตลาด ตลาดอนุพันธ์ก็ออกสินค้าอื่นๆ ตามมา ทั้ง SET50 Index Options ตามด้วย Single Stock Futures, Gold Futures, Interest Rate Futures, Silver Futures, Oil Futures, USD Futures, Sector Futures และปิดท้ายที่ RSS3 Futures


มือใหม่... เริ่มที่
SET50 Index Futures


หากใครที่เข้าใจอนุพันธ์ ทั้ง Futures และ Options เป็นอย่างดี คงเลือกสินค้าที่เหมาะกับการใช้ประโยชน์ของตัวเองได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดอนุพันธ์ อาจลองใช้ประโยชน์จาก SET50 Index Futures” ก่อน


โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือน เพราะอาจมีการซื้อหุ้นผ่านการเก็บเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนรวม RMF อยู่แล้ว นั่นหมายความว่า... กำลังมีความเสี่ยง หากคาดว่าตลาดหุ้นจะเป็นขาลง ก็สามารถเลือกใช้ SET50 Index Futures โดยการเปิดสถานะ Short” เพื่อป้องกันความเสี่ยงในบางช่วงที่ไม่มั่นใจในทิศทางตลาดหุ้น หรืออาจเปิดสถานะ Long” เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตกองทุนดังกล่าว เมื่อคาดว่าตลาดหุ้นจะเป็นขาขึ้นแน่ๆ


ส่วนจังหวะเวลาในการ Long หรือ Short ใน SET50 Index Futures เพื่อบริหารพอร์ตการลงทุน ให้ทำเฉพาะช่วงที่มั่นใจสุดๆ ก็พอ เพราะการใช้อนุพันธ์บริหารความเสี่ยง นอกจากจะมีต้นทุนในการทำธุรกรรมแล้ว หากถัวความเสี่ยงผิดทางอาจทำให้เกิดผลขาดทุนจากทั้งพอร์ตหุ้นและอนุพันธ์ได้ โดยการหาจังหวะการถัวความเสี่ยง ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของนักวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือผู้ให้คำแนะนำมาช่วยในการตัดสินใจในการลงทุน

สำหรับนักลงทุนที่สนใจอยากเทรดอนุพันธ์เพื่อเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยง ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม ผ่าน e-Learning หลักสูตร
“ลงทุนอนุพันธ์ฉบับมือใหม่” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่

แท็กที่เกี่ยวข้อง: