ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อซื้อกองทุนรวมแล้ว นักลงทุนย่อมคาดหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่ในโลกความเป็นจริงแล้ว การลงทุนมีทั้งกำไรและขาดทุน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติ ที่ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมปรับลดลง บางกองทุนติดลบ จึงมีคำถามตามมาว่า หากกองทุนรวมที่ลงทุนไว้มีผลขาดทุนหรือติดลบ ควรทำอย่างไร?
ทำไม
กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง จะมีความผันผวนระยะสั้น ดังนั้น หากผู้ลงทุนดูผลตอบแทนในช่วงเวลาระยะสั้น ก็มีโอกาสที่กองทุนรวมดังกล่าวจะ “ติดลบ” ได้ ที่สำคัญกองทุนรวมถูกออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนจะได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ บลจ. เสมอว่า กองทุนรวมมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีใน 3 – 5 ปีข้างหน้า
ยกเว้น การลงทุนในกองทุนรวม ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารสภาพคล่องหรือเพื่อพักเงินระยะสั้น เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีนโยบายนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอายุตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี ถ้าเป็นกองทุนรวมที่มีวัตถุประสงค์หรือลักษณะดังกล่าว นักลงทุนควรดูผลตอบแทนระยะสั้นมากกว่าระยะยาว
ทำอย่างไร
ถึงแม้ว่า ไม่มีอะไรที่รับรองได้ว่าในอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า ผลตอบแทนของกองทุนรวมจะเป็นอย่างไร แต่การลงทุนในกองทุนรวมระยะยาวมักจะประสบความสำเร็จมากกว่าล้มเหลว ขณะเดียวกัน นักลงทุนควรปรับทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมว่า กองทุนรวมนั้นเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนระยะยาว เช่น 3 – 5 ปีขึ้นไป
ทำไม
ข้อมูลจาก บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวไว้ว่า ไม่มีสินทรัพย์ใดที่กองทุนรวมลงทุนแล้วได้กำไรตลอดเวลา หมายความว่า หากเกิดวิกฤติหรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ย่อมทำให้ราคาหรือมูลค่าของสินทรัพย์ลงทุนปรับขึ้นหรือปรับลดลงได้
ทำอย่างไร
หากมั่นใจว่าผู้จัดการกองทุนและทีมงาน มีความสามารถในการบริหารจัดการ เช่น สามารถปรับพอร์ตสินทรัพย์ของกองทุนรวมนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ให้ถือต่อไป เพราะเมื่อผ่านพ้นวิกฤติในระยะสั้น กองทุนก็มีโอกาสกลับมาสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ดังเดิม
แต่หากประเมินแล้วว่า สินทรัพย์ที่กองทุนรวมเข้าไปลงทุนนั้นอาจมีปัญหาระยะยาว และอาจส่งผลให้กองทุนไม่สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว บล.ไทยพาณิชย์ แนะนำให้พิจารณาเปลี่ยนกองทุน และเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์ลงทุนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้
ทำไม
โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการบริหารงานหรือนโยบายของกองทุนนั้นไม่เหมาะสม เช่น เปลี่ยนผู้จัดการกองทุนที่ดูแลการลงทุน เปลี่ยนนโยบายกองทุน การลงทุนไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ หรือไม่เป็นไปตามนโยบายการจัดตั้งกองทุน เช่น ไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ที่อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของนักลงทุนได้
ทำอย่างไร
บล.ไทยพาณิชย์ แนะนำให้ขาย แล้วนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนใกล้เคียงกัน โดยให้พิจารณาการบริหารงานของกองทุนนั้นว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หรือมีการลงทุนที่เป็นไปตามนโยบายที่วางไว้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อกองทุนรวมที่ลงทุนมีผลตอบแทนติดลบ อย่าเพิ่งเสียขวัญหรือตื่นตระหนก รีบขายกองทุนออกไปเสียก่อน แต่ควรวิเคราะห์หาสาเหตุก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนำมาประเมินและตัดสินใจอย่างมีสติว่ากองทุนรวมนั้นยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาวได้หรือไม่
สำหรับใครที่ลงทุนในกองทุนรวม และอยากรู้เทคนิคการเลือกกองทุนรวม พร้อมสร้างและบริหารพอร์ตกองทุนรวมด้วยตนเอง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “กองทุนรวม The Series” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่