ถ้าต้องเลือกออมและลงทุนเพื่อประหยัดภาษี มีทางเลือกผ่านกองทุนรวมอยู่ 2 ประเภทที่คุ้นหูและหลายคนรู้จักกันดี คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีหลายคนที่ลังเลว่ากองทุนรวมแบบไหนที่ใช่และเหมาะกับตัวเอง จึงมีตัวเปรียบเทียบและคำแนะนำเบื้องต้นมาให้พิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน
ความเหมือนและความแตกต่างของ RMF และ SSF
ความเหมือน | ||
| RMF | SSF |
นโยบายการลงทุน | ลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภททั้งในประเทศและต่างประเทศ | ลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภททั้งในประเทศและต่างประเทศ |
จำนวนเงินขั้นต่ำในการลงทุน | ไม่มี | ไม่มี |
%วงเงินลดหย่อนภาษี | ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน | ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน |
ความแตกต่าง | ||
| RMF | SSF |
วงเงินสูงสุดที่ซื้อได้ | ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ ต้องรวมกับวงเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญ กองทุนการออมแห่งชาติ และกองทุนรวมเพื่อการออม | ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี |
ซื้อได้ถึงเมื่อไร | ซื้อได้ตลอด | ปี 2567 |
นโยบายจ่ายเงินปันผล | ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล | จ่ายเงินปันผลได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายจ่ายเงินปันผลของแต่ละกองทุน แต่อย่าลืมว่า |
ความต่อเนื่องของการลงทุน | ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หยุดได้ปีเว้นปี | ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่อง |
เงื่อนไขจำนวนปีที่ถือครอง | ต้องลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี (นับจำนวนปีแบบ | 10 ปี นับจำนวนปีแบบวันชนวัน โดยนับแยกเงินลงทุนแต่ละก้อนที่ลงทุนด้วย |
RMF และ SSF เหมาะกับใคร
เหมาะกับใคร | ||
| RMF | SSF |
ถ้าคุณต้องการวางแผนลงทุนพร้อม | เงินลงทุนหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ เงินลงทุนต้องเป็นเงินเย็น เพราะต้องถือยาวจนถึงอายุ 55 ปี | เงินลงทุนหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้เงินลงทุนต้องเป็นเงินเย็นที่จะไม่ใช้ในอีก 10 ปีข้างหน้า |
ถ้าคุณต้องการเก็บเงินวางแผนเกษียณ
| มีวัตถุประสงค์จัดตั้งมาให้ผู้มีอาชีพอิสระไม่มีนายจ้าง หรือผู้ที่ต้องการวางแผนเกษียณสามารถลงทุนเก็บออมเพื่อเกษียณโดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี | สามารถใช้เป็นตัวช่วยวางแผนเกษียณได้ |
ถ้าคุณอยากรับผลตอบแทนสม่ำเสมอชอบรับเงินปันผลระหว่างการลงทุน | ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพราะต้องการให้คุณเก็บออมเงินลงทุนและผลตอบแทนไว้ใช้ในยามเกษียณ | มีกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อเปิดโอกาสให้คุณได้รับผลตอบแทนในช่วงเวลาที่ลงทุน แต่เงินปันผลต้องเสียภาษี |
ถ้าคุณมีอาชีพอิสระและรายได้ไม่แน่นอนหรืออยากลงทุนแค่ปีนี้ปีเดียว | ไม่เหมาะ เพราะต้องลงทุนต่อเนื่อง | เหมาะ เพราะลงทุนปีต่อปี ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่อง |
ถ้าคุณเป็นคนอายุน้อยต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก | ไม่เหมาะ เพราะต้องลงทุนต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปี | เหมาะ เพราะเงินลงทุนแต่ละปี ต้องถือครองยาว 10 ปี แต่ไม่มีเงื่อนไขต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปี |
ถ้าคุณเป็นคนอายุน้อย แต่ต้องการเริ่มเก็บเงินเพื่อวางแผนเกษียณ | เหมาะ เพราะสร้างวินัยในการออม พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี และยิ่งเริ่มลงทุนเร็วยิ่งดี | เหมาะ เพราะได้สิทธิลดหย่อนภาษี และยิ่งเริ่มลงทุนเร็วยิ่งดี |
ถ้าคุณเป็นคนอายุใกล้เกษียณ เช่น | เหมาะ เพราะ RMF จะถือครองสั้นกว่า คือลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี จนถึงอายุครบ 55 ปี และเมื่อครบเงื่อนไขการลงทุนแล้ว สามารถขายคืนหน่วยลงทุนใน RMF ได้ทั้งหมดทุกก้อน เพื่อนำมาใช้ในวัยเกษียณ หรือจะเลือกถือต่อก็ทำได้ | ไม่เหมาะ เพราะเงินลงทุนในแต่ละปี ต้องถือยาว 10 ปี เช่น ปีนี้อายุ 55 ปี ซื้อ SSF ปีนี้ก็ต้องถือยาวจนอายุ 65 ปี และถ้าปีต่อมาซื้ออีกตอนอายุ 56 ปี ก็ต้องถือยาวจนอายุ 66 ปี |
ถ้าคุณเป็นคนเกษียณแล้ว แต่ยังมีรายได้และอยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษี เช่นไปทำงานเป็นที่ปรึกษา เป็นต้น | เหมาะ แต่ต้องถามว่าจะมีรายได้ที่ต้องเสียภาษี (รายได้พึงประเมิน) ต่อเนื่อง 5 ปีหรือไม่ เพราะถ้าซื้อแล้วต้องลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี แต่มีรายได้พึงประเมินแค่ปีเดียว ก็ไม่เหมาะที่จะลงทุน | เหมาะ แต่ต้องถามว่า เงินนี้เป็นเงินเย็นและจะไม่ใช้ในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือไม่ ดังนั้น ถ้าการทำงานหลังเกษียณ เพื่อนำรายได้มาใช้ในชีวิตประจำวันในแต่ละปี ก็ไม่เหมาะที่จะลงทุน |
ทั้งนี้ ในการวางแผนภาษี สิ่งสำคัญที่สุด คือ อย่าลืมคำนวณวงเงินสูงสุดที่ซื้อได้ และเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม เพราะถ้าผิดเงื่อนไขนอกจากต้องคืนภาษี ยังมีเบี้ยปรับเงินเพิ่ม และอาจต้องเสียภาษีกำไรจากการขายอีกด้วย ดังนั้น เงินลงทุนควรเป็นเงินเย็น ที่วางแผนเก็บออมแยกจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเรียบร้อยแล้ว
สำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค การวิเคราะห์ GDP รวมไปถึงการใช้นโยบายการเงินและนโยบายการคลังของภาครัฐ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และจับทิศทางการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจนั้น ๆ ได้ และค้นหาหุ้นเด็ดในแต่ละช่วงเวลา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม ผ่าน e-Learning หลักสูตร “Macro Analysis” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่