อยากมีเงินใช้เดือนละ 10,000 บาท ต้องทำอย่างไร

โดย มยุรี โชวิกรานต์ CFP®, CISA รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่าย Smart Wealth Consulting บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
3 Min Read
26 พฤศจิกายน 2563
2.447k views
TSI_Article_089_Inv_Thumbnail
Highlights
  • หากต้องการลงทุน เพื่อสร้างรายได้ต่อเดือนอย่างสม่ำเสมอ (Passive Income) และต้องการลดโอกาสสูญเสียเงินต้นหรือลดความผันผวน กองทุนรวมถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยได้

  • การลงทุนในกองทุนรวมที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ จะทำให้นักลงทุนมีรายได้หรือกระแสเงินสดเข้ามาอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน โดยกองทุนรวมสามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินปันผลได้เฉลี่ยปีละ 4 - 5%

  • วิธีลงทุนที่ดีและมีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง คือ การลงทุนแบบสม่ำเสมอทุกๆ เดือน (DCA) เพราะยิ่งมีเวลาในการสร้างเงินต้นนานเท่าไหร่ การลงทุนแบบ DCA ผ่านกองทุนรวมจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ถ้ามีใครเดินมาถามว่า “ถ้าอยากมีเงินใช้ ต้องทำอย่างไร” คำตอบคงหนีไม่พ้น “ก็ลงมือทำงาน” แต่ถ้าถามว่า “อยากมีเงินใช้ทุกเดือนหรือเปล่า โดยที่ไม่ต้องลงมือทำงาน แต่ให้เงินทำงานแทน” น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องการ


การที่มีเงินใช้ทุกเดือนโดยไม่ต้องออกแรง จะมองว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากในการลงมือทำ เพราะขึ้นอยู่กับเงินต้นที่เริ่มลงทุนว่าควรมีเท่าไร? และ ผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนเฉลี่ยต่อปีควรเป็นเท่าไร?


เช่น ต้องการรายได้ 10,000 บาทต่อเดือน หมายความว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนจะต้องไม่ต่ำกว่า 120,000 บาทต่อปี หากตั้งโจทย์นี้ไว้ในใจแล้วก็เริ่มลงมือคำนวณหาเงินต้นที่จะสร้างรายได้ต่อเดือนอย่างสม่ำเสมอ หรือเรียกว่า Passive Income ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามระดับผลตอบแทนจากการลงทุนที่คาดหวังในแต่ละปี

TSI_Article_089_Inv_อยากมีเงินใช้เดือนละ 10,000 บาท ต้องทำอย่างไร_01

จากตารางข้างต้น หากลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1% ต่อปี ก็ต้องเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 12 ล้านบาท ฟังดูก็น่าจะหมดกำลังใจในการเริ่มต้นแล้ว อีกทั้งผลตอบแทนระดับนี้ ไม่สามารถชนะเงินเฟ้อในระยะยาวได้


ดังนั้น หากหาทางเลือกของการลงทุนแบบอื่นๆ เช่น หุ้น ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเฉลี่ย 10 ปี (ปี 2552 - 2561) อยู่ที่ 8% ต่อปี บวกกับเงินปันผลราว 3% ต่อปี ก็ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นระดับล้านบาทกว่าๆ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา คือ ความไม่แน่นอนในการลงทุน โอกาสสูญเสียเงินต้นก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน (High Risk High Return)


ดังนั้น จะดีกว่าหรือไม่หากเลือกลงทุนด้วยการเน้นสร้างรายได้สม่ำเสมอ (Passive Income) เพื่อลดโอกาสสูญเสียเงินต้นหรือลดความผันผวน ด้วยการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระจายความเสี่ยงของการลงทุนได้เป็นอย่างดี


การลงทุนในกองทุนรวม สามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินปันผลได้เฉลี่ยปีละ 4 - 5% หมายความว่า ต้องใช้เงินลงทุนตั้งต้นในการสร้าง Passive Income ประมาณ 2.4 - 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่ไกลเกินเอื้อม


การคัดเลือกกองทุนรวมที่เน้นจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ


นักลงทุนควรพิจารณาจาก...

  1. ประเภทของกองทุนรวม หากต้องการผลตอบแทนเฉลี่ย 4 - 5% ต่อปี เช่น กองทุนรวมกึ่งตราสารหนี้ที่เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ กองทุน REIT และ Infrastructure Fund (IFF) ที่ลงทุนเฉพาะประเทศไทยและ/หรือกระจายพอร์ตการลงทุนไปในต่างประเทศ
  2. ประวัติการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในช่วง3 - 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นอัตราอ้างอิงผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี
  3. ค่าบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ (Expense Ratio)ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่แฝงใน NAV ที่กองทุนรวมจะหักเป็นรายวัน โดยที่นักลงทุนไม่เห็นเป็นตัวเงิน รวมถึงค่าธรรมเนียมการขาย - การซื้อคืน เพราะแต่ละกองทุนจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่เท่ากัน


โดยควรคัดเลือกกองทุนประเภทเดียวกัน 4 - 5 กองทุน เพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน ผลตอบแทนจากเงินปันผล และค่าใช้จ่ายต่างๆ จากนั้นก็เลือกกองทุนที่ตอบโจทย์ตัวเองได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม หากวางเป้าหมายที่จะมี Passive Income ในระยะยาว เช่น 10 ปีข้างหน้า หรือหลังเกษียณจากการทำงาน ควรเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างฐานของเงินต้นที่จะนำไปสู่การสร้าง Passive Income ในอนาคต


เริ่มต้นสร้างฐานของเงินต้น ด้วยการลงทุนแบบ
DCA


วิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพวิธีหนึ่งในการสร้างฐานของเงินต้น คือ การลงทุนแบบสม่ำเสมอทุกๆ เดือน (Dollar Cost Average : DCA) ยิ่งมีเวลาในการสร้างเงินต้น เช่น 10 ปีขึ้นไป การลงทุนแบบ DCA ผ่านกองทุนรวมจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


การลงทุนในปัจจุบันมีความหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทุนรวมซึ่งมีจุดเด่นในการกระจายความเสี่ยงภายในกองทุน แต่การเลือกลงทุนในกองทุนรวมแบบใด อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การลงทุนของตัวเองเป็นสำคัญ บนระดับความเสี่ยงที่รับได้มากน้อยเพียงใด


การสร้าง Passive Income ถือว่าเป็นโจทย์ที่สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องศึกษาลักษณะของกองทุน ประวัติการจ่ายเงินปันผล ค่าบริหารจัดการ ค่าธรรมเนียมการซื้อ - ขายคืน และนำมาเปรียบเทียบกับกองทุนรวมประเภทเดียวกัน เพื่อเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับตัวเองให้ได้มากที่สุด


การลงทุนเพื่อสร้าง
Passive Income ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยาก คือ การเริ่มลงมือลงทุน ถ้าทำได้รับรองมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต


สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม เพื่อสร้าง Passive Income แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “ลงทุนกองทุนรวมฉบับมือใหม่” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่


หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน

แท็กที่เกี่ยวข้อง: