เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการออมระยะยาว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการซื้อกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund : SSF) และการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund : RMF) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมระยะยาวมากขึ้น ซึ่งการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจะมุ่งเน้นให้กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงน้อยและผู้ที่เริ่มต้นวัยทำงานได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการจูงใจให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวเริ่มต้นการออมระยะยาวโดยเร็ว
แล้วกองทุน SSF ต่างจากกองทุน LTF ยังไงนะ?
กองทุน SSF หรือ Super Savings Fund คือ กองทุนเพื่อการออมที่ให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีที่ออกมาใหม่ เพื่อทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ที่สิ้นสุดลงในปี 2562 โดยกองทุนรวม SSF มีผลเริ่มใช้ในปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งมีข้อกำหนดและหลักเกณฑ์สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่แตกต่างจากกองทุน LTF ดังนี้
กองทุน RMF ก็มี Update หลักเกณฑ์ใหม่ เริ่มใช้ปี 2563
การปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการซื้อกองทุน RMF มีดังนี้
เอาล่ะ... เมื่อรู้เงื่อนไขทั้ง 2 กองทุนเพื่อการออมและลดหย่อนภาษีกันไปแล้ว ใครชอบแบบไหน ถูกจริตกับกองทุนแบบใด ก็เลือกซื้อ เลือกใช้สิทธิกันตามอัธยาศัย เพราะไม่ว่าจะลงทุนในกองไหนๆ ก็ดีทั้งนั้น ช่วยให้เรามีเงินออมก้อนโตเก็บไว้ใช้ยามเกษียณได้เหมือนกัน
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม SSF & RMF แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ลองมาทำความรู้จักกองทุนทั้ง 2 แบบเข้าใจง่าย และเจาะลึกมากขึ้น ทั้งในแง่ภาพรวมของกองทุน กลยุทธ์การลงทุน ตลอดจนเทคนิคการประหยัดภาษีอย่างฉลาด ด้วย “คู่มือ SSF&RMF แฝดคู่ใหม่ใช้ลดหย่อนภาษี” ดาวน์โหลดและอ่านฟรี!! >> คลิกที่นี่
หรือสนใจเปิดบัญชีกองทุน >> คลิกที่นี่