พอร์ต DR ยืนหยัดได้ทุกวิกฤต

ปกป้องเงินเฟ้อ (Inflation Hedge)
เงินเฟ้อค่อย ๆ กัดกินมูลค่าเงิน การฝากเงินอย่างเดียวอาจไม่พอ หนึ่งในวิธีที่ใช้กันทั่วโลกคือ การลงทุนในสินทรัพย์ Inflation Hedge ที่มักเคลื่อนไหวสวนทางกับเงินเฟ้อ และสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับสูงสุดคือ “ทองคำ”

เสริมเกราะให้พอร์ต สู้เงินเฟ้อ ด้วยทองคำ
มีมูลค่าในตัวเอง ไม่ผูกกับผลกำไรบริษัท
ทองคำไม่พึ่งผลประกอบการของธุรกิจใด จึงรักษามูลค่าได้ดี แม้เศรษฐกิจถดถอยหรือหุ้นปรับลง
เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ทั่วโลกถือ
เมื่อเกิดความไม่แน่นอน นักลงทุนมักเพิ่มสัดส่วนทองคำ ส่งผลให้ความต้องการและราคาขยับขึ้น
ปริมาณจำกัด ผลิตเพิ่มไม่ได้
ทองคำเพิ่มจำนวนไม่ได้เหมือนเงิน จึงรักษามูลค่าได้ดี แม้ช่วงเงินเฟ้อสูงจากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ

ลงทุนทองคำระดับโลก ง่ายขึ้นผ่าน DR (Depositary Receipt)
ตราสารที่อ้างอิงกับ ETF ทองคำแท่ง ทำให้เข้าถึงทองคำโลกได้ด้วยเงินบาท

ตัวอย่าง DR ที่อ้างอิงทองคำ :
GOLD03 : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Trust ETF (2840.HK)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX)
GOLD19 : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF (GSD.SI)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX)
GOLDUS19 : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF (GLD)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NYSE Arca)

ทั้งหมดลงทุนในกองทุนหลักเดียวกัน ต่างกันที่ตลาดจดทะเบียน

ตั้งรับความผันผวน (Defensive Stock)
ในช่วงตลาดผันผวน การมีหุ้นกลุ่มที่ความต้องการไม่เคยหยุด เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยประคองพอร์ตให้มั่นคงขึ้น

ตั้งรับทุกภาวะตลาดด้วยหุ้น Defensive
 รายได้สม่ำเสมอ
ธุรกิจจำเป็นต่อชีวิต เช่น ยา, อาหาร และเครื่องดื่ม ที่ผู้คนต้องใช้ตลอดเวลา
 ความผันผวนต่ำ
ราคาหุ้นมักเคลื่อนไหวในกรอบ ไม่เหวี่ยงแรงเหมือนหุ้นเติบโต (Growth Stock) หรือหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stock)
 ปรับตัวลงน้อยกว่าตลาด ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว
ยามวิกฤติ เงินทุนมักไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้หุ้น Defensive เป็นเสมือน “หลุมหลบภัย” ช่วยลดแรงกระแทกให้พอร์ต

ลงทุนหุ้น Defensive ระดับโลก ง่ายขึ้นผ่าน DR (Depositary Receipt) ได้ด้วยเงินบาท

ตัวอย่าง DR ที่อ้างอิง Defensive Stock :
การแพทย์และสุขภาพ (Healthcare)
ความต้องการรักษาพยาบาลมีตลอดเวลา และได้แรงหนุนจาก Aging Society
 ABBV19 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท AbbVie
บริษัทเภสัชกรรมสัญชาติสหรัฐฯ ผู้ผลิตยาชั้นนำ เช่น Humira และ Skyrizi
 LLY80 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Eli Lilly
ผู้นำด้านยารักษาโรคเบาหวานและโรคอ้วน เช่น Mounjaro และ Trulicity
 NOVOB80 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Novo Nordisk
บริษัทเภสัชกรรมอันดับหนึ่งของโลกด้านยาเบาหวาน และยากลุ่ม GLP-1 เช่น Ozempic
 PFIZER19 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Pfizer
บริษัทเภสัชกรรมรายใหญ่ของสหรัฐฯ ผู้พัฒนาวัคซีนและยารักษาโรคหลากหลายชนิด
 SANOFI80 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Sanofi
บริษัทเภสัชกรรมฝรั่งเศส ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและยารักษาโรคเรื้อรัง

สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น (Consumer Staples)
สินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน ผู้บริโภคยังต้องใช้เสมอ แม้เศรษฐกิจชะลอตัว
 COSTCO19 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Costco Wholesale
ผู้ให้บริการค้าปลีกแบบสมาชิก เน้นขายสินค้าหลากหลายประเภทในปริมาณมากและราคาที่ถูก
 KO80 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Coca-Cola
ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มระดับโลก เช่น Coke, Sprite และ Fanta
 NONGFU80 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Nongfu Spring
ผู้ผลิตน้ำดื่มและเครื่องดื่มชั้นนำของจีน มีแบรนด์ดังอย่าง Nongfu และ Tea π
 PEP80 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท PepsiCo
ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ เจ้าของแบรนด์ Pepsi, Lay’s, Gatorade
 THAIBEV19 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Thai Beverage
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหาร ดำเนินธุรกิจกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
 VNM19 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Vinamilk
ผู้ผลิตนมรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นมในภูมิภาค

 โทรคมนาคม (Telecommunication)
บริการอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตยุคดิจิทัล รายได้จึงมั่นคงต่อเนื่อง
 CHMOBILE19 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท China Mobile
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ครอบคลุมบริการมือถือ อินเทอร์เน็ต และโครงข่าย 5G
 SINGTEL80 : DR ที่อ้างอิงหุ้นของบริษัท Singapore Telecommunications (Singtel)
ผู้ให้บริการสื่อสารรายใหญ่ของสิงคโปร์และอาเซียน มีบริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตครบวงจร

ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก (US Market Index)
การกระจายพอร์ตไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของบริษัทนวัตกรรมระดับโลก คืออีกทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสเติบโตระยะยาว 

สร้างพอร์ตเติบโตกับ US Index
เสถียรและฟื้นตัวเร็วกว่า
ตลาดสหรัฐฯ มีสภาพคล่องสูง และมักเป็นที่แรกที่เงินทุนไหลกลับเมื่อวิกฤติคลี่คลาย
เป็นหัวใจของเมกะเทรนด์โลก
สหรัฐฯ รวมบริษัทเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
ผ่านทุกวิกฤติและกลับมาทำ New High
พื้นฐานบริษัทแข็งแกร่ง ทำให้ดัชนีสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้ดี และกลับมาทำ All-Time High ได้ในระยะยาว

 ลงทุนในดัชนีสหรัฐฯ ง่ายขึ้นผ่าน DR (Depositary Receipt)
เข้าถึง ETF อ้างอิง NASDAQ-100 และ S&P 500 ได้ด้วยเงินบาท

ตัวอย่าง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นสหรัฐฯ :
ลงทุนในดัชนี NASDAQ-100 เน้นหุ้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก 
NDX01 : DR ที่อ้างอิง CHINAAMC NASDAQ 100 ETF (3086.HK)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX)
QQQM19 : DR ที่อ้างอิง Invesco NASDAQ 100 ETF (QQQM)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NASDAQ)

ลงทุนในดัชนี S&P 500 ครอบคลุมบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม 
SP50001 : DR ที่อ้างอิง Hang Seng S&P 500 Index ETF (3195.HK)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX)
SP500US19 : DR ที่อ้างอิง SPDR Portfolio S&P 500 ETF (SPYM)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NYSE Arca)
SP500US80 : DR ที่อ้างอิง SPDR Portfolio S&P 500 ETF (SPYM)
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NYSE Arca)