5 ขั้นตอน สร้างแผนการลงทุนกองทุนรวม ฉบับมือใหม่

โดย ปรารถนา จันทนสกุลวงศ์ CFP® นักวางแผนการเงิน สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
2 Min Read
9 มีนาคม 2565
13.322k views
Inv_5 ขั้นตอน สร้างแผนการลงทุนกองทุนรวม ฉบับมือใหม่_Thumbnail
Highlights

เชื่อว่าทุกคนต้องการมีความมั่งคั่งและสนใจลงทุน แต่ในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนทำให้หลายคนกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะเข้ามาลงทุน หรือบางคนที่เป็นมือใหม่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร การลงทุนในกองทุนรวมถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย มีการกระจายความเสี่ยง ที่สำคัญมีเงินน้อยก็สามารถลงทุนได้ หรือหากไม่มีเวลา ไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน ก็มีผู้เชี่ยวชาญมาคอยดูแลและบริหารเงินให้งอกเงย

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการแบ่งเงินมาลงทุน การลงทุนผ่านกองทุนรวมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพมาช่วยคัดสรรสินทรัพย์ ช่วยดูงบการเงินของบริษัทที่จะลงทุน หรือคอยปรับพอร์ตลงทุนตามสถานการณ์ จึงช่วยประหยัดเวลาและเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ลงทุนไม่มาก

 

อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมก็มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงลงทุนได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น เพื่อให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยความมั่นใจและไปถึงเป้าหมายตามที่วางเอาไว้ ควรเริ่มด้วยแผนการลงทุน 5 ขั้นตอน ดังนี้

 

1. กำหนดเป้าหมายการลงทุน

การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้ในขั้นแรกนั้นต้องมีการกำหนดเป้าหมาย เพราะหากขาดเป้าหมายอาจสร้างความสูญเสียในระหว่างทาง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนต้องกำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจนก่อนว่าจะลงทุนไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อการเกษียณ เพื่อการศึกษาของลูก เพื่อผ่อนรถ เพื่อซื้อบ้าน เพื่อแต่งงาน เป็นต้น อีกทั้ง ควรระบุรายละเอียดด้วยว่าเป้าหมายดังกล่าวมีมูลค่าเท่าไร ใช้ระยะเวลากี่ปีในการเก็บเงิน เช่น มีเป้าหมายจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี ต้องการใช้เงินเดือนละ 20,000 บาท ในอีก 15 ปีข้างหน้า หรืออยากเก็บเงินแต่งงานให้ได้ 300,000 บาท ภายในเวลา 3 ปี เป็นต้น เมื่อเป้าหมายการลงทุนชัดเจน จากนั้นต้องคำนวณเม็ดเงินลงทุนที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายทางการเงิน โดยปัจจุบันมีโปรแกรมคำนวณเป้าหมายทางการเงินให้ใช้บริการฟรี เช่น โปรแกรมคำนวณของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คลิกที่นี่

 

2. ประเมินความเสี่ยง

เมื่อได้เป้าหมายการลงทุนแล้วก็ต้องจัดสัดส่วนการลงทุน เนื่องจากกองทุนรวมมีหลากหลายประเภท แต่ก่อนจะเลือกว่าจะลงทุนกองทุนรวมประเภทไหนนั้นก็ต้องเข้าใจระดับความสามารถในการยอมรับเสี่ยงของตัวเองก่อนว่าอยู่ในระดับใด (ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ ปานกลาง และสูง) ด้วยการทำแบบประเมินความเสี่ยง (Suitability Test) เพราะก่อนลงทุน บลจ. แต่ละแห่งจะให้นักลงทุนทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนเปิดบัญชีกองทุนทุกครั้ง หรือเริ่มทำแบบประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ที่ คลิกที่นี่

 

หากประเมินความเสี่ยงเรียบร้อยแล้วก็จะได้สัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท (สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ปานกลาง และสูง) รวมถึงผลตอบแทนคาดการณ์ของพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งสามารถนำผลตอบแทนคาดการณ์ไปกรอกในโปรแกรมคำนวณเป้าหมายทางการเงิน (กำหนดเป้าหมายการลงทุน) ทำให้ทราบว่าจะต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้

 

3. จัดพอร์ตลงทุน

การคัดเลือกกองทุนรวมเข้าพอร์ตสามารถทำได้หลายวิธี เริ่มจากคัดเลือกด้วยตัวเอง ซึ่งต้องอาศัยเวลา และประสบการณ์ สำหรับมือใหม่อาจเริ่มต้นจากการขอคำปรึกษาผู้แนะนำการลงทุน บลจ.ที่เปิดบัญชีซื้อขาย ว่ามีกองทุนรวมที่เหมาะสมอะไรบ้าง ที่สำคัญสามารถตัดสินใจร่วมจัดพอร์ตลงทุนพร้อมกับผู้แนะนำการลงทุนได้ด้วย

 

นอกจากนี้ อาจเลือกใช้วิธีที่ บลจ. หรือตัวแทนจำหน่ายกองทุนรวม (ธนาคาร) หรือ บลน. ได้คัดเลือกกองทุนรวมแบบสำเร็จรูปจากผู้เชี่ยวชาญและคอยดูแลคัดสรรกองทุน รวมถึงปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้ความเสี่ยงการลงทุนคงเดิม (หรือลดลง) โดยนักลงทุนมีหน้าที่เพียงเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ เช่น หากรับความเสี่ยงได้น้อยก็เลือกโมเดลที่มีสัดส่วนตราสารหนี้มาก แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้สูงก็เลือกโมเดลที่มีสัดส่วนหุ้นมาก

 

4. เริ่มลงทุน

เมื่อตัดสินใจลงทุนแล้ว สามารถเลือกลงทุนด้วยรูปแบบเป็นเงินก้อน หรือทยอยลงทุนแบบสม่ำเสมอเป็นรายเดือน (DCA) สำหรับนักลงทุนมือใหม่อาจเริ่มต้นด้วยวิธีการลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA เพื่อช่วยลดความผิดพลาดจากการจับจังหวะการลงทุน และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี เพราะมีโอกาสได้ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยที่ต่ำกว่าในระยะยาว และทำให้ได้จำนวนหน่วยที่มากขึ้น แถมยังเป็นการสร้างวินัยในการลงทุนอีกด้วย

 

5. ทบทวนแผนการลงทุน

เมื่อลงทุนไปแล้ว การสำรวจพอร์ตลงทุนเป็นสิ่งสำคัญและควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ว่าผลตอบแทนเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ และต้องปรับพอร์ตลงทุนหรือไม่ โดยเฉพาะหากจัดพอร์ตด้วยตัวเอง สัดส่วนการลงทุนอาจเปลี่ยนไปจากราคากองทุนรวมที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนเปลี่ยนแปลงด้วย และความเสี่ยงของพอร์ตจะไม่เท่าเดิม จึงต้องมีการปรับสัดส่วนให้พอร์ตคงเดิมเหมือนครั้งแรกที่วางแผนไว้ แต่หากลงทุนกองทุนรวมด้วยวิธีเลือกโมเดลสำเร็จรูป ก็จะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลและปรับสัดส่วนการลงทุนและติดตามสถานการณ์การลงทุนให้ตลอดเวลา แต่ก็ต้องติดตามและเข้าไปสำรวจพอร์ตตัวเองด้วยว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่

 

ลองถามตัวเองว่า หากต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยง ขณะเดียวกันใช้เงินลงทุนไม่มาก รวมถึงมีประสบการณ์ ความชำนาญในการลงทุนน้อย ไม่มีเวลาศึกษาค้นหาและติดตามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร “กองทุนรวม” เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุน

 

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่สนใจเรียนรู้เทคนิคการเลือกกองทุนรวมแต่ละประเภท พร้อมสร้างและบริหารพอร์ตกองทุนรวมด้วยตนเอง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “ห้องเรียนกองทุนรวม The Series ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่

แท็กที่เกี่ยวข้อง: