รู้หรือไม่ว่า...
คนไทยใช้เวลาอยู่บนอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 7 ชั่วโมง 54 นาทีต่อวัน
และกว่า 63.3% ของเวลานั้น - ราว 5 ชั่วโมง เกิดขึ้นบนหน้าจอมือถือของเรานี่เอง
แล้วใน 5 ชั่วโมงนั้น... เราใช้ไปกับอะไรบ้าง
หลายคนคงหนีไม่พ้นกิจกรรมอย่าง

ไถฟีด Facebook หรือ Instagram

ดูคลิปสนุก ๆ ใน YouTube

ฟังเพลงใน Spotify

สั่งอาหารผ่าน Grab

หรือดูซีรีส์เรื่องโปรดใน Netflix / Prime Video
แอปฯ เหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเราอย่างแท้จริง
แต่ถ้าลอง “มองอีกมุมหนึ่ง” จะเห็นว่า...
แอปฯ ที่เราใช้ทุกวันนั้น ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือความบันเทิงหรืออำนวยความสะดวกเท่านั้น
แต่มันคือ “ธุรกิจระดับโลก” ที่ซ่อน “โอกาสการลงทุน” เอาไว้ด้วย
เปลี่ยนเวลาใช้งานแอปฯ ให้กลายเป็นโอกาสลงทุน
ผ่าน DR (Depositary Receipt) หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
ที่เปิดโอกาสให้คุณถือหุ้นในบริษัทเจ้าของแอปฯ ที่ใช้กันอยู่ทุกวัน เช่น
1. กลุ่ม Shop & Delivery

Lazada → ลงทุนใน Alibaba Group Holding
(รหัส DR : BABA01, BABA06, BABA13, BABA23, BABA80)
ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซของจีน เจ้าของธุรกิจ Lazada, Taobao, Alipay และบริการคลาวด์

Grab → ลงทุนใน Grab Holdings (รหัส DR : GRAB80)
บริษัทเทคโนโลยีจากสิงคโปร์ ครอบคลุมบริการเดินทาง ส่งอาหาร ส่งพัสดุ การเงินดิจิทัล
2. กลุ่ม Productivity

Google → ลงทุนใน Alphabet Inc.
(รหัส DR : GOOGL01, GOOGL03, GOOG80)
เจ้าของ Search Engine อันดับ 1 ของโลก และแอปฯ ที่เราคุ้นเคยอย่าง Gmail, Drive, Meet และ Gemini

Microsoft Teams → ลงทุนใน Microsoft Corporation
(รหัส DR : MSFT01, MSFT06, MSFT80)
ผู้นำด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีระดับโลก เจ้าของ Windows, Office, Azure และ Teams
3. กลุ่ม Travel

Booking → ลงทุนใน Booking Holdings
(รหัส DR : BKNG03, BKNG80)
บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มการจองออนไลน์ชั้นนำระดับโลก เช่น
Booking.com, Agoda, Priceline, KAYAK, OpenTable และ
Rentalcars.com โดยในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า
Trip.com → ลงทุนใน
Trip.com Group
(รหัส DR : TRIPCOM80)
ผู้ให้บริการจองที่พัก ตั๋วเดินทาง และแพ็กเกจท่องเที่ยวครบวงจร โดยในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้สุทธิ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนหน้า
4. กลุ่ม Social Media

Facebook, Instagram, Messenger → ลงทุนใน Meta Platforms
(รหัส DR : META01, META06, META80)
เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, WhatsApp, Messenger โดยในไตรมาส 4/2567 บริษัทมีผู้ใช้งานรวมต่อวันสูงถึง 3.35 พันล้านคน
5. กลุ่ม Entertainment

Apple Music → ลงทุนใน Apple Inc.
(รหัส DR : AAPL01, AAPL03, AAPL80)
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เจ้าของแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลง Apple Music รวมถึงผลิตภัณฑ์ยอดนิยมอย่าง iPhone, iPad, Mac และบริการ iCloud

Prime Video → ลงทุนใน
Amazon.com(รหัส DR : AMZN01, AMZN06, AMZN80)
บริษัทเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซชั้นนำของโลก เจ้าของแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ Amazon และบริการคลาวด์ AWS รวมถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิง Prime Video ที่ให้บริการความบันเทิงทั่วโลก

Netflix → ลงทุนใน Netflix Inc.
(รหัส DR : NFLX06, NFLX80)
ผู้นำด้านสตรีมมิงระดับโลก ให้บริการซีรีส์ ภาพยนตร์ และเกมหลากหลายแนว มีสมาชิกแบบชำระเงินมากกว่า 300 ล้านคน ในกว่า 190 ประเทศ

Identity V → ลงทุนใน NetEase Inc.
(รหัส DR : NETEASE80)
บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ผู้พัฒนาเกมมือถือและ PC ยอดนิยม อาทิ Identity V, Marvel Mystic Mayhem และ Naraka Bladepoint

Roblox → ลงทุนใน Roblox Corporation
(รหัส DR : RBLX06)
บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ ROBLOX ที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 111.8 ล้านคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวของปีก่อนหน้า (ข้อมูล ณ ไตรมาส 2/2568)

Spotify → ลงทุนใน Spotify Technology
(รหัส DR : SPOT06)
ผู้ให้บริการสตรีมเสียงและพอดแคสต์สัญชาติสวีเดน มีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 678 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

PUBG Mobile, RoV → ลงทุนใน Tencent Holdings
(รหัส DR : TENCENT01, TENCENT06, TENCENT13, TENCENT19, TENCENT80)
บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน เจ้าของเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile, League of Legends และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดัง WeChat และ QQ