กลยุทธ์สร้างพอร์ตลงทุน รับมือได้ทุกสภาวะตลาด

โดย กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย (ลูกค้ารายย่อย) บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
3 Min Read
14 ตุลาคม 2568
329 views
TSI-Article-714-Inv-investment-strategy-all-market-conditions-Thumbnail
Highlights
  • ในโลกการลงทุนที่ผันผวน การจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ด้วยหุ้น ตราสารหนี้ และทองคำ คือกลยุทธ์สำคัญในการสร้างพอร์ตที่ทนทานต่อทุกความไม่แน่นอน

  • หลักการของ Ray Dalio ย้ำว่า การกระจายลงทุนในจำนวนสินทรัพย์ที่มากและมีความสัมพันธ์ต่ำ (Low Correlation) จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตอย่างมีนัยสำคัญ

  • การมีสินทรัพย์หลากหลายทำให้พอร์ตรับมือได้ทุกสี่สภาวะตลาด (เช่น เงินเฟ้อสูง-เศรษฐกิจขยายตัว) เนื่องจาก “สินทรัพย์ผู้ชนะจะหมุนเวียนไปตามช่วงเวลา”

ในโลกการลงทุนที่มีความผันผวนสูงและยากจะคาดเดา นักลงทุนจำนวนมากอาจยังยึดติดกับแนวทางการจัดพอร์ตแบบเดิม ๆ เช่น หุ้น 60% และพันธบัตร 40% หรือบางกลุ่มอาจเน้นไปที่หุ้นต่างประเทศในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเต็มพอร์ต 100% ส่วนนักลงทุนรุ่นเก๋าก็อาจลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว แต่หากกำลังมองหาวิธีสร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคงและพร้อมรับมือกับทุกความไม่แน่นอน การให้ความสำคัญและประโยชน์ของการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) ด้วยสินทรัพย์หลัก 3 ประเภท ได้แก่ หุ้น ตราสารหนี้ และทองคำ แนวคิดนี้จะช่วยให้กระจายความเสี่ยงและสร้างพอร์ตลงทุนที่สามารถทำกำไรได้ในทุกช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจ

ทำไมต้องกระจายสินทรัพย์ให้มากกว่าแค่หุ้นและพันธบัตร

การพึ่งพาสินทรัพย์เพียงชนิดเดียวหรือมีสินทรัพย์ในพอร์ตน้อยเกินไป ถือเป็นความเสี่ยงที่สูงเกินความจำเป็น Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ได้ชี้ให้เห็นว่าการมีจำนวนสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตลงทุนลงได้อย่างมีนัยสำคัญ หรือที่เรียกว่า การกระจายความเสี่ยง (Diversification)

 

เมื่อความเสี่ยงลดลง อัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Risk-Reward Ratio) ก็จะคุ้มค่ามากขึ้น และความน่าจะเป็นในการขาดทุนก็จะน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้น การเพิ่มกลุ่มสินทรัพย์หลักที่ครอบคลุมจึงเป็นรากฐานสำคัญของการลงทุนที่ยั่งยืน
TSI-Article-714-Inv-the_holy_grail

กราฟด้านบน แสดงหลักการสำคัญของการจัดพอร์ตลงทุนหรือ The Holy Grail ของการลงทุนที่เน้นเรื่องการกระจายความเสี่ยงตามหลักการ Ray Dalio โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

  • แนวตั้ง คือ ค่าความผันผวนหรือตัวเลขความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการลงทุน “ยิ่งกราฟอยู่สูง ความเสี่ยงที่จะสูญเงินก็สูงตามไปด้วย”
  • แนวนอน คือ จำนวนสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุน เช่น หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล และแต่ละเส้นแต่ละระดับจะแสดงความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องกันของแต่ละ สินทรัพย์ หรือ Correlation ยิ่ง Correlation ต่ำ (เส้นล่างสุด) และจำนวนสินทรัพย์มาก ความผันผวนรวมจะลดลงเร็วที่สุด พอร์ตที่สินทรัพย์ไม่เกี่ยวพันกัน (0% correlation) เมื่อรวมหลายสินทรัพย์จะสามารถลดความเสี่ยงได้สูงสุด

 

จากการจัดพอร์ตแบบ The Holy Grail พบว่า

  • การกระจายลงทุนทั้งจำนวนและความสัมพันธ์ที่ต่ำช่วยลดความเสี่ยง
  • เมื่อมีสินทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วยอัลฟ่าต่างกันมาก (ผลตอบแทนไม่สัมพันธ์กัน) จะช่วยลดโอกาสขาดทุนและเพิ่มประสิทธิผลระยะยาวของพอร์ตลงทุนอย่างมาก
  • การวิ่งหาความสัมพันธ์ต่ำและจำนวนสินทรัพย์มากเป็นหัวใจของการจัดพอร์ตที่ยั่งยืน และเป็นหลักพื้นฐานของการลงทุนแบบพอร์ตลงทุนที่สมดุล

จัดสินทรัพย์อย่างไรให้ชนะทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ

การมีสินทรัพย์ลงทุนที่หลากหลายจะสามารถทนต่อทุกสภาวการณ์ของตลาด

1.ช่วงเงินเฟ้อขยายตัว เศรษฐกิจขยายตัว

การถือหุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่และทองคำ จะได้ประโยชน์ที่สุด เนื่องจากเศรษฐกิจจริงเติบโตพร้อมกับราคาสินค้าและบริการที่ปรับตัวขึ้น

2.ช่วงเงินเฟ้อขยายตัว เศรษฐกิจชะลอตัว

การถือทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ และพันธบัตรที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวหรือ พันธบัตรที่อ้างอิงกับเงินเฟ้อได้ประโยชน์ที่สุด เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูงว่าเศรษฐกิจจะชะลอแบบ Soft Landing หรือ Hard Landing แต่เงินเฟ้อยังยืนระยะในระดับสูง

3.ช่วงเงินเฟ้อชะลอตัว เศรษฐกิจขยายตัว

การถือหุ้นประเทศพัฒนาแล้วและพันธบัตรระยะกลางได้ประโยชน์ที่สุด เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มการเติบโตที่ไม่ได้กระจุกจากปัจจัยราคาเป็นหลัก ประเทศที่เน้นสินค้าโภคภัณฑ์อย่างตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) อาจไม่ได้ประโยชน์มากเท่าไหร่นัก ณ ช่วงนี้

4.ช่วงเงินเฟ้อชะลอตัว เศรษฐกิจชะลอตัว

การถือทองคำและพันธบัตรระยะยาวได้ประโยชน์ที่สุด ในยามวิกฤติเช่นนี้ และธนาคารกลางมีนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย



เนื้อหานี้มีประโยชน์กับคุณแค่ไหน?

แนวคิดการจัดพอร์ตแบบ All Weather Portfolio แบ่งเศรษฐกิจเป็น 4 ภาวะตามการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ

TSI-Article-714-Inv-investment-strategy-all-market-conditions-02

จากวัฏจักรตลาดดังกล่าว คือ สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในแต่ละช่วงเวลาจะแตกต่างกันไป หรือที่เรียกว่า Winner Always Rotate โดยที่

  • บางปี ทองคำก็ให้ผลตอบแทนสูงสุด
  • บางปี หุ้นสหรัฐอเมริกาก็เป็นพระเอกให้ผลตอบแทนสูงสุด

 

สิ่งที่ชัดเจนคงหนีไม่พ้นไม่มีใครสามารถรู้อนาคตได้อย่างแม่นยำว่าสินทรัพย์ใดจะขึ้นมาเป็นผู้ชนะในรอบถัดไป ดังนั้น
กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดที่สุดในฐานะนักลงทุน คือ การมีทุกอย่างในสัดส่วนที่เหมาะสม ที่สำคัญแทนที่จะพยายามเก็งกำไรและคาดเดาว่าใครจะเป็นผู้ชนะในอนาคต แนวคิดของ Asset Allocation จึงเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ

 

การสร้างพอร์ตที่มี 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ คือการสร้างเกราะป้องกันให้พอร์ตลงทุนสามารถเอาชนะทุกวิกฤติและเติบโตได้อย่างยั่งยืน 


หากต้องการ เรียนรู้แนวคิดในการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนให้เงินออมได้ด้วยตัวเองสามารถเรียนรู้เพิ่มเติม ผ่าน e-Learning  ปั้นพอร์ตหุ้น ตอน “จัดทัพลงทุนมุ่งวัตถุประสงค์”  ได้ฟรี!!!

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน