รวมฮิต DR ที่ลงทุน ในกลุ่มดัชนีชั้นนำระดับโลก

โดย SET
5 Min Read
1 ตุลาคม 2568
1.311k views
dr-etf-2025-1
In Focus

DR ประเภทนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณมี “พอร์ตหุ้นระดับโลกสำเร็จรูป” อยู่ในมือ แม้จะเลือกหุ้นรายตัวไม่เป็น เราได้รวบรวมข้อมูล DR ประเภทดัชนีทั้งหมด มาให้แล้ว เพื่อเป็นตัวช่วยในการวางแผนลงทุนของคุณ

ลงทุนต่างประเทศง่ายขึ้น แม้ไม่เก่งเลือกหุ้น !
 
หลายคนอาจจะคุ้นกับ DR (Depositary Receipt) หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่อ้างอิงกับ หุ้นต่างประเทศรายตัว 📈
 
👉 แต่จริง ๆ แล้ว DR ยังมีแบบที่อ้างอิง ETF และดัชนีระดับโลก เช่น S&P500, NASDAQ100, CSI300 🌍
 
📌 ทำไม DR ประเภทดัชนี/ETF ถึงน่าสนใจ ?
✅ กระจายความเสี่ยง ครอบคลุมหุ้นชั้นนำในดัชนี
✅ ซื้อขายง่ายเป็นเงินบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย
✅ ไม่ต้องเปิดพอร์ตต่างประเทศ ใช้บัญชีหุ้นไทยเทรดได้เลย !
dr-etf-2025-2
🇨🇳 ดัชนีหุ้น “จีน” เจ้าแห่งการผลิต

ตลาดหุ้นจีน ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความน่าสนใจ เพราะเริ่มมีบริษัทหลายแห่งก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการผลิตสินค้าให้คนทั่วโลก และยังมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ภาพรวมตลาดหุ้นจีนมีมูลค่าหลักทรัพย์รวมราว 11.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ ก.พ. 2025, CEIC Data) ขณะที่ P/E Ratio ล่าสุดอยู่ที่ 11.3 เท่า (ณ วันที่ 12 ก.ย. 2025, World PE Ratio)


🔍 ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นจีน

📌 “CN01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC CSI 300 Index ETF (3188.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี CSI 300 ซึ่งครอบคลุมหุ้น A-Shares ชั้นนำของจีนแผ่นดินใหญ่จำนวน 300 บริษัท เช่น Kweichow Moutai, ICBC, China Merchants Bank, PetroChina, Ping An Insurance

📌 “CNTECH01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC Hang Seng TECH Index ETF (3088.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง บริหารโดย China Asset Management (ChinaAMC) ลงทุนตามดัชนี Hang Seng TECH Index ซึ่งประกอบด้วย 30 บริษัทเทคโนโลยีจีนชั้นนำ เช่น Tencent, Alibaba, Meituan, Xiaomi, JD.com, SMIC

📌 “HKCE01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng China Enterprises Index ETF (2828.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (HSCEI) ซึ่งสะท้อนผลการดำเนินงานของ Mainland Securities ที่จดทะเบียนในฮ่องกง (ครอบคลุม H-Shares, Red Chips และ P-Chips) จำนวน 50 บริษัท เช่น ICBC, CCB, Ping An Insurance, PetroChina, China Mobile

📌 “HKTECH13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng TECH Index ETF (3032.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี Hang Seng TECH Index เช่นเดียวกับ CNTECH01 แต่บริหารโดย Hang Seng Investment Management

📌 “STAR5001” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Premia China STAR50 ETF (3151.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี SSE Science and Technology Innovation Board 50 (STAR 50) ซึ่งรวม 50 บริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำในตลาด STAR Board ของจีนแผ่นดินใหญ่ เช่น SMIC, Cambricon, Hygon, Montage Technology, AMEC, Kingsoft Office

🇭🇰 ดัชนีหุ้น “ฮ่องกง” ศูนย์กลางการเงินระดับโลก

หากดัชนีหุ้นจีนสะท้อนพลังการผลิตและเทคโนโลยี ดัชนีหุ้นฮ่องกงก็คือ ภาพแทนของบริษัทชั้นนำที่มีรากฐานมั่นคงในด้านการเงิน ประกัน พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกันก็เป็นบ้านของบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เข้ามาจดทะเบียนในฮ่องกง (H-Shares, Red Chips, P-Chips) ทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นเวทีลงทุนที่สะท้อนทั้ง “ฮ่องกงแท้ ๆ” และ “จีนยุคใหม่” ไปพร้อมกัน


🔍ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นฮ่องกง

📌 “HK01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Tracker Fund of Hong Kong ETF (2800.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เพื่อติดตามผลการเคลื่อนไหวของ ดัชนี Hang Seng Index (HSI) ซึ่งถือเป็นดัชนีหลักของตลาดหุ้นฮ่องกง ปัจจุบันครอบคลุมกว่า 80 บริษัทชั้นนำ ที่สะท้อนเศรษฐกิจของฮ่องกงและจีนในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับโลก เช่น HSBC, AIA Group, CK Hutchison, CLP Holdings, HKEX รวมถึง Tencent, Alibaba, Meituan, Xiaomi

📌 “HK13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Tracker Fund of Hong Kong ETF (2800.HK) เช่นเดียวกับ HK01 แต่แตกต่างกันตรงที่ HK01 ออกโดย บล.บัวหลวง ส่วน HK13 ออกโดย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)

📌 “HSHD23” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Global X Hang Seng High Dividend Yield ETF (3110.HK) ซึ่งลงทุนตามดัชนี Hang Seng High Dividend Yield Index ครอบคลุมหุ้นฮ่องกง 50 บริษัทที่มีอัตราปันผลสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโฟกัส หุ้นปันผล (Dividend Play) จากตลาดฮ่องกงโดยตรง


✨ เมื่อมองรวมกัน ทั้งดัชนีหุ้นจีนและฮ่องกงจึงเปรียบเสมือนสองฟันเฟืองหลักของเศรษฐกิจ Greater China ฝั่งหนึ่งคือพลังการผลิตและเทคโนโลยี อีกฝั่งคือศูนย์กลางการเงินและบริษัทบลูชิพที่มั่นคง ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่าน DR ที่ซื้อขายในตลาดไทย
dr-etf-2025-3
🌐 ดัชนีหุ้น “เอเชีย” ที่น่าจับตา

นอกจากดัชนีตลาดหุ้นยอดนิยมอย่างสหรัฐฯ และจีนแล้ว หากมองลึกไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ก็ยังมีดัชนีที่น่าสนใจอีกไม่น้อย🔥

🇯🇵 ดัชนีหุ้น “ญี่ปุ่น” กับการก้าวขึ้นมาทวงบัลลังก์เอเชีย

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในตลาดขนาดใหญ่ระดับโลก โดยมีค่า P/E Ratio อยู่ที่ 15.8 เท่า (ณ วันที่ 15 ก.ย. 2025, World PE Ratio) ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับตลาดสหรัฐฯ และยุโรป อีกทั้ง Statista คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 มูลค่าตลาดรวมของญี่ปุ่นอาจแตะระดับ 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (Statista, Global Stock Markets by Country) สะท้อนศักยภาพและความพร้อมของญี่ปุ่นในการกลับมาครองความเป็นผู้นำในเอเชียอีกครั้ง


🔍 ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นญี่ปุ่น

📌 “JAP03” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Global X Japan Global Leaders ETF (3150.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี FactSet Japan Global Leaders Index ซึ่งคัดเลือกหุ้นบลูชิปญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่มีรายได้จากต่างประเทศสูง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตน และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เช่น Sony, Toyota, Nintendo, Fast Retailing (Uniqlo)

📌 “JAPAN10001” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng Japan TOPIX 100 Index ETF (3410.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี TOPIX 100 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูง 100 บริษัท เช่น Toyota, Sony, Keyence, Mitsubishi UFJ, Honda

📌 “JAPAN13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC MSCI Japan Hedged to USD ETF (3160.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี MSCI Japan 100% Hedged to USD Index ซึ่งมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินเยนต่อดอลลาร์สหรัฐแบบ 100% ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อค่าเงินเยนอ่อนตัวลง


🇮🇳 ดัชนีตลาดหุ้น “อินเดีย” ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งเอเชีย

อินเดียกำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลก ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตเร็ว และประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมากที่ขับเคลื่อนกำลังซื้อภายในประเทศ ข้อมูลจาก IMF คาดการณ์ว่าอินเดียจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูงที่สุดในเอเชียต่อเนื่องหลายปี และดัชนี Nifty 50 ก็ทำสถิติ New High อย่างต่อเนื่อง

อินเดียยังคงเป็นหนึ่งใน เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่โตเร็วที่สุดในโลก โดย GDP ไตรมาส 1/2568 ขยายตัว 7.4% (ณ วันที่ 30 พ.ค. 2025, IMF) ขณะที่โครงสร้างประชากรมีอายุเฉลี่ยเพียง 28 ปี (ณ ปี 2025, United Nations World Population Prospects) ซึ่งสะท้อนฐานแรงงานและกำลังซื้อที่แข็งแกร่งระยะยาว

ด้านนโยบายการเงิน ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 6.00% (ประกาศวันที่ 9 เม.ย. 2025, Reuters / PIB India) เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดการเงิน


🔍 ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นอินเดีย

📌 “​​INDIA01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC MSCI India ETF (3404.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี MSCI India Net Total Return (USD) ครอบคลุมบริษัทอินเดียขนาดใหญ่และขนาดกลาง (Large & Mid Cap) รวมราว 85% ของมูลค่าตลาดหุ้นอินเดีย ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมทั้งเทคโนโลยี การเงิน พลังงาน และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีบริษัทเด่น เช่น Reliance Industries, Infosys, HDFC Bank, ICICI Bank และ Tata Consultancy Services (TCS)

📌 “INDIAESG19” : DR ที่อ้างอิงกองทุน iShares MSCI India Climate Transition ETF (QK9.SI) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ลงทุนตามดัชนี MSCI India IMI Climate Transition ซึ่งครอบคลุมหุ้นอินเดียที่ผ่านการคัดเลือกโดยให้ความสำคัญกับ ESG (Environment, Social, Governance) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Transition) เน้นบริษัทที่มีแนวทางลดการปล่อยคาร์บอนและสร้างความยั่งยืนระยะยาว โดยมีบริษัทเด่น เช่น Infosys, Tata Motors, Mahindra & Mahindra, Reliance Industries และบริษัทในกลุ่มพลังงานหมุนเวียน


✨ จะเห็นได้ว่าทั้งญี่ปุ่นและอินเดีย ต่างก็เป็น “ขุมพลังใหม่ของเอเชีย” ที่มีทั้งศักยภาพการเติบโตและโอกาสการลงทุนในระยะยาว ใครกำลังวางพอร์ตลงทุน อย่าลืมจับตา DR เหล่านี้ไว้เป็นทางเลือก
dr-etf-2025-4
🌐 ดัชนีหุ้น “เอเชีย” ที่น่าจับตา (ต่อ)

🇻🇳 ดัชนีหุ้น “เวียดนาม” เสือเศรษฐกิจใหม่แห่งอาเซียน

เวียดนามกำลังถูกจับตาในฐานะเศรษฐกิจดาวรุ่ง ด้วย GDP ที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 7.6% ในไตรมาส 2/2568 (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2025, IMF) ประกอบกับค่าแรงที่แข่งขันได้ และฐานการผลิตที่ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางใหม่ของโลก อีกทั้งโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่เป็นวัยแรงงาน อายุเฉลี่ยเพียง 33 ปี (United Nations, World Population Prospects 2025) ซึ่งสะท้อนศักยภาพ การเติบโตของกำลังซื้อในระยะยาว

ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามยังอยู่ระหว่างการผลักดันเข้าสู่สถานะ Secondary Emerging Market (FTSE Russell, รายงานประกาศเดือน มิ.ย. 2025) ที่คาดว่าจะมีผลในเดือนกันยายน 2568 จึงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง


🔍 ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นเวียดนาม

📌 “E1VFVN3001” : DR ที่อ้างอิงกองทุน DCVFMVN30 ETF จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (HOSE) ลงทุนตามดัชนี VN30 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 30 บริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงและสภาพคล่องดี เช่น Vietcombank, Vinamilk, Vingroup, Hoa Phat Group

📌 “FUEVFVND01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน DCVFMVN DIAMOND ETF จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (HOSE) ลงทุนตามดัชนี VN Diamond ที่คัดเลือกหุ้นเวียดนามคุณภาพสูงที่ต่างชาติสนใจ แต่ติดเพดานการถือครอง (Foreign Limit) เช่น FPT Corp, Mobile World Group, VPBank


🇹🇼 ดัชนีหุ้น “ไต้หวัน” เจ้าแห่งเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor)

ไต้หวันถือเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี AI ข้อมูลจาก SEMI (2025) คาดว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันยังคงเติบโตเฉลี่ย 5-7% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า
.
หุ้นไต้หวันจึงโดดเด่นในฐานะ “เสาหลักของซัปพลายเชนเทคโนโลยีโลก” โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เช่น TSMC, MediaTek, Hon Hai (Foxconn) ที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก (Bloomberg, ก.ย. 2025)


🔍 ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นไต้หวัน

📌 “TAIWAN19” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Yuanta/P-shares Taiwan Top 50 ETF (0050.TW) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (TWSE) ลงทุนตามดัชนี FTSE Taiwan 50 ซึ่งครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ 50 บริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงและสภาพคล่องดี โดยมีหุ้นเทคโนโลยีเป็นสัดส่วนหลัก เช่น TSMC, Hon Hai (Foxconn), MediaTek, Delta Electronics รวมถึงหุ้นชั้นนำในกลุ่มอื่น ๆ เช่น Formosa Plastics, Fubon Financial

📌 “TAIWANAI13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน KGI Taiwan Premium Selection AI 50 ETF (00952.TW) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (TWSE) ลงทุนตามดัชนี AI 50 Index ซึ่งคัดเลือกหุ้นไต้หวัน 50 บริษัทที่มีรายได้หลักจากธุรกิจ AI และเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น TSMC, MediaTek, Wistron, Quanta Computer, Delta Electronics

📌 “TAIWANHD13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน KGI Taiwan Premium Selection High Dividend 30 ETF (00915.TW) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน (TWSE) ลงทุนตามดัชนี High Dividend 30 Index ซึ่งคัดเลือกหุ้นขนาดใหญ่ 30 บริษัทที่มีกำไรสม่ำเสมอ และจ่ายเงินปันผลสูงอย่างต่อเนื่อง โดยมีหุ้นเด่น เช่น Hon Hai (Foxconn), Formosa Plastics, Fubon Financial, Chunghwa Telecom, Cathay Financial


✨ สองตลาดดาวรุ่งแห่งเอเชีย กำลังกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเงินทุนทั่วโลก และวันนี้นักลงทุนไทยก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ผ่าน DR
dr-etf-2025-5
🇺🇸 ดัชนีหุ้น “สหรัฐฯ” มหานครการลงทุนของโลก

หุ้นสหรัฐฯ โดดเด่นในฐานะตัวแทนของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่า GDP กว่า 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (IMF, World Economic Outlook Database, มิ.ย. 2025) โดยมีบริษัทเทคโนโลยีและแบรนด์ระดับโลกเป็นหัวหอก ขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้ง AI, Cloud, EV และ E-Commerce

ข้อมูลจาก S&P Dow Jones Indices (2025) ชี้ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มกำไรเติบโตเฉลี่ย 8-10% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า (spglobal.com) สะท้อนศักยภาพการเติบโตระยะยาวของหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังคงดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก

📊 ตามข้อมูล Statista (2024) หุ้นสหรัฐฯ ครองสัดส่วนราว 60% ของมูลค่าตลาดหุ้นโลก (statista.com) จุดแข็งสำคัญคือการเป็นแหล่งนวัตกรรมระดับโลก 🦾 ที่ผลิตสินค้าและบริการซึ่งผู้คนทั่วโลกใช้งานในชีวิตประจำวัน


🔍 ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นสหรัฐฯ

📌 “NDX01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC NASDAQ 100 ETF (3086.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ลงทุนตามดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 100 บริษัทในสหรัฐฯ (ไม่รวมกลุ่มการเงิน) โดยมีสัดส่วนหลักอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น Apple, Microsoft, Alphabet (Google), Meta และ NVIDIA

📌 “QQQM19” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Invesco NASDAQ 100 ETF (QQQM) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NASDAQ) ลงทุนตามดัชนี NASDAQ-100 เช่นเดียวกัน จุดที่ต่างออกไปคือ QQQM19 อ้างอิงกับกองทุนที่ซื้อขายในตลาดสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนไทยสามารถเทรด DR ได้ ตามเวลาตลาดสหรัฐฯ เปิดทำการ (เวลากลางคืนตามเวลาไทย) นอกเหนือจากช่วงกลางวันที่เทรด DR อื่น ๆ
.
📌 “SP50001” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng S&P 500 Index ETF (3195.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ลงทุนตามดัชนี S&P 500 ซึ่งสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ 500 บริษัทจากทุกอุตสาหกรรม เช่น Apple, Microsoft, Johnson & Johnson, JPMorgan Chase และ ExxonMobil

🌍 นอกจากดัชนีหุ้นประเทศต่าง ๆ ยังมี DR ที่อ้างอิงกับดัชนีธีมการลงทุนระดับโลก และสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย 📈


🔍 ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีอื่น ๆ

👉กองทุนแม่อย่าง SPDR Gold Shares (GLD) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NYSE Arca) ตั้งแต่ปี 2004 ถือเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 114,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงทุนในทองคำแท่งจริง ความบริสุทธิ์ 99.5% ตามมาตรฐาน London Good Delivery โดยถือครองทองคำกว่า 939 ตัน ภายใต้การดูแลของ HSBC และ The Bank of New York Mellon ราคาหน่วยลงทุน (NAV) เคลื่อนไหวตาม ราคาทองคำโลก (LBMA Gold Price PM)

DR ที่อ้างอิงจากกองทุน GLD มีให้เลือกหลายตลาด ได้แก่
📌 “GOLD03” : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Trust ETF (2840.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX)
📌 “GOLD19” : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF (GSD.SI) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX)
📌 “GOLDUS19” : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF (GLD) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NYSE Arca) ซึ่งทำให้นักลงทุนไทยสามารถเทรด DR ได้ ตามเวลาตลาดสหรัฐฯ เปิด (กลางคืนตามเวลาไทย) นอกเหนือจากช่วงกลางวันเหมือน DR อื่น ๆ

📌 “OIL03” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Global X S&P Crude Oil Futures Enhanced ER ETF (3097.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ลงทุนตามดัชนี S&P Crude Oil Enhanced Index ผ่านสัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ โดยออกแบบมาเพื่อเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบโลก

📌 “WORLD03” : DR ที่อ้างอิงกับ Global X Innovative Blue Chip Top 10 ETF (3422.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ระดับโลก 10 บริษัท ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นสหรัฐฯ เช่น Apple, Microsoft, NVIDIA, Tesla และ Alphabet (Google)
📲 วิธีลงทุนง่าย ๆ ผ่าน DR
- ถ้ามีบัญชีหุ้นไทยอยู่แล้ว เพียงพิมพ์ชื่อย่อ DR ที่สนใจ ก็สามารถซื้อขายได้เลย
- หรือดูรายชื่อ DR ทั้งหมดผ่านแอป Streaming โดยไปที่เมนู “Watch” กดที่ “Favourite” เลือก “SET” ไปที่ “Stock Type” และเลือก “.DR”
- หากยังไม่มีบัญชีหุ้น สามารถเปิดบัญชีออนไลน์กับโบรกเกอร์ชั้นนำได้ที่ : https://www.setinvestnow.com/th/open-account-stock-eopen
 
👉 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DR คลิกที่นี่ :
1. ข้อมูลภาพรวม DR : www.set.or.th/dr
2. ทำความรู้จัก DR : https://www.setinvestnow.com/th/dr/what-is-dr
3. แหล่งรวมบทความ DR : https://www.setinvestnow.com/th/dr
4. ทำความเข้าใจ Indicative Price ของ DR : https://www.setinvestnow.com/.../520-investhow-indicative...
 
 
หมายเหตุ :
- ข้อมูลที่ปรากฏนี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลในอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นโดยการอิงกับไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Based) หรือกระแส (Trend) อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่รับรองความถูกต้อง ครบถ้วน หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ และตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน