DR ประเภทนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณมี “พอร์ตหุ้นระดับโลกสำเร็จรูป” อยู่ในมือ แม้จะเลือกหุ้นรายตัวไม่เป็น เราได้รวบรวมข้อมูล DR ประเภทดัชนีทั้งหมด มาให้แล้ว เพื่อเป็นตัวช่วยในการวางแผนลงทุนของคุณ
ลงทุนต่างประเทศง่ายขึ้น แม้ไม่เก่งเลือกหุ้น !
หลายคนอาจจะคุ้นกับ DR (Depositary Receipt) หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่อ้างอิงกับ หุ้นต่างประเทศรายตัว
ภาพรวมตลาดหุ้นจีนมีมูลค่าหลักทรัพย์รวมราว 11.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ ก.พ. 2025, CEIC Data) ขณะที่ P/E Ratio ล่าสุดอยู่ที่ 11.3 เท่า (ณ วันที่ 12 ก.ย. 2025, World PE Ratio)
ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นจีน
“CN01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC CSI 300 Index ETF (3188.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี CSI 300 ซึ่งครอบคลุมหุ้น A-Shares ชั้นนำของจีนแผ่นดินใหญ่จำนวน 300 บริษัท เช่น Kweichow Moutai, ICBC, China Merchants Bank, PetroChina, Ping An Insurance
“CNTECH01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC Hang Seng TECH Index ETF (3088.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง บริหารโดย China Asset Management (ChinaAMC) ลงทุนตามดัชนี Hang Seng TECH Index ซึ่งประกอบด้วย 30 บริษัทเทคโนโลยีจีนชั้นนำ เช่น Tencent, Alibaba, Meituan, Xiaomi, JD.com, SMIC
“HKCE01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng China Enterprises Index ETF (2828.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (HSCEI) ซึ่งสะท้อนผลการดำเนินงานของ Mainland Securities ที่จดทะเบียนในฮ่องกง (ครอบคลุม H-Shares, Red Chips และ P-Chips) จำนวน 50 บริษัท เช่น ICBC, CCB, Ping An Insurance, PetroChina, China Mobile
“HKTECH13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng TECH Index ETF (3032.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี Hang Seng TECH Index เช่นเดียวกับ CNTECH01 แต่บริหารโดย Hang Seng Investment Management
“STAR5001” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Premia China STAR50 ETF (3151.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี SSE Science and Technology Innovation Board 50 (STAR 50) ซึ่งรวม 50 บริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำในตลาด STAR Board ของจีนแผ่นดินใหญ่ เช่น SMIC, Cambricon, Hygon, Montage Technology, AMEC, Kingsoft Office
“HK01” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Tracker Fund of Hong Kong ETF (2800.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เพื่อติดตามผลการเคลื่อนไหวของ ดัชนี Hang Seng Index (HSI) ซึ่งถือเป็นดัชนีหลักของตลาดหุ้นฮ่องกง ปัจจุบันครอบคลุมกว่า 80 บริษัทชั้นนำ ที่สะท้อนเศรษฐกิจของฮ่องกงและจีนในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับโลก เช่น HSBC, AIA Group, CK Hutchison, CLP Holdings, HKEX รวมถึง Tencent, Alibaba, Meituan, Xiaomi
“HK13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Tracker Fund of Hong Kong ETF (2800.HK) เช่นเดียวกับ HK01 แต่แตกต่างกันตรงที่ HK01 ออกโดย บล.บัวหลวง ส่วน HK13 ออกโดย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
“HSHD23” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Global X Hang Seng High Dividend Yield ETF (3110.HK) ซึ่งลงทุนตามดัชนี Hang Seng High Dividend Yield Index ครอบคลุมหุ้นฮ่องกง 50 บริษัทที่มีอัตราปันผลสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโฟกัส หุ้นปันผล (Dividend Play) จากตลาดฮ่องกงโดยตรง
เมื่อมองรวมกัน ทั้งดัชนีหุ้นจีนและฮ่องกงจึงเปรียบเสมือนสองฟันเฟืองหลักของเศรษฐกิจ Greater China ฝั่งหนึ่งคือพลังการผลิตและเทคโนโลยี อีกฝั่งคือศูนย์กลางการเงินและบริษัทบลูชิพที่มั่นคง ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่าน DR ที่ซื้อขายในตลาดไทย
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในตลาดขนาดใหญ่ระดับโลก โดยมีค่า P/E Ratio อยู่ที่ 15.8 เท่า (ณ วันที่ 15 ก.ย. 2025, World PE Ratio) ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับตลาดสหรัฐฯ และยุโรป อีกทั้ง Statista คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 มูลค่าตลาดรวมของญี่ปุ่นอาจแตะระดับ 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (Statista, Global Stock Markets by Country) สะท้อนศักยภาพและความพร้อมของญี่ปุ่นในการกลับมาครองความเป็นผู้นำในเอเชียอีกครั้ง
ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นญี่ปุ่น
“JAP03” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Global X Japan Global Leaders ETF (3150.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี FactSet Japan Global Leaders Index ซึ่งคัดเลือกหุ้นบลูชิปญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่มีรายได้จากต่างประเทศสูง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตน และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เช่น Sony, Toyota, Nintendo, Fast Retailing (Uniqlo)
“JAPAN10001” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng Japan TOPIX 100 Index ETF (3410.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี TOPIX 100 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูง 100 บริษัท เช่น Toyota, Sony, Keyence, Mitsubishi UFJ, Honda
“JAPAN13” : DR ที่อ้างอิงกองทุน ChinaAMC MSCI Japan Hedged to USD ETF (3160.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลงทุนตามดัชนี MSCI Japan 100% Hedged to USD Index ซึ่งมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินเยนต่อดอลลาร์สหรัฐแบบ 100% ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อค่าเงินเยนอ่อนตัวลง
ดัชนีตลาดหุ้น “อินเดีย” ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งเอเชีย
อินเดียกำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลก ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตเร็ว และประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมากที่ขับเคลื่อนกำลังซื้อภายในประเทศ ข้อมูลจาก IMF คาดการณ์ว่าอินเดียจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตสูงที่สุดในเอเชียต่อเนื่องหลายปี และดัชนี Nifty 50 ก็ทำสถิติ New High อย่างต่อเนื่อง
อินเดียยังคงเป็นหนึ่งใน เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่โตเร็วที่สุดในโลก โดย GDP ไตรมาส 1/2568 ขยายตัว 7.4% (ณ วันที่ 30 พ.ค. 2025, IMF) ขณะที่โครงสร้างประชากรมีอายุเฉลี่ยเพียง 28 ปี (ณ ปี 2025, United Nations World Population Prospects) ซึ่งสะท้อนฐานแรงงานและกำลังซื้อที่แข็งแกร่งระยะยาว
“QQQM19” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Invesco NASDAQ 100 ETF (QQQM) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NASDAQ) ลงทุนตามดัชนี NASDAQ-100 เช่นเดียวกัน จุดที่ต่างออกไปคือ QQQM19 อ้างอิงกับกองทุนที่ซื้อขายในตลาดสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนไทยสามารถเทรด DR ได้ ตามเวลาตลาดสหรัฐฯ เปิดทำการ (เวลากลางคืนตามเวลาไทย) นอกเหนือจากช่วงกลางวันที่เทรด DR อื่น ๆ . “SP50001” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Hang Seng S&P 500 Index ETF (3195.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ลงทุนตามดัชนี S&P 500 ซึ่งสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ 500 บริษัทจากทุกอุตสาหกรรม เช่น Apple, Microsoft, Johnson & Johnson, JPMorgan Chase และ ExxonMobil
นอกจากดัชนีหุ้นประเทศต่าง ๆ ยังมี DR ที่อ้างอิงกับดัชนีธีมการลงทุนระดับโลก และสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย
ส่อง DR ที่อ้างอิงดัชนีอื่น ๆ
กองทุนแม่อย่าง SPDR Gold Shares (GLD) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NYSE Arca) ตั้งแต่ปี 2004 ถือเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 114,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลงทุนในทองคำแท่งจริง ความบริสุทธิ์ 99.5% ตามมาตรฐาน London Good Delivery โดยถือครองทองคำกว่า 939 ตัน ภายใต้การดูแลของ HSBC และ The Bank of New York Mellon ราคาหน่วยลงทุน (NAV) เคลื่อนไหวตาม ราคาทองคำโลก (LBMA Gold Price PM)
DR ที่อ้างอิงจากกองทุน GLD มีให้เลือกหลายตลาด ได้แก่ “GOLD03” : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Trust ETF (2840.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) “GOLD19” : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF (GSD.SI) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) “GOLDUS19” : DR ที่อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF (GLD) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (NYSE Arca) ซึ่งทำให้นักลงทุนไทยสามารถเทรด DR ได้ ตามเวลาตลาดสหรัฐฯ เปิด (กลางคืนตามเวลาไทย) นอกเหนือจากช่วงกลางวันเหมือน DR อื่น ๆ
“OIL03” : DR ที่อ้างอิงกองทุน Global X S&P Crude Oil Futures Enhanced ER ETF (3097.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ลงทุนตามดัชนี S&P Crude Oil Enhanced Index ผ่านสัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ โดยออกแบบมาเพื่อเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบโลก
“WORLD03” : DR ที่อ้างอิงกับ Global X Innovative Blue Chip Top 10 ETF (3422.HK) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ระดับโลก 10 บริษัท ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นสหรัฐฯ เช่น Apple, Microsoft, NVIDIA, Tesla และ Alphabet (Google)
วิธีลงทุนง่าย ๆ ผ่าน DR
- ถ้ามีบัญชีหุ้นไทยอยู่แล้ว เพียงพิมพ์ชื่อย่อ DR ที่สนใจ ก็สามารถซื้อขายได้เลย