ในยุคโลกาภิวัตน์ที่เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันมากขึ้น นักลงทุนไทยเริ่มมองหาโอกาสลงทุนที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือการลงทุนในหุ้นจีนที่มีอัตราปันผลสูง ซึ่งปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นผ่านตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) สัญลักษณ์ HSHD23 ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็น Global X Hang Seng High Dividend Yield ETF (3110.HK) ซึ่งเป็น ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนี Hang Seng High Dividend Yield ที่รวบรวมหุ้นจีนที่มีอัตราปันผลสูง 50 ตัว
เป็นดัชนีที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้นที่มีอัตราปันผลสูงในตลาดฮ่องกง โดยมีจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างจากดัชนีทั่วไป ดัชนีนี้เฉลี่ยให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 6 - 8% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นโลกและสูงกว่าผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลจีนที่อยู่ที่ประมาณ 2 - 3% โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
เนื่องจากหุ้นที่มีอัตราปันผลสูงมักเป็นหุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคงและสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีนี้มีความผันผวนต่ำกว่าดัชนี Hang Seng, Hang Seng Tech หรือ Hang Seng China Enterprises อย่างชัดเจน ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ดัชนี Hang Seng High Dividend Yield ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีอื่นๆ ในตลาดฮ่องกงอย่างสม่ำเสมอ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นปันผลสูง
การคัดเลือกหุ้นเข้าสู่ดัชนี Hang Seng High Dividend Yield มีกระบวนการที่เข้มงวดและมีระบบ 3 ขั้นตอนหลัก ขั้นตอนแรก หุ้นทั้งหมดในตลาดจะถูกจัดอันดับตามอัตราเงินปันผลสุทธิ โดยบริษัทต้องมีประวัติการจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปีติดต่อกัน หากหุ้นใดมีอัตราปันผลสูงเกิน 7% จะมีการตรวจสอบและปรับปรุงให้แยกเงินปันผลพิเศษออกจากการคำนวณ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สะท้อนความสามารถในการจ่ายปันผลอย่างแท้จริง
Global X Hang Seng High Dividend Yield ETF (3110.HK) เป็น ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงตั้งแต่ปี 2013 บริหารโดย Global X ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนขนาดใหญ่ระดับโลกภายใต้ Mirae Asset Global Investments มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 356.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยหุ้น 50 ตัว และมีค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.68% ต่อปี โดยมีการจ่ายเงินปันผลประมาณปีละ 2 ครั้ง
China Hongqiao Group (ผู้ผลิตอลูมิเนียมชั้นนำ)
China Hongqiao Group (1378 HK) คิดเป็นสัดส่วนราว 3.4% ของดัชนีในปัจจุบัน เป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของจีน มียอดขายอลูมิเนียม 6.6 ล้านตันในปี 2024 โดยตลาดหลักรวมถึงอสังหาริมทรัพย์, บรรจุภัณฑ์, ระบบไฟฟ้า และยานยนต์ บริษัทมีอัตราปันผลคาดการณ์ปี 2025 ที่ 7.1% ความต้องการอลูมิเนียมจากพลังงานทดแทนจะช่วยชดเชยความอ่อนแอจากภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่กำไรที่สูงขึ้นจากส่วนอลูมินาจะสนับสนุนผลกำไรที่แข็งแกร่งในปีนี้
COSCO Shipping Holdings (ยักษ์ใหญ่การขนส่งทางเรือ)
COSCO Shipping Holdings (1919 HK) คิดเป็นสัดส่วนราว 3.2% ในปัจจุบัน เป็นบริษัทขนส่งทางเรือรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก มีกองเรือ 538 ลำ ความจุรวมกว่า 3 ล้าน TEU มีอัตราปันผลคาดการณ์ปี 2025 ที่ 7.8% บริษัทอาจได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้ความจุการขนส่งลดลง นำไปสู่การแออัดของท่าเรือซึ่งจะทำให้ดัชนี SCFI สูงขึ้น และส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัท
Yue Yuen Industrial (ผู้ผลิตรองเท้ากีฬาชั้นนำโลก)
Yue Yuen Industrial (551 HK) คิดเป็นสัดส่วนราว 3.0% ในปัจจุบัน เป็นผู้ผลิต OEM รองเท้ากีฬารายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ค้าปลีก/ขายส่งสินค้ากีฬาในจีน โดย Nike และ Adidas เป็นลูกค้ารายใหญ่ มีอัตราปันผลคาดการณ์ปี 2025 สูงถึง 10.8% บริษัทมีกำลังการผลิตในจีนใต้, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, บังกลาเทศ และกัมพูชา ด้วยกำลังการผลิตประจำปี 250-300 ล้านคู่ต่อปี ทำให้มีความยืดหยุ่นในการผลิตและลดต้นทุน
Hysan Development (ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง)
Hysan Development (14 HK) คิดเป็นสัดส่วนราว 2.5% ในปัจจุบัน ลงทุนในอาคารพาณิชย์เช่าและที่อยู่อาศัยหรูหราในฮ่องกง มีพื้นที่เช่าประมาณ 4.5 ล้านตารางฟุต ส่วนใหญ่ในย่าน Lee Gardens ของ Causeway Bay มีอัตราปันผลคาดการณ์ปี 2025 ที่ 7.7% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงในหมู่เจ้าของที่ดิน บริษัทมีชื่อเสียงในธุรกิจการลงทุน การจัดการ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง
Agricultural Bank of China (ธนาคารชั้นนำของจีน)
Agricultural Bank of China (1288 HK) คิดเป็นสัดส่วนราว 2.4% ในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในธนาคารใหญ่ 4 อันดับแรกของจีน ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารแก่บริษัทและรายย่อย การจัดการสินทรัพย์ และการดำเนินงานคลังสินค้า มีอัตราปันผลคาดการณ์ปี 2025 ที่ 4.6% การฉีดเงินทุนที่สำคัญจากรัฐบาลอาจให้ความยืดหยุ่นแก่ธนาคารในการบริหารพอร์ตการให้สินเชื่อและช่วยสนับสนุนการจ่ายปันผลที่มั่นคง
ความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทจีน บริษัทจีนส่วนใหญ่ในดัชนีมี Free Cash Flow ที่แข็งแกร่งเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่น ด้วยอัตราส่วน FCF/(Dividend + Buyback) ของจีนอยู่ที่ 2.25 เท่า เปรียบเทียบกับเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน) ที่ 1.40 เท่า และสหรัฐอเมริกาที่ 1.14 เท่า นอกจากนี้ จีนมีสัดส่วนบริษัทที่มีเงินสดสุทธิสูงถึง 49% เปรียบเทียบกับเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน) ที่ 43.1% และสหรัฐอเมริกาที่ 18.9% แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทจีน
นโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ถือหุ้น รัฐบาลจีนมีนโยบายระบบประเมินมูลค่าแบบจีน (Valuation System with Chinese Characteristics) ที่เน้นการสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะบริษัทรัฐวิสาหกิจ (SOE) ที่คิดเป็นกว่า 50% ของดัชนี จะถูกประเมินผลงานผู้บริหารจาก ROE และ Market Capitalization ทำให้ผู้บริหารมีแรงจูงใจที่จะพัฒนาบริษัทเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง
สภาพคล่องและราคาที่เป็นธรรม บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ มี Market Maker ที่คอยดูแลสภาพคล่องของ DR ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าสามารถซื้อขาย DR ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดไทยเปิดตรงกับตลาดต่างประเทศ ภายใต้ความร่วมมือในกลุ่ม SCBX ทำให้ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้ โดยกลไกการดูแลสภาพคล่องนี้ช่วยให้ราคาซื้อขาย DR ในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีความสอดคล้องกับราคาของหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ลดความเสี่ยงจากการเบี่ยงเบนของราคา
HSHD23 มีอัตราอ้างอิง 1 หลักทรัพย์อ้างอิง ต่อ 20 DR เริ่มซื้อขายวันแรกเมื่อ 24 มิถุนายน 2568 ในช่วงเวลา 10.00 - 16.30 น. ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับนักลงทุนไทยทุกระดับ โดยเป็นอีกหนึ่งโอกาสลงทุนที่ไม่ควรพลาด เหมาะสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการรายได้ปันผลที่สูงและสม่ำเสมอจากหุ้นจีนคุณภาพดีที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด การกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพการเติบโตสูง ความสะดวกในการลงทุนโดยไม่ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ ประโยชน์ด้านภาษีจากการยกเว้นภาษีกำไรจากส่วนต่างราคา
ด้วยสถานการณ์ที่รัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนการจ่ายปันผลและสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น รวมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังมาตรการกระตุ้นต่างๆ HSHD23 จึงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนสม่ำเสมอเฉลี่ย 6 – 8 ต่อปีในระยะยาว
สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการลงทุนใน DR กลไกการเคลื่อนไหวของราคา ตลอดจนวิธีการซื้อขาย และกลยุทธ์ลงทุนใน DR สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ฟรี!!! ผ่าน e-Learning หลักสูตร “ลงทุน DR ฉบับมือใหม่” ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูล HSHD23 เพิ่มเติมได้ >> คลิกที่นี่