วิเคราะห์หุ้นท่องเที่ยวแบบเซียน เปลี่ยนให้เป็นกำไร

โดย ภัทรธร ช่อวิชิต CISA นักลงทุนเน้นคุณค่า
3 Min Read
16 กรกฎาคม 2568
104 views
TSI-Article-698-Inv-stock-analysis-travel-industry-profit-Thumbnail
Highlights
  • การจะเปลี่ยนข่าวดีเรื่องนักท่องเที่ยวให้กลายเป็นกำไรในพอร์ตลงทุนนั้น ต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่การนับจำนวนนักท่องเที่ยว โดยต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจว่านักท่องเที่ยวมาจากไหน เพราะแต่ละชาติมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ส่งผลต่อธุรกิจแตกต่างกัน

  • ต้องวิเคราะห์ตัวชี้วัดสำคัญของแต่ละธุรกิจให้เป็น เช่น รายได้ต่อห้องที่ใช้งานจริงของโรงแรม อัตราการบรรทุกผู้โดยสารของสายการบิน หรือรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบิน หัวใจสำคัญอีกประการคือการเข้าใจพลังของ Operating Leverage ซึ่งเมื่อธุรกิจผ่านจุดคุ้มทุนไปแล้ว จะเป็นช่วงที่กำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด การเข้าใจกลไกเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสและตัดสินใจลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

  • การลงทุนในหุ้นท่องเที่ยวไม่ใช่แค่ตามข่าวดี แต่ต้องเข้าใจว่าธุรกิจทำงานอย่างไร และมีสัญญาณอะไรในงบการเงินที่บ่งบอกถึงศักยภาพ ใช้ Checklist 5 ข้อ เป็นตัวช่วย เพื่อให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำและมั่นใจยิ่งขึ้น

ภาคการท่องเที่ยว คือ หัวใจของเศรษฐกิจไทยที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก แต่การจะเปลี่ยนข่าวดีเรื่องนักท่องเที่ยวให้กลายเป็นกำไรในพอร์ตลงทุนนั้นต้องอาศัยการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่การนับจำนวนนักท่องเที่ยว นั่นคือ การวิเคราะห์หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดและนำไปต่อยอดการลงทุนได้จริง

1.นักท่องเที่ยวมาจากไหน สำคัญกว่ามากี่คน

ก่อนจะดูตัวเลขบริษัท สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การเข้าใจภาพรวมการท่องเที่ยว ตัวเลขสำคัญที่สุด คือ แนวโน้มนักท่องเที่ยว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าจำนวน คือ ที่มาของนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวแต่ละชาติมีพฤติกรรมการใช้จ่ายและสไตล์การท่องเที่ยวต่างกัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวแต่ละประเภท

 

ตัวอย่าง

  • นักท่องเที่ยวยุโรป/อเมริกา มักจะพักนาน (Long Stay) และมีแนวโน้มใช้จ่ายต่อหัวสูง หุ้นกลุ่ม โรงแรมระดับ 4 - 5 ดาว ที่มีบริการครบวงจรจะได้ประโยชน์เต็มที่
  • นักท่องเที่ยวจีน อาจพักสั้นกว่า แต่เน้นกิจกรรมและชอปปิง หุ้นที่ได้ประโยชน์อาจเป็น โรงแรมที่อยู่ในทำเลใกล้แหล่งชอปปิง ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่สายการบิน ที่มีไฟลต์บินตรง
  • นักท่องเที่ยวมาเลเซีย (เดินทางทางบก) อาจเน้นท่องเที่ยวเมืองชายแดนภาคใต้ โรงแรมในหาดใหญ่หรือสงขลา ก็จะได้รับอานิสงส์

 

โดยสามารถติดตามข้อมูลเหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อประเมินว่าหุ้นที่สนใจ สอดคล้องกับเทรนด์นักท่องเที่ยวในปัจจุบันหรือไม่

TSI-Article-698-Inv-foreign-visitor-arrival-statistics-by-immigration-checkpoint-per-month

ที่มา : สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (พ.ค 2568)

2.อย่าดูแค่ชื่อ แต่ให้ดูตัววัดผล

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวไม่ได้มีแค่โรงแรม แต่ละประเภทธุรกิจมีปัจจัยสำคัญในการวัดประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน

ธุรกิจโรงแรม เกมของราคาและการเติมห้องให้เต็ม

รายได้หลักของโรงแรมมาจากค่าห้องพักและอาหาร ให้มองโรงแรมเหมือนถังน้ำ การจะทำกำไรสูงสุดไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเติมน้ำ (ลูกค้า) จนเต็มถังเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับมูลค่าของน้ำที่เติมเข้าไปด้วย

ตัวชี้วัดที่ต้องดูเป็นพิเศษ

1.อัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate - OR) ถังน้ำใบนี้ถูกเติมไปกี่เปอร์เซ็นต์
2.ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (Average Daily Rate - ADR) น้ำที่เติมเข้าไปมีราคาสูงแค่ไหน
 
เชื่อมโยงตัวเลขกับกลยุทธ์ สองสิ่งนี้ต้องดูคู่กันเสมอเพื่อหา รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมด (RevPAR = OR x ADR) ซึ่งเป็นตัววัดประสิทธิภาพที่แท้จริง

 

ตัวอย่าง

โรงแรมหรู A OR อาจจะแค่ 65% แต่ ADR สูงถึง 8,000 บาท (RevPAR = 5,200 บาท)

โรงแรมบัดเจ็ท B OR สูงถึง 90% แต่ ADR อยู่ที่ 1,500 บาท (RevPAR = 1,350 บาท)

 

จะเห็นว่าโรงแรม A ไม่จำเป็นต้องเต็ม แต่ทำรายได้ต่อห้องสูงกว่ามาก นี่คือการสะท้อนกลยุทธ์การเลือกกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน

ธุรกิจสายการบิน สงครามต้นทุนและประสิทธิภาพบนท้องฟ้า

รายได้ของสายการบินมาจากค่าตั๋วและบริการเสริม แต่ธุรกิจนี้มีความผันผวนสูงจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ราคาน้ำมัน ดังนั้น ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการจึงเป็นกุญแจสำคัญ

 

  • 4 ตัวชี้วัดที่ต้องดูเป็นพิเศษมีดังนี้
 
1.อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor)
เปอร์เซ็นต์ของที่นั่งที่มีผู้โดยสารจริง “ยิ่งสูงยิ่งดี” แสดงว่าสายการบินใช้ประโยชน์จากที่นั่งได้เต็มที่
 
2.รายได้ต่อหน่วยที่นั่งและระยะทาง (Revenue Passenger Kilometer: RPK)
วัดรายได้ที่สายการบินทำได้ต่อผู้โดยสารที่เดินทางหนึ่งกิโลเมตร
 
3.ต้นทุนต่อหน่วยที่นั่งและระยะทาง (Available Seat Kilometer: ASK)
วัดต้นทุนที่สายการบินใช้ในการให้บริการที่นั่งหนึ่งที่นั่งต่อหนึ่งกิโลเมตร
 
4.อัตราการใช้เครื่องบิน (Aircraft Utilization)
จำนวนชั่วโมงที่เครื่องบินถูกใช้งานต่อวัน “ยิ่งสูงยิ่งดี” แสดงถึงประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์

ธุรกิจสนามบิน เหมือนเจ้าของทำเลทอง ที่เก็บค่าผ่านทาง

รายได้ของสนามบินมาจากค่าธรรมเนียมจากสายการบินและผู้โดยสาร รวมถึงรายได้จากการให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Non-Aero)

  • เชื่อมโยงตัวเลขกับกลยุทธ์ ให้มองสนามบินเป็น Landlord ที่มีความมั่นคงสูงกว่าโรงแรมและสายการบิน จุดที่ต้องวิเคราะห์ คือ สัดส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบิน (Non-Aero) เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร ดิวตี้ฟรี เพราะเป็นรายได้ที่มีอัตรากำไรสูง สนามบินที่บริหารพื้นที่เก่ง จะสามารถสร้างกำไรเติบโตได้ดีแม้จำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้นไม่มาก

3.จุดตัดสินกำไรขาดทุน พลังของ Operating Leverage

ธุรกิจกลุ่มท่องเที่ยวมีลักษณะร่วมกัน คือ ต้องลงทุนหนักในสินทรัพย์ถาวร เช่น ที่ดิน อาคาร เครื่องบิน ไม่ว่าจะมีลูกค้าหรือไม่ ต้นทุนคงที่เหล่านี้เกิดขึ้นเสมอ (ค่าเสื่อมราคา, ค่าพนักงาน, ค่าซ่อมบำรุง) ดังนั้น หัวใจของการวิเคราะห์จึงอยู่ที่ จุดคุ้มทุน (Breakeven Point) และพลังของ Operating Leverage เปรียบเทียบง่ายๆ โดยลองนึกภาพการสร้างสวนน้ำขนาดใหญ่ที่ลงทุนไป 1,000 ล้านบาท

 

  • ช่วงแรก (รายได้ต่ำกว่าจุดคุ้มทุน) สวนน้ำเพิ่งเปิด มีคนมาเที่ยว 500 คนต่อวัน รายได้อาจยังไม่พอจ่ายค่าพนักงานและค่าดูแลรักษารายวันด้วยซ้ำ ช่วงนี้จะขาดทุนหนัก
  • ณ จุดคุ้มทุน สมมติว่าต้องมีคนมา 2,000 คนต่อวัน ถึงจะเท่าทุนพอดี
  • ช่วงทอง (รายได้สูงกว่าจุดคุ้มทุน) เมื่อมีคนมาเที่ยว 2,500 คนต่อวัน รายได้จากลูกค้าคนที่ 2,001 เป็นต้นไป จะกลายเป็นกำไรเกือบทั้งหมด เพราะต้นทุนคงที่ขนาดใหญ่ (ค่าก่อสร้าง) ถูกจ่ายไปแล้ว นี่คือพลังของ Operating Leverage ที่ทำให้กำไรโตเร็วกว่ารายได้

 

วิธีมองหาสัญญาณ รู้ทันหุ้นโตจากงบการเงิน

1.สัญญาณการลงทุน มองหาที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ในงบแสดงฐานะการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือสัญญาณว่าบริษัทกำลังลงทุนเพื่อการเติบโต

 

2.สัญญาณใกล้คุ้มทุน มองหาบริษัทที่เพิ่งลงทุนใหญ่ไป และเริ่มเห็นรายได้เติบโตต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่เริ่มขยับขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเครื่องจักรทำเงินกำลังจะเริ่มทำงานเต็มประสิทธิภาพ และกำไรกำลังจะเติบโตก้าวกระโดด



เนื้อหานี้มีประโยชน์กับคุณแค่ไหน?

เจาะลึกหุ้นท่องเที่ยว 5 Checklist ที่นักลงทุนต้องรู้

TSI-Article-698-Inv-stock-analysis-travel-industry-profit-01

การวิเคราะห์หุ้นท่องเที่ยวต้องมองให้ทะลุมากกว่าแค่ข่าวดี แต่ต้องเข้าใจกลไกธุรกิจและสัญญาณจากงบการเงิน ลองใช้ Checklist 5 ข้อนี้ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

 

1.เทรนด์นักท่องเที่ยวตรงกับธุรกิจหรือไม่

เช็ก: กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่กำลังเติบโต (เช่น ยุโรป, จีน, อาเซียน) เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทหรือไม่

 

2.ตัวชี้วัดหลัก (Key Metrics) ดีขึ้นต่อเนื่องหรือไม่

เช็ก: โรงแรม (RevPAR เพิ่มขึ้น) สายการบิน (Load Factor สูงและสม่ำเสมอ) สนามบิน (รายได้ Non-Aero โตดี)

 

3.บริษัทผ่านจุดคุ้มทุนแล้วหรือยัง

เช็ก: อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารายได้เริ่มแซงหน้าต้นทุนคงที่แล้ว

 

4.บริษัทอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวหรือลงทุน

เช็ก: งบลงทุน (CAPEX) และสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นสูงหรือไม่ หากใช่ บริษัทอาจอยู่ในช่วงลงทุนที่กำไรยังไม่มาก แต่หากการลงทุนจบแล้วและรายได้กำลังมา นี่คือ ช่วงเก็บเกี่ยว

 

5.กลยุทธ์ของบริษัทคืออะไร (เกมปริมาณหรือเกมคุณภาพ)

เช็ก: บริษัทเน้นลูกค้าจำนวนมากราคาประหยัดหรือเน้นลูกค้าน้อยแต่ใช้จ่ายสูง กลยุทธ์นั้นสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้จริงหรือไม่


สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่สนใจ เรียนรู้องค์ประกอบต่าง ๆ ของงบการเงิน และเทคนิคการอ่านงบการเงินแบบง่าย เพื่อประเมินศักยภาพของกิจการประกอบการตัดสินใจลงทุน ผ่าน SET e-Learning หลักสูตร “Financial Statement Analysis” ได้ฟรี!

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน