ส่อง 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอกผ่าน DR

โดย SET
5 Min Read
3 กรกฎาคม 2568
330 views
ส่อง 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอกผ่าน  DR_7
In Focus

DR (Depositary Receipt) คือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่สามารถซื้อขายหุ้นหรือ ETF เป็นเงินบาท ผ่านบัญชีหุ้นไทยได้เลย และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเหมือนกับหุ้นไทย

ส่อง 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอกผ่าน  DR_2

ทำความรู้จัก DR (Depositary Receipt)

DR หรือ Depositary Receipt เป็นการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย ในรูปแบบของ "ตราสารแสดงสิทธิ" ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงาน ก.ล.ต.

โดยผู้ออกตราสาร ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ จะเป็นผู้ดำเนินการซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศเข้ามา และนำมาจดทะเบียนเป็น DR เพื่อให้ผู้ลงทุนซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ไทยด้วยสกุลเงินบาท และใช้เงินลงทุนไม่มาก 

โดยสินทรัพย์ของ DR มีให้เลือกลงทุนได้ 2 ประเภท ได้แก่ "หุ้น" และ "ETF" ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามความถนัดและเป้าหมายการลงทุนที่ต้องการ

 

✔ DR ที่อ้างอิง "หุ้นรายตัว" เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีพื้นฐานความรู้หรือความสนใจในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเป็นพิเศษ และเข้าใจโมเดลธุรกิจเป็นอย่างดี เช่น เทคโนโลยี, พลังงาน, หรือสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น

Note สิ่งที่ต้องทำก่อนลงทุน : ศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างละเอียด อ่านงบการเงิน รายงานประจำปี แผนธุรกิจจากผู้บริหาร ภาวะอุตสาหกรรม และปัจจัยเฉพาะของบริษัทนั้น ๆ อย่างรอบด้าน

 

✔ DR ที่อ้างอิง "ETF" เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนและไม่มีเวลาศึกษาหุ้นรายตัว การลงทุน DR ที่อ้างอิง ETF ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เนื่องจาก ETF คือ กองทุนรวมดัชนีที่มีการลงทุนในหุ้นหลายตัวตามดัชนีที่อ้างอิง เช่น S&P 500, NASDAQ 100 หรือดัชนีหุ้นเวียดนาม เป็นต้น

 

การลงทุนใน ETF จึงเป็นการลงทุนที่ช่วยกระจายความเสี่ยงได้โดยอัตโนมัติ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในภาพรวมของตลาดหรืออุตสาหกรรมนั้น ๆ

 

Note สิ่งที่ต้องทำก่อนลงทุน : ศึกษาเป้าหมายของ ETF และสินทรัพย์ที่ ETF ลงทุนในแต่ละธีม แม้จะกระจายความเสี่ยงได้ดี แต่นักลงทุนก็ยังต้องทำความเข้าใจว่า ETF นั้น ลงทุนในอะไรบ้าง และมีนโยบายการบริหารจัดการอย่างไร

 

📌 แต่ไม่ว่าผู้ลงทุนจะเลือกลงทุน DR ที่อ้างอิงเป็นหุ้นรายตัวหรือ ETF การวิเคราะห์ "แนวโน้ม" ของธุรกิจ และการประเมิน "มูลค่า" ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนตัดสินใจบนเหตุและผลได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ "Top-Down Analysis" หรือการวิเคราะห์จากภาพรวมไปสู่ภาพย่อย ซึ่งมีด้วยกัน 3 Steps

STEP 1 : มอง “ประเทศ” ที่เติบโต
[วิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจโลก-ประเทศ] พิจารณาภาวะเศรษฐกิจมหภาคของประเทศที่สินทรัพย์อ้างอิงนั้นตั้งอยู่ (เช่น สหรัฐอเมริกา, จีน, เวียดนาม) อาจดูตัวชี้วัดสำคัญ ๆ เช่น อัตราการเติบโต GDP, อัตราเงินเฟ้อ, นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง, นโยบายการคลัง, รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งล้วนมีผลต่อความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน

 

STEP 2 : มอง “ธีม” ที่โดดเด่น

[วิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรม] เมื่อเห็นภาพรวมเศรษฐกิจแล้ว ให้มองหาธีมการลงทุน อุตสาหกรรม หรือภาคส่วนที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยสามารถพิจารณาได้จากปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมนั้น ๆ เช่น นวัตกรรม, เทคโนโลยี, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค หรือนโยบายภาครัฐที่สนับสนุน

 

STEP 3 : มอง “บริษัท” ที่แข็งแกร่ง
[วิเคราะห์สินทรัพย์อ้างอิงรายตัว (หุ้น/ETF) และประเมินราคาที่เหมาะสม] เมื่อระบุอุตสาหกรรมที่น่าสนใจได้แล้ว ค่อยมาพิจารณาหุ้นรายตัว หรือ ETF ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้น ๆ

สำหรับหุ้นรายตัว : เจาะลึกงบการเงิน ผลประกอบการ ความสามารถในการทำกำไร แผนธุรกิจของบริษัท และเปรียบเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน

สำหรับ ETF : ทำความเข้าใจว่า ETF นั้น ลงทุนในหุ้นตัวใดบ้าง มีนโยบายการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เรามองหาหรือไม่

ศึกษาภาพรวมของสินทรัพย์อ้างอิง ควบคู่กับการติดตามความเคลื่อนไหวของราคา DR เพื่อจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม

ส่อง 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอกผ่าน  DR_3

🔍 ถอดรหัส Symbol แบบเข้าใจง่าย 

Symbol หรือสัญลักษณ์ชื่อย่อของ DR (Depositary Receipt) ประกอบด้วยตัวอักษรสูงสุด 10 ตัว โดยที่ 8 ตัวแรก จะหมายถึง ชื่อย่อของหลักทรัพย์ต่างประเทศ และ 2 ตัวท้าย จะหมายถึง หมายเลขผู้ออก DR 

 

ปัจจุบันมีด้วยกันอยู่ 7 ผู้ออก ซึ่งได้แก่

01 - บล.บัวหลวง

03 - บล.พาย

06 - บล.เกียรตินาคินภัทร

13 - บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)

19 - บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

23 - บล. อินโนเวสท์ เอกซ์

80 - ธนาคารกรุงไทย

 

[ตัวอย่าง] การอ่านสัญลักษณ์ชื่อย่อ DR :

เช่น AAPLXX หมายความว่าหลักทรัพย์นี้เป็น DR ของหุ้น APPLE ที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์หมายเลข XX เป็นต้น

 

DR เทรดง่ายเหมือนหุ้นไทย เพียงพิมพ์ชื่อย่อหลักทรัพย์ ตามด้วยหมายเลขผู้ออก
หรือจะเลือกดูรายชื่อ DR ทั้งหมดผ่านแอป Streaming ก็ไปที่เมนู “Watch” กดที่ “Favourite” เลือก “SET” ไปที่ “Stock Type” และเลือก “.DR”

ส่อง 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอกผ่าน  DR_4

ราคา DR มาจากอะไร ? 

ราคา DR สามารถคำนวณได้จาก ราคาสินทรัพย์อ้างอิง (สกุลเงินต่างประเทศ) x อัตราแลกเปลี่ยน (สกุลเงินบาท) / อัตราแปลงสภาพ (อัตราส่วน DR ต่อสินทรัพย์อ้างอิง)

แต่เนื่องจากสินทรัพย์ต่างประเทศที่อ้างอิงตัวเดียวกันอาจมีหลายผู้ออก ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรทำความเข้าใจเรื่อง “อัตราแปลงสภาพ” (DR : สินทรัพย์อ้างอิง) ร่วมด้วย เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคา DR แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น 

AAPLXX(1) ที่ออกโดยผู้ออกหมายเลข XX(1) มีอัตราแปลงสภาพ 340 DR : 1 หุ้นอ้างอิง 

หรือ AAPLXX(2) ที่ออกโดยผู้ออกหมายเลข XX(2) มีอัตราแปลงสภาพ 1,000 DR : 1 หุ้นอ้างอิง  

 

📖 อัตราแปลงสภาพ DR คือ อัตราส่วนที่บอกว่าต้องใช้ DR กี่หน่วย เพื่อแลกเป็นสินทรัพย์อ้างอิง 1 หน่วย (เช่นหุ้นต่างประเทศ) โดยผู้ออก DR แต่ละรายจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบอัตราแปลงสภาพของ DR ได้จาก เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ออก

Tips : ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำ "Indicative Price” ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุน โดยใช้ดูแนวโน้มราคา DR เทียบกับราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในรูปแบบของสกุลเงินบาท เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ลงทุนเปรียบเทียบได้ว่าราคาในตลาดที่กำลังซื้อขาย ณ ขณะนั้น “แพงกว่า” หรือ “ถูกกว่า” มูลค่าที่ควรจะเป็นมากน้อยแค่ไหน โดยที่ผู้ลงทุนไม่ต้องนั่งคำนวณเองให้ยุ่งยาก ช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น ว่าควรซื้อหรือขาย DR ในราคาปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งสามารถดูได้ผ่านเว็บไซต์ SET และ SETTRADE


🔔 สำหรับใครที่ต้องการทำความเข้าใจ Indicative Price คลิกอ่านต่อได้ที่นี่ 👉 https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/520-investhow-indicative-price

ส่อง 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอกผ่าน  DR_5

📑 สินทรัพย์อ้างอิงเดียวกัน ผู้ออกต่าง ทำไมราคาถึงต่าง

1) อัตราแปลงสภาพ ราคา DR ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนแปลงสภาพ (Conversion Ratio) ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกว่าต้องใช้ DR จำนวนกี่หน่วยจึงจะสามารถนำไปแปลงเป็นหุ้นอ้างอิงได้ 1 หุ้น

เช่น อัตราแปลงสภาพ 100:1 หมายความว่า DR ทุกๆ 100 หน่วย จะเทียบเท่ากับหุ้นอ้างอิงได้ 1 หุ้น ดังนั้น DR ที่มีอัตราแปลงสภาพ 100:1 จึงมีสิทธิในหุ้นอ้างอิงมากกว่า DR ที่มีอัตราแปลงสภาพ 1000:1

ความแตกต่างของราคา DR ที่เกิดจากอัตราแปลงสภาพที่ต่างกัน ไม่ได้สะท้อนว่า DR ตัวใด “ดีกว่า” หรือ “แย่กว่า” เพียงแต่อัตราแปลงสภาพที่ต่ำกว่าจะมีราคา DR ต่อหน่วยสูงกว่า  


2) อัตราแลกเปลี่ยน ผู้ออกแต่ละรายใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันเล็กน้อยในการคำนวณราคา DR ซึ่งส่งผลให้ราคาของ DR แตกต่างกันได้

 

3) สภาพคล่อง DR จะมี Market Maker ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง ดังนั้น การพิจารณาแค่ปริมาณการซื้อขายอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ ควรพิจารณาปัจจัยอื่นประกอบด้วย เช่น ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดูแลสภาพคล่องของผู้ออก DR ให้เคลื่อนไหวตามราคาหลักทรัพย์อ้างอิงต่างประเทศ และการวาง Bid-Offer ให้นักลงทุนสามารถซื้อและขายราคา DR ได้ในราคาที่เหมาะสม 

ส่อง 5 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นนอกผ่าน  DR_6

💰 ผลตอบแทนจากการลงทุนใน DR

กำไรส่วนต่างราคา

กำไรที่ได้จากการลงทุนผ่าน DR จะได้รับการยกเว้นภาษี เสมือนการลงทุนในหุ้นไทย ขณะที่การลงทุนต่างประเทศโดยตรง ผู้ลงทุนจะต้องนำกำไรจากการลงทุนมาคำนวณรวมกับรายได้ในปีภาษีนั้น โดยอัตราการจ่ายภาษีจะขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละบุคคล

 

✅ การรับเงินปันผล

ผู้ถือ DR จะได้รับเงินปันผลในสกุลเงินบาท ผ่านบัญชีธนาคารที่ให้ไว้กับโบรกเกอร์ โดยมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ซึ่งผู้ออกจะหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามที่ระบุไว้ในสัญญารับฝาก (ถ้ามี) ผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลการจ่ายเงินปันผลได้จากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

🔔 สำหรับใครที่ต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DR คลิกอ่านต่อที่นี่ : www.set.or.th/dr

DR มีให้เลือกลงทุนมากมายกว่า 100 ตัว ครอบคลุมบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก ทั้งในอเมริกา จีน ยุโรป และอีกหลายประเทศ

📲ผู้ลงทุนที่มีบัญชีหุ้นไทย สามารถพิมพ์ชื่อย่อ DR ก็เทรดได้เลย! หรือจะเลือกดูรายชื่อ DR ทั้งหมดผ่านแอป Streaming ก็ไปที่เมนู “Watch” กดที่ “Favourite” เลือก “SET” ไปที่ “Stock Type” และเลือก “.DR”

🌍 เพิ่มโอกาสการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย ไปกับ DR (Depositary Receipt) สะดวกง่าย ✅ ซื้อขายด้วยเงินบาท ✅ เพียงมีบัญชีหุ้นไทยเทรดได้เลย !

หากยังไม่มีบัญชีหุ้น เริ่มต้นเปิดบัญชีลงทุนผ่านแอป Streaming ได้ที่:📲 https://portaltest2.settrade.com/C00_BeginnerRedirect.jsp?txtPage=beginnerZone/th/beginner-broker-list.html

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน