อ่านงบการเงินหุ้น Turnaround เพื่อการลงทุนที่แม่นยำ

โดย ภัทรธร ช่อวิชิต CISA นักลงทุนเน้นคุณค่า
3 Min Read
20 มิถุนายน 2568
871 views
TSI-Article-693-Inv-read-financial-statements-turnaround-stocks-Thumbnail
Highlights
  • หุ้น Turnaround คือหุ้นที่เคยขาดทุนแต่มีศักยภาพในการพลิกฟื้นกลับมาทำกำไรและเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ หุ้นที่ขาดทุนแต่มีโอกาสเติบโตสูง หุ้นที่ขายธุรกิจที่ขาดทุนทิ้งเพื่อเน้นไปที่ธุรกิจหลัก และหุ้นที่ราคาขึ้นแต่ธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง

  • การวิเคราะห์หุ้น Turnaround ต้องเจาะลึกงบการเงินเพื่อจับสัญญาณการฟื้นตัว เช่น รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น, การลดค่าใช้จ่ายคงที่, การจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการตัดขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไรออกไป เพื่อความปลอดภัยในการลงทุน

  • ปัจจัยที่ไม่ใช่ตัวเลขก็มีความสำคัญในการประเมินหุ้น Turnaround ได้แก่ ความสามารถและวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร แผนฟื้นฟูธุรกิจที่ชัดเจนและเป็นไปได้จริง แนวโน้มอุตสาหกรรมและภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงข่าวสารและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท

สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในตลาดหุ้น “หุ้น Turnaround” ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หุ้นกลุ่มนี้เปรียบเสมือนเพชรในตมที่รอวันเปล่งประกาย เพราะเป็นหุ้นที่เคยประสบภาวะขาดทุน แต่มีศักยภาพที่จะพลิกฟื้นกลับมาทำกำไรและเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง ดังนั้น การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและการวิเคราะห์อย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

เจาะลึกหุ้น Turnaround หุ้นดีราคาถูกที่พร้อมก้าวกระโดด

หุ้น Turnaround คือ หุ้นที่ผลประกอบการเคยขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แต่สามารถพลิกฟื้นกลับมามีกำไรได้สำเร็จ เปรียบเสมือน แสงสว่างใหม่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการหุ้นดีราคาถูก ที่กำลังจะกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยทั่วไปหุ้นที่ขาดทุนสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลักดังนี้

กลุ่มที่ 1 งบขาดทุนแต่มีโอกาสเติบโตสูง

หุ้นกลุ่มนี้มักเป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น (Introduction) ที่กำลังลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต มีโอกาสสูงที่จะพลิกกลับมาทำกำไรและเติบโตอย่างก้าวกระโดด หุ้นที่ให้ผลตอบแทน 10 เด้งขึ้นไปส่วนใหญ่มักมาจากกลุ่มนี้

กลุ่มที่ 2 ขายธุรกิจที่ขาดทุนทิ้งไป

ธุรกิจหลักของบริษัทอาจยังดีอยู่ แต่มีธุรกิจย่อยบางส่วนที่ฉุดรั้งผลประกอบการ ซึ่งการ Turnaround ของหุ้นกลุ่มนี้ คือ การขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไรทิ้งไป เพื่อให้ธุรกิจหลักสามารถดำเนินต่อไปได้ดีขึ้น

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง แต่ราคาขึ้น

หุ้นกลุ่มนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องระวัง เพราะราคาที่ปรับขึ้นมาอาจเป็นเพียงความหวังชั่วคราว ไม่ใช่การ Turnaround ที่แท้จริง หลายบริษัทราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงมาก แต่ถ้าไม่รีบขายออก ราคาอาจกลับมาที่เดิมได้

 

โดยหุ้น Turnaround “ของจริง” มักอยู่ในกลุ่มที่ 1 และอาจรวมถึงกลุ่มที่ 2 หากพิสูจน์ได้ว่าธุรกิจหลักยังแข็งแกร่ง และยิ่งมีคุณสมบัติทั้ง 2 กลุ่มในหุ้นตัวเดียวกัน ยิ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูง


ตัวอย่าง หุ้น ABC ในอดีตที่พลิกจากธุรกิจโทรศัพท์บ้านที่ขาดทุน ไปลงทุนในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และตัดขาดทุนธุรกิจเก่าทิ้งไป เมื่อธุรกิจเติบโตเต็มที่ก็ขายสินทรัพย์เข้ากองทุนiรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจ่ายปันผล และก็ขายธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงออกไป

แกะรอยหาหุ้น Turnaround ด้วยการวิเคราะห์งบการเงิน

TSI-Article-693-Inv-investing-turnaround-stocks-financials

การหาหุ้น Turnaround ที่แท้จริง จำเป็นต้องพิจารณาสัญญาณปัญหาในงบการเงินก่อนเสมอ และเลือกหุ้นที่งบการเงิน เริ่มฟื้นตัวเพื่อความปลอดภัยในการลงทุน ปัญหาที่พบบ่อยในงบการเงิน มีดังนี้

• ลงทุนเกินตัว

บริษัทลงทุนในธุรกิจที่ไม่ถนัดหรือซื้อกิจการมาแพงเกินไป แต่ผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาด

• ผลประกอบการไม่มา (รายได้/กำไรไม่มา)

ทำให้ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ลดลงต่อเนื่องหรือติดลบ ซึ่งหุ้นที่พลิกฟื้นควรจะเห็นสัญญาณการตัดขายธุรกิจที่ไม่จำเป็น หรือ ROA เพิ่มขึ้น

• รายได้ลดลง

บริษัทที่มีรายได้ลดลงต่อเนื่องเพราะปัญหาการแข่งขันมักฟื้นตัวได้ยากแต่หากรายได้คงที่หรือเพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากสินค้าของบริษัทยังอยู่ในความต้องการของตลาด โดยการจะฟื้นเมื่อไหร่ต้องดูอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ประกอบด้วย

• อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)

สะท้อนปัญหาการแข่งขันหรือเป็นหุ้นวัฏจักร ซึ่งโดยทั่วไปไม่ถือเป็น Turnaround แต่อัตรากำไรขั้นต้นมีความสำคัญมากในการพิจารณาหุ้นที่ขาดทุนเพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นมักจะต่ำในช่วงแรก สัญญาณที่ดีในการดูงบ คือ รายได้เริ่มเพิ่มขึ้นพร้อมกับอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น

• ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

มักเป็นต้นทุนคงที่ เมื่อยอดขายเพิ่ม สัดส่วนของค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะลดลง ทำ ให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นตามลำดับ

• ปัญหาหนี้สิน

หนี้สินมักเป็นปลายเหตุของปัญหาธุรกิจที่ไม่ดี ธุรกิจที่มีหนี้สูงไม่ได้แปลว่าแย่เสมอไป ถ้าธุรกิจดีและมีกระแสเงินสดที่สามารถจ่ายหนี้ได้ หรือหากบริษัทค่อย ๆ ทยอยจ่ายหนี้จะทำให้ดอกเบี้ยลดลง และกำไรเพิ่มขึ้นได้


เนื้อหานี้มีประโยชน์กับคุณแค่ไหน?

ตัวอย่างสแกนหุ้น Turnaround

สแกนแบบเน้น Turnaround (ธุรกิจอาจขาดทุน)

  • Total Revenue (YoY % Change) > 0 (รายได้รวมเติบโต)
  • Gross Profit (YoY หรือ QoQ % Change) > 0 (กำไรขั้นต้นเติบโต)
  • Net Profit (ล่าสุด) < 0 (กำไรสุทธิยังติดลบ)

สแกนแบบเน้นหุ้นเติบโต (ธุรกิจมีกำไร)

  • Total Revenue (YoY % Change) > 0 
  • Gross Profit (YoY หรือ QoQ % Change) > 0 
  • Net Profit (ล่าสุด) > 0 


หลังจากได้รายชื่อหุ้นมาแล้ว ควรติดตามข้อมูลข่าวสารและอ่านบทบทวิเคราะห์ประกอบ เพื่อทำความเข้าใจ Story และโอกาสการเติบโตของธุรกิจ หากข้อมูลไม่เพียงพอก็ให้ศึกษาหมายเหตุประกอบงบการเงิน หรือโทรสอบถามนักลงทุนสัมพันธ์ (IR) ของบริษัทนั้น

 

นอกจากตัวเลขในงบการเงินแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ “ปัจจัยที่ไม่ใช่ตัวเลข” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สามารถชี้ขาดได้ว่าบริษัทจะกลับมาเติบโตได้จริงหรือไม่ การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้การวิเคราะห์แม่นยำและรอบด้านมากยิ่งขึ้น

ผู้บริหารและทีมงาน

  • วิสัยทัศน์และความสามารถทีมผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำพาองค์กรให้รอดพ้นจากวิกฤติและกลับมาเติบโตได้หรือไม่ ผู้บริหารมีความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่หรือไม่

  • ความมุ่งมั่นและความน่าเชื่อถือผู้บริหารมีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อฟื้นฟูธุรกิจมากน้อยเพียงใด มีประวัติความน่าเชื่อถือหรือเรื่องอื้อฉาวใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนหรือไม่

  • การปรับเปลี่ยนทีมมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารหรือดึงผู้มีความสามารถใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทีมเพื่อรับมือกับสถานการณ์หรือไม่ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับปรุงองค์กร

กลยุทธ์การฟื้นฟู

  • ความชัดเจนและความเป็นไปได้บริษัทมีแผนการฟื้นฟูธุรกิจที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมหรือไม่ แผนนั้นมีความเป็นไปได้จริงในทางปฏิบัติ และสอดคล้องกับสถานการณ์ของธุรกิจและตลาดหรือไม่

  • มาตรการสำคัญแผนการฟื้นฟูประกอบด้วยมาตรการอะไรบ้าง เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การขยายตลาดใหม่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด หรือการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

  • ความคืบหน้ามีสัญญาณของความคืบหน้าตามแผนการฟื้นฟูที่วางไว้หรือไม่ เช่น การประกาศผลประกอบการที่ดีขึ้นในบางส่วน หรือการรายงานความคืบหน้าของโครงการสำคัญ

อุตสาหกรรมและภาวะเศรษฐกิจ

  • แนวโน้มอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในอนาคตหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมหรือเทรนด์ใหม่ ๆ จะส่งผลดีต่อบริษัทหรือไม่

  • ภาวะเศรษฐกิจมหภาคภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและทั่วโลกเอื้อต่อการฟื้นตัวของธุรกิจหรือไม่ เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภค อัตราดอกเบี้ย หรือนโยบายภาครัฐ

  • การเปลี่ยนแปลงทางการแข่งขันคู่แข่งในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร มีคู่แข่งรายใหม่เข้ามา หรือมีคู่แข่งรายเดิมที่อ่อนแอลงหรือไม่ บริษัทมีจุดแข็งหรือความได้เปรียบในการแข่งขันที่สามารถนำมาใช้ในช่วงฟื้นตัวได้หรือไม่

ข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญ

  • ข่าวเชิงบวก/ลบมีข่าวสารหรือประกาศสำคัญจากบริษัทหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของบริษัทหรือไม่ เช่น การถูกฟ้องร้องคดีความ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่สำคัญ หรือการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

  • กระแสสังคมกระแสสังคมหรือมุมมองของนักลงทุนต่อบริษัทเป็นอย่างไร เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนมีส่วนสำคัญต่อการฟื้นตัว

หุ้น Turnaround แม้จะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็เป็นที่หมายปองของนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูง หากบริษัทสามารถเติบโตได้จริงตามแผนธุรกิจ การเรียนรู้การสแกนหุ้น Turnaround และการวิเคราะห์งบการเงินอย่างละเอียด จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างสบายใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จ

 

สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่สนใจ เรียนรู้องค์ประกอบต่าง ๆ ของงบการเงิน และเทคนิคการอ่านงบการเงินแบบง่าย เพื่อประเมินศักยภาพของกิจการประกอบการตัดสินใจลงทุน ผ่าน SET e-Learning หลักสูตร “Financial Statement Analysis” ได้ฟรี!

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน