3 เทคนิคสำคัญ สร้างโอกาสทำกำไรช่วงประกาศงบ

โดย ภัทรธร ช่อวิชิต CISA นักลงทุนเน้นคุณค่า
3 Min Read
31 พฤษภาคม 2568
1.187k views
TSI-Article-690-Inv-3-techniques-profit-earnings-reports-Thumbnail
Highlights
  • การวิเคราะห์งบการเงินอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในช่วงที่บริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการพร้อมกันเป็นจำนวนมากถือเป็นช่วงที่สำคัญ หากคุณสามารถวิเคราะห์และจับใจความงบการเงินได้อย่างรวดเร็วก็จะเพิ่มโอกาสในการลงทุน

  • เทคนิคการอ่านงบควรจัดลำดับความสำคัญ เริ่มจากการอ่านด้านการทำกำไร การใช้สินทรัพย์ และหนี้สิน โดยใช้คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการประกอบ นอกจากนี้ยังแนะนำเครื่องมือช่วยทุ่นแรง เช่น SETSMART, Factsheet, Analysis Consensus และ Opportunity Day ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถจับใจความสำคัญของงบการเงินได้อย่างทันท่วงที และไม่พลาดโอกาสการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญนี้

ในช่วงประกาศงบการเงิน บริษัทจดทะเบียนจะทยอยประกาศผลประกอบการพร้อม ๆ กันหลายสิบบริษัทต่อวัน หากนักลงทุนสามารถจับใจความสำคัญของงบการเงินได้อย่างรวดเร็ว ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนและไม่พลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนหุ้นตัวนั้น ๆ

TSI-Article-690-Inv-3-techniques-profit-earnings-reports-01

เทคนิคที่ 1 รู้แหล่งข้อมูลและสิ่งที่ต้องดู

ในฐานะนักลงทุน สิ่งแรกที่ต้องรู้ คือ จะไปหาข้อมูลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนได้จากที่ไหน โดยหลัก ๆ แล้ว มาจากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (set.or.th) เว็บไซต์ของบริษัทจดทะเบียน หรือจากการรายงานของสำนักข่าวต่าง ๆ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนจะประกาศผลประกอบการทุกไตรมาส เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่ต้องเปิดเผยข้อมูลต่อนักลงทุน โดยมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ดังนี้

  • งบการเงินรายปี จะประกาศผลประกอบการภายใน 60 วัน นับจากวันสิ้นสุดรอบปีบัญชี
  • งบการเงินรายไตรมาส จะประกาศผลประกอบการภายใน 45 วัน นับจากวันสิ้นสุดรอบไตรมาส

 

ในวันที่มีการประกาศผลประกอบการ บริษัทไม่ได้มีแค่งบการเงินตัวเลขอย่างเดียว แต่จะมาพร้อมกัน 3 สิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจ มีดังนี้

  1. งบการเงินฉบับเต็ม เป็นเอกสารตัวเลขทางการเงินที่ละเอียดที่สุด ซึ่งแสดงฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และกระแสเงินสดของบริษัท
  2. คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (MD&A) ส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะฝ่ายจัดการของบริษัทจะอธิบายและวิเคราะห์ผลประกอบการ ตัวเลขต่างๆ ในงบการเงิน รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน
  3. สรุปผลประกอบการ เป็นเอกสารที่สรุปผลกำไรหรือขาดทุนของบริษัทในไตรมาสนั้น ๆ แบบสั้น ๆ และรวดเร็ว

ลำดับการอ่านงบเพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

1.สรุปผลประกอบการ ด่านแรกในการคัดกรองข้อมูล คือ สรุปผลประกอบการ อ่านเพื่อให้เห็นภาพรวมคร่าว ๆ ว่ากำไรของบริษัทในไตรมาสนั้น ๆ เพิ่มขึ้นหรือลดลง

2.คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (MD&A) เมื่อเห็นภาพรวมแล้ว ตามด้วยการอ่าน MD&A เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมกำไรถึงเพิ่มขึ้น (หรือลดลง) เพราะ MD&A จะช่วยให้เห็นที่มาที่ไปของตัวเลขแต่ละบรรทัดในงบการเงิน

3.งบการเงินฉบับเต็ม หากต้องการวิเคราะห์เชิงลึกหรือมีข้อสงสัยจากสรุปและ MD&A ควรอ่านรายละเอียดตัวเลขในงบการเงินฉบับเต็ม

ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ

แม้ว่า MD&A จะช่วยให้เข้าใจภาพรวมได้ดี แต่ในงบการเงินฉบับเต็มและหมายเหตุประกอบงบการเงิน ยังมีข้อมูล
เชิงลึกที่สำคัญให้ศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนี้

  • รายงานของผู้สอบบัญชี หากพบประโยคที่ระบุว่า “เรื่องที่เน้น” หรือ “ข้อสังเกต” แสดงว่ามีประเด็นสำคัญที่ผู้สอบบัญชีต้องการให้เราเข้าไปศึกษาเพิ่มเติม
  • งบการเงิน (ตัวเลขดิบ) การดูตัวเลขอย่างเดียวอาจไม่เห็นภาพชัดเจน ต้องใช้อัตราส่วนทางการเงินมาช่วยวิเคราะห์ หากไม่ต้องการคำนวณก็สามารถรอ 1 - 2 วันหลังประกาศงบ เพราะบริษัทจะส่งข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็สามารถศึกษาข้อมูลใน Factsheet จะช่วยให้การวิเคราะห์สะดวกรวดเร็ว
  • ข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินอื่น ๆ เช่น
    • อายุลูกหนี้ (ช่วยให้ประเมินได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าได้ดีเพียงใด)
    • เงินลงทุนในบริษัทร่วมและส่วนแบ่งกำไรตามวิธีส่วนได้เสียแยกบริษัท (ทำให้ทราบว่าบริษัทร่วมที่ลงทุนไปนั้นสร้างกำไรได้ดีจริงหรือไม่)
    • ผลประกอบการแยกตามส่วนงานและภูมิภาค (ช่วยให้เห็นภาพรวมว่าธุรกิจแต่ละส่วนงานหรือรายได้จากในประเทศกับต่างประเทศ)

เทคนิคที่ 2 เจาะลึกการวิเคราะห์งบการเงิน 3 มิติ (ด้วย MD&A)

การวิเคราะห์งบการเงินไม่ใช่แค่การดูตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการทำความเข้าใจว่าตัวเลขเหล่านั้นบอกอะไรเกี่ยวกับธุรกิจ และอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคำตอบจะอยู่ที่ “คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (MD&A)” ควบคู่ไปกับการดูตัวเลขในงบการเงิน

การทำกำไร (Profitability)

การเปลี่ยนแปลงแต่ละบรรทัดในงบกำไรขาดทุนจะมีความหมายและสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท

  • การเปลี่ยนแปลงของรายได้ เป็นจุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์กำไร การเปลี่ยนแปลงของรายได้จะเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ทางธุรกิจว่าผู้บริหารมีทิศทางอย่างไรในการนำพาธุรกิจไปข้างหน้า โดยบริษัทบางแห่งจะแยกสัดส่วนรายได้ ทำให้วิเคราะห์ได้ละเอียดมากขึ้นว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงมาจากสาเหตุใด
  • อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) การเปลี่ยนแปลงของอัตรากำไรขั้นต้นจะสะท้อน 3 เรื่องหลัก
1.การแข่งขัน หากบริษัทมีการแข่งขันสูง อัตรากำไรขั้นต้นมักจะต่ำ
2.ต้นทุนสินค้าและวัตถุดิบ ทิศทางของต้นทุนสินค้าและวัตถุดิบในช่วงนั้นมีผลโดยตรงต่ออัตรากำไรขั้นต้น
3.จุดคุ้มทุนของโรงงานหรือสถานที่ให้บริการ สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิตหรือการให้บริการ
  • ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร แสดงถึงค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต้นทุนคงที่และมักจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่บริษัทมีการขยายกิจการ เนื่องจากต้องเตรียมบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
  • ต้นทุนทางการเงิน เป็นรายจ่ายที่สอดคล้องกับภาระหนี้สินของบริษัท บริษัทที่มีหนี้สินสูงก็จะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงตามไปด้วย

การนำสินทรัพย์ไปใช้ประโยชน์ (Asset Utilization)

เป็นการพิจารณาว่าบริษัทนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปสร้างรายได้และผลตอบแทนได้ดีแค่ไหน โดยปกติการใช้สินทรัพย์จะไม่ค่อยมีอธิบายโดยละเอียดใน MD&A จึงต้องดูและวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ดังนี้

  • อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Assets: ROA) บริษัทที่ดีควรมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนเพื่อขยายกิจการ และมี ROA ที่สม่ำเสมอ หมายความว่ามีการลงทุนและสามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาได้อย่างดี แต่หากพบว่า ROA เริ่มลดลง ต้องตรวจสอบว่าเกิดจากสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติหรือเกิดจากกำไรที่ลดลง
  • โครงสร้างสินทรัพย์ที่ต้องระวัง ควรดูโครงสร้างสินทรัพย์ว่ามีรายการที่ต้องระวังและมีสัดส่วนสูง ๆ หรือไม่ เช่น ค่าความนิยม (Goodwill) สินทรัพย์ไม่มีตัวตน (Intangible Assets) หรือเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่สร้างส่วนแบ่งกำไรต่ำ
  • อัตราส่วนทางการเงินเพื่อวิเคราะห์ความผิดปกติ บางรายการต้องใช้อัตราส่วนทางการเงินมาวิเคราะห์ร่วมด้วยเพื่อดูความผิดปกติ เช่น
1.ลูกหนี้การค้า ควรดูคู่กับระยะเวลาเก็บหนี้ เพื่อประเมินความสามารถในการเก็บเงิน
2.สินค้าคงเหลือ ควรดูคู่กับระยะเวลาขายสินค้า เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง
3.เจ้าหนี้การค้า ควรดูคู่กับระยะเวลาชำระเจ้าหนี้ เพื่อดูนโยบายการชำระหนี้

 

หากพบว่ามีรายการใดเพิ่มขึ้นหรือลดลงผิดสังเกต ควรเข้าไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมใน “หมายเหตุประกอบงบการเงิน” ประกอบ

หนี้สินและความสามารถในการชำระหนี้ (Debt & Solvency)

หนี้สินและความสามารถในการชำระหนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่มักจะไม่ค่อยมีอธิบายโดยละเอียดใน MD&A แต่สามารถวิเคราะห์ได้จากข้อมูลใน Factsheet โดยพิจารณาจาก

  • อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เป็นตัวบ่งชี้ถึงโครงสร้างเงินทุนของบริษัทว่าพึ่งพาหนี้สินมากน้อยแค่ไหน
  • ความสามารถในการชำระหนี้จากกระแสเงินสด เป็นการดูว่าบริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอที่จะชำระคืนหนี้สินได้หรือไม่


เนื้อหานี้มีประโยชน์กับคุณแค่ไหน?

เทคนิคที่ 3 ใช้ตัวช่วยให้เป็นประโยชน์

ในยุคปัจจุบัน การพึ่งพาเพียงการอ่านงบการเงินแบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพอต่อความรวดเร็วและข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาล การรู้จักใช้ตัวช่วยหรือเครื่องมือต่าง ๆ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การลงทุนง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันประกาศงบการเงิน

  • SETSMART เป็นเครื่องมือที่รวบรวมข้อมูลงบการเงินและอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญอย่างเป็นระบบ โดยปกติข้อมูลงบการเงินจะเข้าระบบ SETSMART หลังประกาศงบประมาณ 1 - 2 วัน ดังนั้นสามารถใช้เพื่อกรองหุ้นตามเงื่อนไขที่ต้องการ และเรียงงบการเงินรายไตรมาสเพื่อนำมาคำนวณได้ เช่น ดูการเปลี่ยนแปลงของอัตราส่วนต่าง ๆ และเลือกดูได้ทั้งแบบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ช่วยให้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน
  • Factsheet เป็นสรุปข้อมูลสำคัญของบริษัททั้งหมด โดยย่อมาในรูปแบบ 2 หน้ากระดาษ A4 ซึ่งสะดวกและรวดเร็วในการทำความเข้าใจภาพรวมของบริษัท อีกทั้ง มีประโยชน์ตั้งแต่การวิเคราะห์เบื้องต้นไปจนถึงการประเมินมูลค่าหุ้น เพราะข้อมูลสำคัญส่วนใหญ่ เช่น โครงสร้างรายได้ โครงสร้างหนี้สิน หรืออัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ จะถูกสรุปไว้ให้เรียบร้อย
  • Analysis Consensus เป็นแหล่งรวมบทวิเคราะห์จากหลากหลายบริษัทหลักทรัพย์ ทำให้สามารถอ่านมุมมองของนักวิเคราะห์ได้ในที่เดียว สิ่งที่น่าสนใจ เช่น หลังจากประกาศงบการเงิน นักวิเคราะห์ก็จะมีมุมมองต่าง ๆ มีการปรับประมาณการกำไรหรือให้ราคาเป้าหมายที่ระดับเท่าไร
  • Opportunity Day (Opp Day) เป็นกิจกรรมที่บริษัทจดทะเบียนมาพบปะนักลงทุนเพื่ออัปเดตสถานการณ์ของบริษัทไตรมาสละครั้ง ใน Opp Day ผู้บริหารจะนำเสนอภาพรวมงบการเงิน และแผนธุรกิจในอนาคต

 

ช่วงเวลาที่บริษัทจดทะเบียนประกาศผลประกอบการนับเป็นหัวใจสำคัญสำหรับนักลงทุน เพราะข้อมูลที่เปิดเผยออกมามีผลต่อการตัดสินใจลงทุน และเมื่อบริษัทจะประกาศงบออกมาพร้อมกัน ทำให้การเข้าถึงและทำความเข้าใจข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้น หากปราศจากเทคนิคที่ดีอาจเสียเวลาและพลาดโอกาสในการลงทุน

 

การอ่านงบการเงินให้ไวและจับประเด็นสำคัญได้จึงไม่ใช่แค่ข้อได้เปรียบ แต่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้นักลงทุนสามารถประเมินสถานการณ์ของบริษัทได้อย่างทันท่วงที และวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การใช้เครื่องมือช่วยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กระบวนการนี้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น


สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่สนใจ เรียนรู้องค์ประกอบต่าง ๆ ของงบการเงิน และเทคนิคการอ่านงบการเงินแบบง่าย เพื่อประเมินศักยภาพของกิจการประกอบการตัดสินใจลงทุน ผ่าน SET e-Learning หลักสูตร Financial Statement Analysis ได้ฟรี!

 

หากนักลงทุนต้องการเจาะลึกงบการเงินจากเคสจริง วิธีวิเคราะห์และตีความข้อมูลสำคัญในงบการเงินหลากหลายธุรกิจ ทั้งผลิต ซื้อมาขายไป และบริการ มองเห็นโอกาสและสัญญาณเตือนภัยก่อนใคร เพิ่มความมั่นใจในการลงทุนและผลตอบแทนที่ยั่งยืน เรียนฟรี บน SET e-Learning กับซีรีส์ ถอดรหัสงบการเงิน

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน