Warren Buffett ปรมาจารย์ด้านการลงทุนเน้นคุณค่าหรือ Value Investor (VI) เคยกล่าวไว้ว่า "The rear-view mirror is always clearer than the windshield” หรือ “กระจกมองหลังมักจะชัดเจนกว่ากระจกหน้ารถเสมอ" เป็นคำพูดเตือนใจนักลงทุนว่า การมองย้อนกลับไปในอดีตมักจะง่ายกว่าการคาดการณ์อนาคต และผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ในอนาคต นักลงทุนจึงไม่ควรตัดสินใจลงทุนโดยอ้างอิงจากข้อมูลในอดีตเพียงอย่างเดียว
ในการลงทุน ข้อมูลสำคัญที่ต้องนำมาใช้ในการตัดสินใจลงทุนอาจแบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ 1) ข้อมูลในอดีต (Historical Data) ซึ่งเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นและเห็นผลแล้ว และ 2) ข้อมูลที่สะท้อนอนาคต (Forward-looking Data) ซึ่งเป็นข้อมูลที่บ่งชี้แนวโน้มและทิศทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยข้อมูลทั้ง 2 ส่วนจะช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์แนวโน้มและทิศทางการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุน โดยประเมินและบริหารจัดการทั้งความเสี่ยงและโอกาสที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการวิเคราะห์มูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ ก่อนจะตัดสินใจลงทุน
เมื่อนักลงทุนเข้าใจดีว่า Forward-looking Data มีส่วนสำคัญในการชี้ชะตาความสำเร็จในการลงทุน คำถามสำคัญคือแล้วนักลงทุนจะสามารถค้นหาข้อมูลนี้ได้จากที่ไหน อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่าข้อมูลนี้หาได้จากหลายแหล่ง ซึ่งจะขอจัดกลุ่มง่าย ๆ เป็นข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยอยู่แล้ว และข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบต่าง ๆ จากหลากหลายแหล่งข้อมูล
ข้อมูลที่เรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ของนักลงทุนเลย เช่น รายงานประจำปี หรือแบบ 56-1 One Report หากลองไปวิเคราะห์ดู จะพบว่าข้อมูลในหลายส่วนในรายงานจะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินทิศทางในการดำเนินธุรกิจได้ เช่น
นอกจากนี้ ในปี 2568 บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งยังให้ความสนใจเปิดเผยแผนการเพิ่มมูลค่ากิจการ (Corporate Value Up Plan) ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อมูลในลักษณะ “มองไปข้างหน้า” ที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน เช่น
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล นักลงทุนสามารถไปสอบถามเพิ่มเติมได้โดยการเข้าร่วมงาน Opportunity Day หรือที่นักลงทุนเรียกกันติดปากว่า "งาน Opp Day" ในแต่ละไตรมาส และเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี (Annual General Meeting หรือ AGM) ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี เพื่อตั้งคำถาม ตรวจสอบการทำงาน และให้ข้อสังเกตกับคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนแล้ว ยังเป็นการรักษาและปกป้องผลประโยชน์ของตนเองโดยการใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมเพื่อมีส่วนร่วมในการตัดสินใจอีกด้วย
นอกจากนี้ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในสมาคมและเพจต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือและได้รับการตรวจสอบยืนยันว่าไม่ใช่มิจฉาชีพ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักลงทุนอื่น ๆ ก็ยังเป็นอีกช่องทางสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนสำหรับนักลงทุนยุคดิจิทัล
โดยสรุป การตัดสินใจลงทุนต้องอาศัยทั้งข้อมูลที่สะท้อนอดีตและมองไปในอนาคตข้างหน้า นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการลงทุนได้อย่างที่ตั้งใจไว้
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ESG ได้ที่: SET ESG Academy (Website) (Line)
และตรวจสอบรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่เปิดเผย Corporate Value Up Plan ได้จากหัวข้อ “แผนการเพิ่มมูลค่ากิจการ” (Website)
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน