การกำกับดูแลกิจการ หรือ Governance (G) คือ ความสัมพันธ์ในเชิงกำกับดูแล รวมถึงกลไกมาตรการที่ใช้กำกับการตัดสินใจของคนในองค์กรให้เป็นไปตามวัตถุุประสงค์ เป้าหมาย และทิศทางขององค์กรตามวัตถุประสงค์ รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ มีระบบตรวจสอบการดำเนินงานที่ชัดเจน แม้หลายคนมองว่าเป็นเพียงการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ไม่มีการทุจริต แต่ในปัจจุบัน การกำกับดูแลกิจการมีบทบาทมากขึ้นและเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ในระยะยาว
การกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะมีระบบบริหารจัดการที่ดี ทำให้องค์กรสามารถวางกลยุทธ์ กำหนดทิศทางและเป้าหมายขององค์กร และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ การกำกับดูแลกิจการที่ดียังครอบคลุมถึงการควบคุม การตรวจสอบ การบริหารความเสี่ยง และการถ่วงดุลไปพร้อมกัน ส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจที่มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีเปรียบเสมือนมีรากฐานโครงสร้างที่มั่นคง สามารถบริหารความเสี่ยงและปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์ ยกระดับความสามารถในการแข่งขันและขยายศักยภาพในการเติบโตได้ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) และสังคม (S) กำลังมีบทบาทต่อการตัดสินใจทางธุรกิจและการลงทุน จนกลายเป็นกติกาใหม่ในเวทีการค้าโลก
“การมีรากฐานของบรรษัทภิบาลที่มั่นคง ช่วยให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นไปด้วยดี รวมถึงส่งเสริมให้ธุรกิจโดยรวมสามารถทำกำไรและเติบโตได้อย่างยั่งยืน”
- ดร.ดิเรก เกศวการณุย์ Managing Partner และ Office Head, Bain & Company Thailand -
บริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีมีแนวโน้มที่จะสร้างผลการดำเนินงานทางการเงินที่โดดเด่นได้ในระยะยาว โดยมักมีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity: ROE) และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (Return on Asset: ROA) สูงกว่าบริษัทที่มีปัญหาด้านการกำกับดูแลกิจการ เพราะมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนโดยรวม (Total Shareholder Return: TSR) ได้ดีกว่าและมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Compound Annual Growth Rate: CAGR) สูงกว่า เพราะสามารถปรับตัวได้ดีในภาวะเศรษฐกิจผันผวนและมีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดี
บทวิจัยจาก Financial Analysts Journal ระบุว่า ในช่วงปี 2009-2017 หากเราลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยแบ่งเป็นพอร์ตที่ลงทุนในหุ้นที่มีคะแนนการกำกับดูแลกิจการ (G) สูง เทียบกับพอร์ตที่ลงทุนในหุ้นที่มีคะแนน G ต่ำ พบว่าพอร์ตหุ้นที่มีคะแนน G สูงให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ JUST Capital ที่แสดงให้เห็นว่าในช่วงวิกฤต Covid-19 ปี 2020 การลงทุนในหุ้นที่มีคะแนน G สูงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นที่มีคะแนน G ต่ำ
ที่มา: SET ESG Professionals Forum 2024: Innovative Corporate Governance | Exclusive Feature, Corporate Governance, ESG, and Stock Returns around the World, Mozaffar Khan, Chart of the Week: Companies with Strong Corporate Governance Lead the Market in a Downturn, Charlie Mahoney
เช็กลิสต์คัดกรองหุ้นเด่น Governance ดีจาก “Bain’s 7 question framework for evaluating your company’s Corporate Governance”
นักลงทุนสามารถค้นหาข้อมูลการกำกับดูแลกิจการของหุ้นเพื่อตอบ 7 เช็กลิสต์ได้จากหลายแหล่ง เช่น เว็บไซต์ของบริษัท แบบ 56-1 One Report (หัวข้อ "การขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน" และ "การกำกับดูแลกิจการ") เว็บไซต์ SETSMART (เมนู "ข้อมูล ESG”) ดังรูป
การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) ไม่เพียงเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโตได้ในระยะยาว แต่ยังสร้างโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยนักลงทุนสามารถใช้ 7 เช็กลิสต์ในการคัดเลือกหุ้นที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น แบบ 56-1 One Report หรือเว็บไซต์ SETSMART เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: SET ESG Professionals Forum 2024
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน