เปลี่ยนชีวิตวัยรุ่น สู่ Full-Time Trader

โดย นารินทิพย์ ท่องสายชล ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
4 Min Read
28 มกราคม 2568
2.414k views
TSI_Article_653_Inv_Thumbnail
Highlights
  • เนย ธนพร เริ่มต้นลงทุนในหุ้นจากเงินที่ได้รับเป็นของขวัญวันรับปริญญา โดยเริ่มจากการลงทุนแบบ Value Investing และพัฒนาไปสู่การวิเคราะห์กราฟเพื่อหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม

  • การเป็นนักลงทุนวัยรุ่นมีข้อได้เปรียบด้านเวลา แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการอารมณ์และการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการลงทุน ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์และความผิดพลาด

  • การลงทุนเปลี่ยนแปลงชีวิตของน้องเนยทั้งด้านการเงินและจิตใจ โดยมุ่งสู่อิสรภาพทางการเงินและการมีเป้าหมายในชีวิต เธอแนะนำให้วัยรุ่นที่สนใจเป็น Full-Time Trader เริ่มจากการจัดการการเงินส่วนตัว ศึกษาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด

โลกการลงทุนเปรียบเสมือนมหาสมุทรแห่งโอกาสที่กว้างใหญ่ ใครก็ตามที่มีความรู้ ความพยายาม และความมุ่งมั่น สามารถแล่นเรือไปสู่ฝั่งแห่งความสำเร็จได้ นี่คือเรื่องราวของ เนย ธนพร เจียรนัยกุลวานิช หรือเจ้าของเพจ Stock JourNoey นักลงทุนสาวรุ่นใหม่ ที่ใช้เงินของขวัญวันรับปริญญาเป็นจุดเริ่มต้นสู่เส้นทางการเป็น Full-Time Trader บทความนี้จะพาคุณไปติดตามเรื่องราวการเรียนรู้ การเผชิญหน้ากับความท้าทาย และบทเรียนราคาแพงแต่ทรงคุณค่าของน้องเนย พร้อมทั้งแง่คิดและแรงบันดาลใจที่จะจุดประกายให้กับนักลงทุนรุ่นใหม่ทุกคน

จากของขวัญวันรับปริญญาสู่อาชีพนักลงทุน

ปี 2560 น้องเนยได้รับเงินก้อนหนึ่งจากคุณพ่อเป็นของขวัญวันรับปริญญา เธอวางแผนจะใช้เงินก้อนนี้เปิดสถาบันกวดวิชาตามความสนใจ แต่คุณพ่อแนะนำให้ลองลงทุนในหุ้นก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า การลงทุนในหุ้นมีความยืดหยุ่นมากกว่าการลงทุนในธุรกิจทั่วไป หากธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ เงินทุนอาจจม แต่หุ้นหากลงทุนแล้วไม่เป็นผล ก็สามารถขายหุ้นออกและลงทุนใหม่ได้ง่ายกว่า นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เนยได้สัมผัสกับโลกการลงทุนอย่างเต็มตัว

 

การลงทุนครั้งแรกของน้องเนย ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เธอประสบกับความขาดทุน ความรู้สึกผิดหวังและลังเลใจเกิดขึ้น ความคิดที่ว่า “ไม่น่าเลย อยู่เฉย ๆ ก็ดีอยู่แล้ว” ผุดขึ้นมา แต่ความผิดหวังนี้ไม่ได้ทำให้น้องเนยท้อถอย เพราะเธอมองว่านี่เป็นเพียงบทเรียน การเรียนต่อระดับปริญญาโท การสอนพิเศษ และการเก็บออมเงินฝากธนาคาร เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และมันก็ดำเนินไปควบคู่กับการลงทุนในหุ้น ผ่านไป 6 เดือน หุ้นที่เคยติดลบกลับพุ่งขึ้น พร้อมกับจ่ายเงินปันผล ผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เธอเห็นโอกาสของการลงทุนในหุ้น และตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกสินทรัพย์ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้วยการศึกษาหาความรู้

ค้นหาสไตล์การลงทุน จาก Value Investing สู่การวิเคราะห์กราฟ

จากประสบการณ์เริ่มต้นลงทุนที่เต็มไปด้วยทั้งความหวังและความผิดหวัง น้องเนยเริ่มมองหาแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้น ในช่วงแรก ด้วยอิทธิพลจากคุณพ่อที่เป็นนักลงทุนแนว Value Investing (VI) หรือการลงทุนเน้นพื้นฐาน เธอจึงเริ่มต้นด้วยการเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง แต่กลยุทธ์นี้กลับกลายเป็น “คำสาป” สำหรับพอร์ตการลงทุนของทั้งพ่อและลูก ซื้อเมื่อไหร่ก็ติดลบ ต้องรอเป็นเวลานานกว่าจะเห็นกำไร ความล่าช้าในการทำกำไร และความไม่แน่นอนของเวลา ทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการลงทุน

 

ความไม่สบอารมณ์นี้ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้น้องเนยตัดสินใจศึกษาการลงทุนอย่างจริงจังและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เธอค้นพบว่านอกจากการเลือกหุ้นที่ดีมีพื้นฐานแข็งแกร่ง หรือหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงแล้ว จังหวะการลงทุนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จ และนี่เองที่นำพาเธอไปสู่การเรียนรู้การวิเคราะห์กราฟ หรือการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

 

น้องเนยบอกว่า การวิเคราะห์กราฟ ไม่ใช่แค่การดูรูปทรงของกราฟ แต่เป็นการศึกษาพฤติกรรมของตลาด การวิเคราะห์แนวโน้ม และการสังเกตความผิดปกติของปริมาณการซื้อขาย เพื่อค้นหาจังหวะการซื้อและขายที่ได้เปรียบ แม้จังหวะที่ได้เปรียบอาจไม่ใช่จุดต่ำสุดของราคาเสมอไป แต่เป็นการใช้ความรู้ความเข้าใจในพฤติกรรมของนักลงทุน และการอ่านสัญญาณจากกราฟเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเรียนรู้การวิเคราะห์กราฟ จึงเสริมกลยุทธ์การลงทุนของน้องเนยให้มีความสมบูรณ์และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

นักลงทุนวัยรุ่น เวลาคือความได้เปรียบ

การเป็นนักลงทุน โดยเฉพาะในวัยรุ่นนั้นเต็มไปด้วยทั้งโอกาสและความท้าทายที่น่าสนใจ น้องเนยบอกว่า ข้อได้เปรียบที่สำคัญของนักลงทุนวัยรุ่น คือ “เวลา” แม้เงินลงทุนเริ่มต้นอาจจะน้อย แต่ระยะเวลาที่ยาวนานเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เงินงอกเงยได้อย่างมหาศาล การเริ่มออมและลงทุนตั้งแต่ยังอายุน้อย แม้เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่น้อยนิด แต่เมื่อสะสมไปนาน ๆ ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น การเริ่มต้นเร็ว ทำให้มีเวลาศึกษาหาความรู้ ทดลอง และเรียนรู้จากความผิดพลาด จนพบสไตล์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราผลตอบแทนในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อย่างไรก็ตาม การเป็นนักลงทุนวัยรุ่นก็มีข้อจำกัด เช่น เงินทุนเริ่มต้นที่น้อย แต่น้องเนยมองว่า นี่อาจไม่ใช่ข้อเสียเสมอไป เพราะการเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนจำกัด จะช่วยให้ระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น ต่างจากการเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนมากมาย แต่ขาดความรู้และประสบการณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายครั้งใหญ่ได้ ดังนั้น เงินทุน จึงเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง ความรู้ ประสบการณ์ และการบริหารความเสี่ยง มีความสำคัญไม่แพ้กัน

 

การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการเทรดเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของนักลงทุนวัยรุ่น โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น น้องเนยยอมรับว่า ในช่วงแรก เธอทุ่มเทให้กับการลงทุนอย่างเต็มที่ ถึงขั้นพร้อมที่จะละทิ้งสิ่งอื่น ๆ เพื่อให้โฟกัสกับการลงทุนเป็นอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปและมีประสบการณ์มากขึ้น เธอก็สามารถจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้เวลาในการศึกษาและวิเคราะห์น้อยลง เพราะความชำนาญและความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น การฝึกฝนและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการลงทุนในระยะยาว

เรียนรู้จากความผิดพลาด บทเรียนราคาแพงแต่ทรงคุณค่า

น้องเนยเหมือนนักวิทยาศาสตร์ ที่กำลังทดลองและค้นหาสูตรแห่งความสำเร็จ ในระหว่างทางที่ลงทุน เธอเผชิญกับปัญหา Overtrading หรือการซื้อขายหุ้นบ่อยเกินไป โดยเฉพาะในวันที่เตรียมการบ้านมาอย่างดี แต่หุ้นที่คาดหวังกลับไม่เป็นไปตามแผน ความรู้สึกที่ว่า “ต้องทำอะไรสักอย่าง” ทำให้เธอซื้อขายหุ้นบ่อยขึ้น เพื่อหวังที่จะแก้สถานการณ์ แต่กลับกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงและความเสียหายมากขึ้น จึงเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ทำให้เธอตระหนักถึงความจำเป็นในการแยกพอร์ตการลงทุน และการจำกัดวงเงินเพื่อควบคุมความเสี่ยง และไม่ให้ความรู้สึกอารมณ์ชี้นำการตัดสินใจในการลงทุน

 

แต่ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของน้องเนย ไม่ได้เกิดจากความไม่รู้ แต่เกิดจากความประมาท และความมั่นใจในตัวเองที่มากเกินไป ในครั้งนั้น เธอประเมินสถานการณ์และความเสี่ยงได้อย่างผิดพลาด ความมั่นใจ ที่เกิดจากการเห็นรูปแบบกราฟและความผิดปกติของปริมาณการซื้อขาย ทำให้เธอละเลยการตั้ง Stop Loss และปล่อยให้ความเสี่ยงสะสมจนกลายเป็นความเสียหายใหญ่ เธอขาดทุนหนักถึง 30% ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ซึ่งเป็นบทเรียนที่เจ็บปวด ความมั่นใจ ที่เคยเป็นจุดแข็ง กลับกลายเป็นจุดอ่อน ที่ทำให้เธอขาดสติและละเลยแผนการลงทุนที่วางไว้

 

ความผิดพลาดครั้งนั้น ทำให้น้องเนยหยุดเทรดเป็นเดือน เพื่อเรียกความมั่นใจ และทบทวนกลยุทธ์การลงทุน เธอเริ่มต้นใหม่ด้วยเงินลงทุนที่น้อยลง ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย และพยายาม Set Zero” ทุกครั้งหลังจากการซื้อขาย ไม่ยึดติดกับความผิดพลาดในอดีต แต่พร้อมที่จะกลับมาเก็งกำไรหุ้นตัวเดิม หากโอกาสและเงื่อนไขต่าง ๆ เหมาะสม และเรียนรู้ถึงความสำคัญของการมีสติ การวางแผน และการทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะมั่นใจแค่ไหน ก็ต้องไม่ประมาท และต้องยึดมั่นในหลักการบริหารความเสี่ยงที่ได้วางแผนไว้

เทรดเดอร์สายเทคนิค_StockJourNoey_เนยธนพร

การจัดการอารมณ์ เหนือกว่าความรู้ทางการเงิน

สำหรับน้องเนย ความโลภและความกลัว เป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน เป็นพลังขับเคลื่อนที่แยกกันไม่ได้ ในโลกการลงทุน เมื่อความโลภเกิดขึ้น น้องเนยจะรู้สึกอยากได้ อยากมี อยากประสบความสำเร็จ และเธอจะใช้ความรู้สึกนี้เป็นแรงผลักดันให้วางแผน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ส่วนความกลัว จะผลักดันให้เธอวางแผนปิดความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ทั้งสองด้านจึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยให้เธอสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างไม่หยุดยั้ง

 

แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ “วินัย” ต้องยึดมั่นในแผนการลงทุนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เธอก็จะทำตามแผน ไม่ว่าจะต้องซื้อหรือตัดขาดทุน หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาด เธอจะวิเคราะห์สาเหตุเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์ในครั้งต่อไป

 

น้องเนยยังกล่าวว่า การจัดการอารมณ์สำคัญกว่าความรู้ทางการเงิน เพราะความรู้สามารถศึกษาและหาได้จากหลาย ๆ แหล่งเรียนรู้ แต่การควบคุมอารมณ์ ต้องอาศัยประสบการณ์ เรียนรู้จากความผิดพลาด และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เธอจึงลองปล่อยให้ตัวเองรู้สึกกลัว หรือโลภ อย่างสุดขั้ว เพื่อเรียนรู้ที่จะควบคุมและหาจุดสมดุล เธอบอกว่าการทำสมาธิและสวดมนต์ ก็เป็นวิธีที่ช่วยเสริมสร้างสติและควบคุมอารมณ์ให้ดียิ่งขึ้น

การลงทุนเปลี่ยนชีวิตทั้งด้านการเงินและจิตใจ

การลงทุนเป็นหนทางนำพาน้องเนยไปสู่ความสำเร็จ แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่า คือการเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งด้านการเงินและจิตใจ การลงทุนไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสวงหาผลกำไร แต่กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตเธอ เป็นทั้งความหวัง ความฝัน และอนาคต เธอเชื่อมั่นว่า การลงทุนจะนำพาเธอไปสู่อิสรภาพทางการเงิน อิสรภาพที่ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นอิสรภาพในการใช้ชีวิต ทำในสิ่งที่รัก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง

 

อิสรภาพทางการเงิน ในความหมายของน้องเนย ไม่ใช่การมีเงินมากมายจนรู้สึกพอเพียง แต่เป็นการสร้างผลตอบแทน อย่างต่อเนื่องไม่มีขีดจำกัด ยิ่งเธอทุ่มเท ยิ่งขยัน โอกาสในการสร้างผลตอบแทนก็ยิ่งมากขึ้น ทำให้เธอมีอิสรภาพในการทำในสิ่งที่รักและแบ่งปันโอกาสให้กับผู้อื่น การลงทุนจึงไม่ใช่แค่การแสวงหาผลกำไร แต่เป็นการสร้างคุณค่าและสร้างความหมายให้กับชีวิต

 

นอกจากอิสรภาพทางการเงินแล้ว การลงทุนยังเปลี่ยนแปลงชีวิตของน้องเนยในด้านจิตใจ ทำให้เธอมีเป้าหมายและมีแรงผลักดันในการทำให้เป้าหมายเหล่านั้นเป็นจริง เป้าหมายที่เคยดูเหมือนไกลเกินเอื้อม กลับกลายเป็นสิ่งที่เธอสามารถไขว่คว้าได้ ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายาม แม้ว่าเป้าหมายบางอย่างยังไม่บรรลุ แต่เธอก็มีแรงบันดาลใจ และความหวังในการก้าวเดินต่อไป เช่น ความฝันที่จะมีพอร์ตการลงทุน มูลค่า 8 หลัก หรือได้รับเงินปันผลปีละ 200,000 บาท เป้าหมายเหล่านี้เป็นแรงผลักดันสำคัญ ที่ช่วยให้เธอมุ่งมั่นและไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความมั่นคงในอนาคต

คำแนะนำสำหรับวัยรุ่นที่สนใจเป็น Full-Time Trader

จากประสบการณ์ ความมุ่งมั่น และความสำเร็จของน้องเนย ทำให้เธอมีมุมมองและคำแนะนำที่น่าสนใจ สำหรับวัยรุ่นที่สนใจก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็น Full-Time Trader

 

น้องเนยมองว่า การลงทุนในหุ้นไทยมีอะไรที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่อยู่ 2 ด้าน ด้านแรก คือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เธอเปรียบการเลือกหุ้นเหมือนการเลือกคู่ชีวิต ถ้ามองหาความตื่นเต้น การเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็เหมือนเลือกแฟนที่มีเสน่ห์ แต่ถ้ามองหาความมั่นคงและความยั่งยืน หุ้นไทยเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีความมั่นคงพื้นฐานดี แม้จะไม่ได้เติบโตเร็วเหมือนหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศ แต่ในช่วงที่ตลาดผันผวน หุ้นไทยก็สามารถปรับตัวและหาจังหวะเข้าซื้อได้ หากสังเกตให้ดีจะเห็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ในอนาคตได้

 

อีกด้านหนึ่ง คือเครื่องมือและเทคโนโลยี ที่เข้าถึงได้ง่าย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พัฒนาเครื่องมือ ช่องทางการเรียนรู้ และเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ นี่จึงเป็นโอกาสสำหรับวัยรุ่นที่สนใจการลงทุนในหุ้นไทย

 

สำหรับวัยรุ่นที่สนใจจะเป็น Full-Time Trader น้องเนยมีคำแนะนำที่น่าสนใจ คือเริ่มต้นจากการทำงบการเงิน บริหารจัดการเงินให้ดีจนมีเงินออม แล้วค่อยนำเงินออมมาลงทุน อย่าหวังว่าจะรอดตั้งแต่เริ่มต้น แต่ต้องวางแผนให้สามารถอยู่รอดในทุกสถานการณ์ ตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องศึกษา วางแผน เรียนรู้ และคิดให้รอบคอบ เพราะรางวัลจะตกอยู่กับคนที่มองเห็นและคว้าโอกาสนั้นได้ และเธอฝาก 3 ข้อสำคัญ คือ อย่าปล่อยให้ขาดทุนหนัก เรียนรู้และปรับตัวให้เร็ว และพึ่งพาตัวเองเสมอ นี่คือหัวใจสำคัญในการเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ


รับชมคลิปสัมภาษณ์ น้องเนย ธนพร เจียรนัยกุลวานิช แบบเต็ม ๆ ที่จะให้แรงบันดาลใจในการลงทุน ในซีรีส์ “วันที่การลงทุนเปลี่ยนชีวิต” ได้ที่นี่


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน