จากวัยเด็กยากจน สู่แม่บ้านเงินล้าน

โดย นารินทิพย์ ท่องสายชล ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3 Min Read
4 ธันวาคม 2567
1.926k views
TSI_Article_639_Inv_Thumbnail
Highlights
  • พี่หนู ปาริชาติ เติบโตมาจากครอบครัวยากจน แต่ด้วยความขยัน ประหยัด อดทน และมีวินัย เธอสามารถสร้างความมั่งคั่งจากอาชีพแม่บ้านจนมีเงินล้านได้

  • เธอเริ่มต้นด้วยการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ ศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน และเริ่มลงทุนในกองทุนรวมอย่างระมัดระวัง โดยใช้หลักการกระจายความเสี่ยง

  • แม้จะเผชิญอุปสรรคและความผันผวนในการลงทุน แต่เธอไม่ยอมแพ้ ยังคงพัฒนาตนเองและปรับกลยุทธ์การลงทุนอยู่เสมอ เธอพิสูจน์ให้เห็นว่าทุกอาชีพสามารถสร้างความมั่งคั่งได้ หากมีวินัยและวางแผนการเงินที่ดี

พี่หนู ปาริชาติ พงษ์คำ เธอเป็นแบบอย่างของคนธรรมดาที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้ แม้เธอจะเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจนและต้องทำงานรับจ้างตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความขยัน ประหยัด อดทน และมีวินัย เธอจึงสามารถเก็บออมเงินจากอาชีพแม่บ้าน จนมีเงินก้อนใหญ่ ก่อนนำไปลงทุนต่อยอด สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต

วัยเด็กที่ยากลำบากเป็นแรงผลักดัน

ชีวิตของพี่หนู เริ่มต้นอย่างยากลำบาก ตั้งแต่เด็ก เธอต้องออกไปรับจ้างทำงานหาเงินตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ด้วยการหาบน้ำให้ตายายข้างบ้าน เพื่อนำเงินมาช่วยเหลือครอบครัว ด้วยฐานะทางบ้าน เธอจึงต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัดและอดทน 

 

“ชีวิตในวัยเด็กของพี่ลำบากค่ะ ต้องไปรับจ้างตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ อยากมีเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่ แต่ไม่มีเงินซื้อ เสื้อผ้าที่จะได้ใส่ก็ต่อเมื่อคนกรุงเทพฯ บริจาคไปถึงจะมีใส่ พี่หนูเล่าถึงความหลัง

 

ความยากลำบากในวัยเด็กเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมให้พี่หนูเข้มแข็งและมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างชีวิตที่ดีขึ้น โดยแรงผลักดันที่ทำให้พี่หนูยังคงเดินหน้าต่อคือครอบครัว เธอปรารถนาเห็นพ่อแม่และพี่น้องมีความสุข ไม่ต้องขัดสนเหมือนตอนเป็นเด็ก

 

“พี่จะคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงครอบครัว คิดถึงญาติพี่น้องมากกว่าตัวเอง พี่มีเป้าหมายว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้พ่อแม่สุขสบาย” พี่หนูกล่าว พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้น

สร้างวินัยทางการเงิน จุดเริ่มต้นของการลงทุน

หลังจากจบชั้น ป.6 พี่หนูได้เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ในช่วงแรกเธอทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านเถ้าแก่ย่านพระราม 4 ด้วยความขยันและความรับผิดชอบ เธอจึงสามารถส่งเงินกลับไปช่วยเหลือครอบครัวได้อย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าในช่วงเวลานั้นจะต้องส่งเงินให้พ่อแม่ทั้งหมด แต่ความตั้งใจของเธอก็ไม่เคยลดลง เธอเชื่อมั่นในความขยัน ประหยัด อดทน และมีวินัย เป็นกุญแจสำคัญที่นำพาเธอไปสู่ความสำเร็จ

 

ต่อมาพี่หนูในวัย 26 ปี ได้แต่งงานและเริ่มต้นสร้างครอบครัว เธอและสามีได้ตกลงกันว่าจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาเก็บออม  จุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่งคั่งของพี่หนูเริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฝากเงินประจำที่ให้ดอกเบี้ยสูง และเลือกฝากประจำระยะยาว 24 เดือน เพื่อรับอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าการฝากออมทรัพย์ ในช่วงแรกที่เริ่มออม เธอและสามีฝากเงินจำนวนไม่มากนัก แต่ด้วยความสม่ำเสมอและมีวินัย เงินออมของพวกเขาก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ 

 

“จริง ๆ ขั้นตอนการเก็บเงิน ไม่ยากเลยค่ะ ง่าย ๆ เลยคือไปที่ธนาคาร และไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า มีฝากแบบไหนบ้างที่เราไม่ต้องเสียภาษี แล้วที่สำคัญคือได้ดอกเบี้ยเยอะกว่าปกติ ต้องฝากยังไง ขั้นตอนมีอะไรบ้าง พี่ฝากประจำ 24 เดือน ซึ่งห้ามถอน ไม่งั้นจะได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์” พี่หนูเล่า

 

การเก็บออมอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลากว่า 10 ปี ทำให้พี่หนูและสามีมีเงินเก็บก้อนแรกถึงหลักแสนบาท  ความสำเร็จนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เธอสนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น

 

“ดีใจมากค่ะ จะบอกว่าฉันมีเงินแสนแล้วนะ จุดเริ่มต้นจากที่เราฝากประจำ ก็เอาเงินก้อนนั้นมาต่อยอดเพื่อที่จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น” พี่หนูกล่าว

หาความรู้จากหนังสือและคนรอบข้าง

พี่หนูมีความชอบในการอ่านและอยู่ใกล้แหล่งความรู้ เพราะเธอทำงานที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เธอบอกว่า ห้องสมุดมีหนังสือมากมายที่ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องการออมและการลงทุน ทำให้เธอสามารถหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนได้จากหนังสือและสัมมนาที่จัดขึ้นบ่อย ๆ ในห้องสมุด อีกทั้ง ยังได้รับคำแนะนำจากน้อง ๆ บรรณารักษ์ในห้องสมุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ช่วยให้เธอมีความรู้ในการลงทุนมากขึ้น

 

“พี่มีน้อง ๆ บรรณารักษ์ที่น่ารัก มีอะไรที่พี่ไม่รู้และไม่เข้าใจ พี่ถามน้องได้ทุกคน น้องจะแนะนำพี่ทุกอย่าง พี่โชคดีที่อยู่ตรงจุดนี้ มีทั้งหนังสือที่ให้ความรู้ มีทั้งน้อง ๆ ที่ให้คำแนะนำดีมาก ๆ” พี่หนูกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ

ลงทุนครั้งแรก เริ่มจากกองทุนรวม

พี่หนูเริ่มลงทุนในกองทุนรวมอย่างระมัดระวัง โดยกระจายการลงทุนไปยังหลายกองทุน เพื่อลดความเสี่ยง เธอใช้หลักการลงทุนใส่ไข่ในตะกร้าหลายใบ ไม่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไป

 

“แรก ๆ พี่ซื้อกองทุน เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ถ้าสมมติว่ามีเงินอยู่ 5 แสนบาท เอาไปลงทุนหมด แล้ววันหนึ่งเกิดไม่เหลือเลย พี่ทำใจไม่ได้ ก็เลยเอามาลงทุนกองทุนหุ้นก่อน แต่ว่าจะกระจาย โดยลงกองทุนหุ้นบ้าง ตราสารหนี้บ้าง และมีฝากประจำส่วนหนึ่ง จะแบ่งเป็นกอง ๆ ไม่ได้ทีเดียวกองใดกองหนึ่ง แบ่งไข่ใส่ 3-4 ตะกร้า เผื่อสมมติว่าตัวนี้เราขาดทุน อย่างน้อยเราก็มีอีกตัวซัปพอร์ต เพื่อที่จะให้เราเดินก้าวต่อไปได้” พี่หนูเล่า

17 ปีที่รอคอย มีล้านแรกแล้ว

วันหนึ่ง ความพยายามของพี่หนูก็ได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า เธอสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ถึงหลักล้านบาทเป็นครั้งแรก

 

“ตอนนั้นรู้สึกเหมือนฝันและภูมิใจ มีล้านแรกตอนปี 2560 พี่ยังพูดกับน้อง ๆ ในห้องสมุดอยู่ว่า พี่มีล้านแรกแล้วนะ ดีใจมาก” พี่หนูเล่าถึงความรู้สึกในขณะนั้น ด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความภูมิใจ นี่คือความสำเร็จที่เป็นผลมาจากความมุ่งมั่น ความอดทน และมีวินัย ที่พี่หนูสั่งสมมาตลอด 17 ปี เงินล้านแรกนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลข แต่เป็นเครื่องพิสูจน์ความพยายามของพี่หนู

 

แม้จะมีเงินล้านแล้ว พี่หนูยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และประหยัดเหมือนเดิม “ถึงคนอื่นจะบอกว่า เงินล้านไม่เยอะ แต่สำหรับพี่เงินล้านเยอะนะคะ ด้วยเราไม่มีต้นทุน จบแค่ ป.6 อาชีพแม่บ้าน ไม่คิดหรอกนะคะว่าอาชีพแบบนี้จะมีเงินหลักล้านได้” พี่หนูกล่าว

เปลี่ยนชีวิตหันหลังให้ความจน พี่หนู ปาริชาติ พงษ์คำ

บทเรียนและการพัฒนาตนเอง

เส้นทางการลงทุนของพี่หนูไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอเผชิญกับความผันผวนของตลาดอย่างหนักในช่วงโควิด-19 ทำให้พอร์ตลงทุนขาดทุนอย่างมาก จากเงินลงทุน 5 แสนบาท เหลือ 2 แสนบาท เป็นช่วงเวลาที่พี่หนูรู้สึกกดดันและเครียดอย่างที่สุด แต่เธอไม่ยอมแพ้ ไม่โทษใคร หรือตำหนิตัวเอง กลับมองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง เธอเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุน โดยเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยลง เช่น หุ้นกู้ของบริษัทชั้นนำ และยังคงมีความอดทนและมีวินัยในการลงทุนต่อไป

 

“หลังจากขาดทุนช่วงโควิด พี่พยายามมองโลกในแง่บวก พยายามใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส หาความรู้เพิ่มขึ้น อ่านหนังสือมากขึ้น ฟัง Podcast มากกว่าเดิม ช่วงนั้นใคร ๆ ก็เป็นเหมือนเรา ไม่ใช่แต่เราที่เป็น ล้มมันก็เป็นธรรมดา พี่มองว่ามันเป็นสัจธรรม การลงทุนมีทั้งวันที่กำไรและขาดทุน เราต้องยอมรับให้ได้ และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท” พี่หนูกล่าว

 

นอกจากการลงทุน พี่หนูยังให้ความสำคัญกับสุขภาพและการพัฒนาตนเอง เธอออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และยังเพิ่มรายได้ด้วยการขายของออนไลน์

 

“ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ จบอะไรมา ต้องพัฒนาตัวเอง เพราะทุกวันนี้โลกออนไลน์ เราต้องเรียนรู้ให้ทันกับโลกสมัยใหม่ เอาตัวเองไปหาความรู้ที่หลากหลายเพื่อที่จะมาต่อยอด อย่างทุกวันนี้พี่ไม่ได้ทำแค่อาชีพแม่บ้าน พี่ขายของออนไลน์ด้วย ในยุคที่ข้าวของแพงทุกอย่าง เงินเฟ้อขึ้น การมีรายได้สองสามทาง ถึงเราไม่ได้รวยมาก แต่เราก็อยู่ได้ในยุคปัจจุบัน” พี่หนูแนะนำ

ไม่ว่าอาชีพไหน ก็มีเงินล้านได้

ทำไมถึงมาเป็นแม่บ้าน? เป็นคำถามที่พี่หนูเจอบ่อยมาก เธอมองว่าทุกอาชีพมีเกียรติ ทุกอาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้ ขอแค่เป็นคนดี และที่สำคัญต้องวางแผนการใช้เงิน ด้วยการทำรายรับรายจ่าย ซึ่งจะทำให้รู้ว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง รายได้และรายจ่ายของเราเท่าไหร่ และจะใช้เงินอย่างไรให้คุ้มค่า

 

พี่หนูยืนยันว่า “ทุกอาชีพมีเงินล้านได้หมด แค่มีวินัยในการวางแผนชีวิต วางแผนการเงิน ซื้อในสิ่งที่จำเป็นและก็ไม่ซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น อันนี้สำคัญ และต้องรู้จักใช้เงินตัวเองมาต่อยอด ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรคุณก็เอาเงินตรงนั้นมาต่อยอดได้เหมือนกัน”

 

สำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนที่มีเงินทุนจำกัด พี่หนูแนะนำให้เริ่มจากการฝากประจำปลอดภาษี หรือทยอยลงทุนทุกเดือนด้วยเงินจำนวนเท่า ๆ กันแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) ในกองทุนรวม โดยก่อนนำเงินมาลงทุน ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 6 เดือน เพราะไม่รู้อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีเงินสำรองเพียงพอแล้ว ค่อยลงทุนต่อยอด

 

“แม้จะมีเงินเหลือเพียง 500-1,000 บาทต่อเดือน หลังจากหักค่าใช้จ่ายฉุกเฉินแล้ว ก็สามารถนำมาลงทุนแบบ DCA ในกองทุนรวมได้ ทำอย่างสม่ำเสมอเดือนละ 500 บาท ปีหนึ่งก็ 6,000 บาทแล้ว ซึ่งผลตอบแทนอาจดีกว่าการฝากธนาคาร แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง” พี่หนูแนะนำ

บทเรียนจากพี่หนู ปาริชาติ

เรื่องราวของพี่หนู ปาริชาติ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย เธอแสดงให้เห็นว่าความสำเร็จทางการเงินนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาชีพหรือฐานะทางครอบครัว แต่ขึ้นอยู่กับความขยัน ประหยัด อดทน มีวินัย และมีการวางแผนที่ดี เธอพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะเริ่มต้นจากจุดต่ำสุด แต่ด้วยความมุ่งมั่น ความเพียรพยายาม และการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง ทุกคนก็สามารถสร้างชีวิตที่ดีขึ้นได้ 

 

ชมเรื่องราวสุดประทับใจของพี่หนู ปาริชาติ ได้ในซีรีส์ “วันที่การลงทุนเปลี่ยนชีวิต” ที่นี่

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน