หาจุดซื้อที่ได้เปรียบกว่าใครด้วยเครื่องมือ Moving Average

โดย พงศ์พัฒน์ ค้ำชู, CMT, CAIA, CISA ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
3 Min Read
27 พฤศจิกายน 2567
2.105k views
TSI_Article_637_Inv_Thumbnail
Highlights
  • Moving Average เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์ สามารถใช้วิเคราะห์แนวโน้มราคาหุ้นและหาจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบได้

  • ทิศทางของเส้นค่าเฉลี่ยบ่งบอกแนวโน้มของราคา โดยเส้นชันขึ้นแสดงแนวโน้มขาขึ้น เส้นชันลงแสดงแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ยังสามารถใช้บอกต้นทุนเฉลี่ยของตลาดได้

  • การเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาที่เส้นค่าเฉลี่ยในขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยยังชันขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนมีจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ โดยควรเลือกช่วงเวลาของเส้นค่าเฉลี่ยให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุน

แม้ว่า Moving Average (เส้นค่าเฉลี่ย) จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประวัติยาวนานและมีหลักการที่เรียบง่าย แต่ก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีประโยชน์อย่างมากต่อนักลงทุน การใช้ Indicator ตัวนี้เพียงอย่างเดียว นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ได้ทั้งแนวโน้มของราคาหุ้น พร้อมกับหาจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ

แนวโน้มของเส้นค่าเฉลี่ย

Moving Average (เส้นค่าเฉลี่ย) มีหลักในการคำนวณง่าย ๆ คือ การรวมราคาปิดของหุ้นในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ แล้วนำมาหารด้วยจำนวนวันทั้งหมดในช่วงนั้นเพื่อหาค่าเฉลี่ย

  • เส้นค่าเฉลี่ยมีทิศทางชันขึ้น แปลว่า แนวโน้มปัจจุบันของช่วงเวลานั้น ๆ เป็นขาขึ้น ในทางกลับกัน
  • เส้นค่าเฉลี่ยมีทิศทางชันลง แปลว่า แนวโน้มปัจจุบันของช่วงเวลานั้น ๆ เป็นขาลง

 

เมื่อนำหลักการดังกล่าวมาประกอบกับสมมติฐานหลักของการวิเคราะห์ที่บอกไว้ว่า “ราคามีการเคลื่อนไหวตามแนวโน้ม” ดังนั้น หากแนวโน้มปัจจุบันเป็นขาขึ้น แนวโน้มระยะถัดไปจึงมีโอกาสขึ้นต่อมากกว่าที่จะกลับทิศทางเป็นขาลง แต่หากแนวโน้มปัจจุบันเป็นขาลง แนวโน้มระยะถัดไปจึงมีโอกาสลงต่อมากกว่าที่จะกลับทิศทางเป็นขาขึ้น

กราฟแสดงความชันของเส้นค่าเฉลี่ยสามารถใช้บอกแนวโน้มของราคาหุ้น

Moving Average บอกต้นทุนเฉลี่ยของตลาด

นอกจาก Moving Average (เส้นค่าเฉลี่ย) จะสามารถใช้บอกแนวโน้มได้แล้ว ยังสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนเข้าซื้อเฉลี่ยของนักลงทุนในแต่ละช่วงเวลาได้อีกด้วย เช่น เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน แสดงถึงราคาที่นักลงทุนส่วนใหญ่ซื้อขายในช่วงเวลา 10 วันล่าสุด หากเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันของหุ้นอยู่ที่ 100 บาท หมายความว่าต้นทุนเฉลี่ยของผู้เล่นในช่วง 10 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 100 บาท ดังนั้น หากเราเข้าซื้อได้ใกล้เคียงกับเส้นค่าเฉลี่ยจะทำให้เรามีต้นทุนที่ “ไม่เสียเปรียบ” ผู้เล่นอื่นในตลาด

การใช้ Moving Average ในการหาจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ

เมื่อนำทั้งสองหลักการมาประกอบกัน คือการเข้าซื้อหุ้นที่เส้นค่าเฉลี่ยในขณะที่ความชันของเส้นค่าเฉลี่ยชันขึ้น
จึงเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้นักลงทุนสามารถมีจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ เพราะเป็นการซื้อในราคาที่ยุติธรรม ในขณะที่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้น จากตัวอย่างในรูปที่ 2 จะเห็นว่าเมื่อความชันของเส้นค่าเฉลี่ยเป็นขาขึ้นและราคามีการพักตัวลงมาที่เส้นค่าเฉลี่ย เส้นค่าเฉลี่ยจะทำหน้าที่เป็นแนวรับสำคัญหนุนให้ราคาปรับตัวขึ้นได้ต่อในทิศทางเดิม

กราฟแสดงจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบเกิดขึ้นที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ยในขณะที่ค่าความชันของเส้นค่าเฉลี่ยเป็นขาขึ้น

โดยปกติแล้วในภาวะที่ตลาดเป็นขาขึ้น ราคาหุ้นจะไม่ได้มีการปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวตลอด แต่จะมีจังหวะย่อตัวสลับลงมาในระยะสั้น ซึ่งหากการย่อตัวลงมาที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ยจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อสำหรับคนที่ยังไม่มีสถานะ หรือจุดซื้อกลับสำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่มีการขายทำกำไรออกไปในช่วงที่ราคาหุ้นห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยมากจนเกินไป

การเลือกเส้น Moving Average ที่เหมาะสม

ในการเลือกเส้นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมนั้นต้องพิจารณาถึงสไตล์การลงทุนของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ดังนี้

  • นักลงทุนระยะสั้น เส้นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วง 10 - 30 วัน
  • นักลงทุนระยะกลาง เส้นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วง 30 - 90 วัน
  • นักลงทุนระยะยาว เส้นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 90 - 200 วัน

 

สำหรับชนิดของเส้นค่าเฉลี่ย เช่น Simple Moving Average ที่ให้ความสำคัญกับราคาที่ผ่านมาทั้งหมดอย่างเท่าเทียม หรือ Exponential Moving Average ที่ให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดมากกว่าราคาในอดีต ไม่มีผลต่อการใช้งานสำหรับกลยุทธ์นี้มากนัก

 

การนำ Moving Average มาช่วยในการวิเคราะห์หุ้นให้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องพิจารณาทั้งทิศทางความชันและการเปรียบเทียบราคาปัจจุบันกับเส้นค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาที่เหมาะสม การพิจารณาเข้าซื้อในขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยชันขึ้น ช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจลงทุนในตลาดที่ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นต่อไป

 

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับมือใหม่ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการวิเคราะห์ปัจจัยเทคนิค เพื่อกำหนดจังหวะการลงทุน ทั้งจุดซื้อ จุดขาย และจุดทำกำไร เพื่อเป็นเครื่องมือประกอบการลงทุนทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “ลงทุนหุ้นมั่นใจ ต้องเข้าใจกราฟเทคนิค” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน