การลงทุนทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากทองคำจะสามารถเป็นสินทรัพย์ลงทุนหลักในพอร์ตแล้ว ยังเป็นทางเลือกการลงทุนในสินทรัพย์อื่น เพื่อกระจายความเสี่ยงด้วย เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์มั่นคงไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา
ขณะเดียวกันทองคำมีรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย และยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลข่าวสารการลงทุนทองคำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว สามารถลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา และปลอดภัย จึงเปิดโอกาสให้สร้างผลตอบแทนได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
โดยรูปแบบการลงทุนทองคำที่ได้รับความนิยมติดอันดับต้น ๆ ของนักลงทุน คือ กองทุนรวมทองคำ เพราะมีข้อดีและประโยชน์มากมายที่น่าสนใจ เริ่มจากการเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพราะทองคำมักมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับสินทรัพย์อื่น ๆ โดยราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างต่ำในระยะยาว จึงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและน่าสนใจในระดับความเสี่ยงที่ไม่มากนัก ทำให้ช่วยรักษาเสถียรภาพของพอร์ตลงทุนในยามที่ตลาดผันผวน
นอกจากนี้ ทองคำยังถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ที่นักลงทุนมักหันมาในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ช่วงสถานการณ์การเมืองมีความไม่แน่นอน หรือสงคราม ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอาจช่วยชดเชยการขาดทุนจากสินทรัพย์อื่น ๆ ได้
อีกทั้ง การลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำยังช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดทองคำโลก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาทองคำจริง ค่าประกันภัย หรือค่าขนส่ง ทำให้นักลงทุนสามารถได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้อย่างสะดวก
ที่สำคัญ กองทุนรวมทองคำมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้สะดวกผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยติดตามตลาดและบริหารจัดการการลงทุนให้ จึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
หากย้อนกลับไปดูสถิติราคาทองคำในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พบว่าปรับขึ้นอย่างชัดเจน จาก 1,827 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566) เป็น 2,640 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2567) อีกทั้ง โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยสำหรับปี 2567 อยู่ที่ระดับ 2,395 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และปี 2568 อยู่ที่ระดับ 2,973 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
จากราคาทองคำที่ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง คำถามตามมา คือ กองทุนรวมทองคำยังคงมีความน่าสนใจหรือไม่ ซึ่งจากรายงานบทวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้ถือครองทองคำระยะยาว เนื่องจากแรงหนุนที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดลง ความต้องการถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงประโยชน์ของทองคำในการป้องกันความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และภาวะเศรษฐกิจถดถอย
จากข้อมูลดังกล่าว สะท้อนว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนเลือกในช่วงเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน และถึงแม้ราคาทองคำจะปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่ก็เชื่อว่าทองคำยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก โดยเฉพาะหากอัตราดอกเบี้ยเริ่มเป็นขาลง
ดังนั้น การลงทุนในกองทุนรวมทองคำในช่วงนี้และถือครองระยะยาว ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากมุมมองของโกลด์แมน แซคส์ และแนวโน้มตลาดทองคำโลก อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบก่อนตัดสินใจ
แนวโน้มราคาทองคำ จากการคาดการณ์ของโกลด์แมน แซคส์ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งอาจเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุน
การกระจายความเสี่ยง การเพิ่มทองคำในพอร์ตลงทุนช่วยกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน
ความผันผวนระยะสั้น แม้แนวโน้มระยะยาวจะเป็นบวก แต่ราคาทองคำอาจมีความผันผวนในระยะสั้น ควรเตรียมใจรับมือกับความผันผวนด้วย
สัดส่วนการลงทุน โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 5 – 10% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมด
ต้นทุนการลงทุน ศึกษาค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมทองคำแต่ละกองทุน เพราะอาจส่งผลต่อผลตอบแทนในระยะยาว
ติดตามข่าวสาร แม้จะเป็นการลงทุนระยะยาว แต่ควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ๆ อยู่เสมอ
เงื่อนไขการจัดอันดับ
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน