ยังมีความเข้าใจผิดในหมู่เทรดเดอร์ DW ที่เข้าใจว่า DW ที่มีวอลุ่มซื้อขายที่สูงนั้น คือ DW ที่มีสภาพคล่องที่สูง โดยปกติวอลุ่มซื้อขายหุ้นหรือหลักทรัพย์จดทะเบียนอื่นๆ ที่สูง อาจจะหมายถึงหลักทรัพย์นั้นมีสภาพคล่องที่สูงกว่า แต่กรณีดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้กับ DW ที่มีผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือที่เรียกกันว่า Market Marker ซึ่งหมายความว่า ถึงแม้ DW ตัวนั้นจะไม่มีการซื้อขายหรือมีวอลุ่มซื้อขายน้อยก็ตาม DW ตัวนั้นสามารถมีสภาพคล่องได้ ถ้า Market Maker มีการปฎิบัติหน้าที่ดูแลสภาพคล่องนั่นเอง
Market Maker จะทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องให้กับ DW โดยการวาง Bid และ Offer ในตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสภาพคล่องใน DW นั้นดูได้จากการที่นักลงทุนสามารถเข้าออก DW ตัวนั้นได้รวดเร็วแค่ไหน ดังนั้นสภาพคล่องจึงเป็นปัจจัยหลักในการเลือก DW
เทรดเดอร์สามารถเข้าออกสถานะได้ง่ายและรวดเร็วต่อเมื่อ Market Maker มีการวางจำนวน Bid และ Offer ที่สูง ซึ่งผู้ออก DW แต่ละค่ายจำเป็นต้องแต่งตั้ง Market Maker ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดสิทธิขั้นต่ำ โดย Market Maker ที่มีคุณภาพสูงอย่าง DW28 ได้มีการวางจำนวน Bid และ Offer ในปริมาณที่สูงกว่า และวาง Bid และ Offer ที่แคบ เพื่อส่งมอบสินค้าทางการเงินที่เหนือขั้นกว่าให้กับเทรดเดอร์ DW ทั้งนี้ จำนวนการวาง Bid/Offer ของ DW28 ที่สูงนี้ จะทำให้เทรดเดอร์ DW สามารถเข้าออกสถานะได้ง่ายไม่ว่าจะไม้เล็กหรือไม้ใหญ่
มาดูกันว่าทำไมสภาพคล่องใน DW จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่าวอลุ่มซื้อขายในการเลือก DW!
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า DW ตัวนั้นมีสภาพคล่องสูง?
เมื่อทำการซื้อขาย DW นั้น สภาพคล่องจะสอดคล้องกับจำนวนการวาง Bid และ Offer รวมถึงการวาง Price Spread ของ Market Maker ส่วนวอลุ่มซื้อขาย คือ ตัวชี้วัดว่ามีการซื้อขายที่ผ่านมามากแค่ไหน ไม่ใช่ปริมาณที่สามารถซื้อขายได้ในปัจจุบัน นั่นหมายถึงแม้ DW จะมีวอลุ่มซื้อขายเป็นศูนย์ DW ตัวนั้นยังมีสภาพคล่องที่ดีได้ ถ้า Market Maker ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสภาพคล่องให้มีปริมาณที่สูง
ตัวอย่างด้านล่างเปรียบเทียบ HSI DW A และ HSI DW B ว่าตัวไหนมีสภาพคล่องดีกว่ากัน โดยสมมุติ HSI DW A และ HSI DW B มีสเปคใกล้เคียงกัน
จากตารางข้างต้น เทรดเดอร์ที่ดูแต่วอลุ่มซื้อขายเพียงอย่างเดียว อาจจะเลือก HSI DW B เนื่องจากวอลุ่มซื้อขายสูงถึงประมาณ 30 ล้านหน่วย ในขณะที่ HSI DW A มีวอลุ่มซื้อขายเพียง 350,000 หน่วย เทรดเดอร์บางท่านอาจจะคิดว่า HSI DW A ขาดสภาพคล่องและหลีกเลี่ยง DW ตัวนี้
แต่หากมองดูให้ดีจะเห็นว่า HSI DW B จะมีปริมาณ Bid และ Offer เพียงข้างละ 500,000 หน่วย เทียบกับ HSI DW A ที่มีปริมาณ Bid และ Offer ถึงข้างละ 15 ล้านหน่วย ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าออก HSI DW A ด้วยไม้ใหญ่ได้ง่าย
เพราะฉะนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า HSI DW A มีสภาพคล่องที่ดีกว่า HSI DW B (หากสมมติให้ปัจจัยอื่นคงที่) ถึงแม้ว่า HSI DW B จะมีวอลุ่มซื้อขายที่สูงกว่า
ทำไมเราควรเลือก DW ที่มีสภาพคล่องสูง?
สำหรับ DW ที่มีสภาพคล่องต่ำ เทรดเดอร์อาจจะไม่สามารถเข้าออกสถานะได้สะดวก ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการขาย DW ไม่ว่าจะในปริมาณมากหรือน้อยก็ตาม และ DW ตัวนั้นมีสภาพคล่องต่ำ อาจจะต้องแย่งคิวการขายจากเทรดเดอร์คนอื่นในตลาด หรืออาจจะขายไม่ได้ราคาที่ต้องการถ้าต้องรอคิวจากเทรดเดอร์อื่นในตลาด และราคาสินค้าอ้างอิงเปลี่ยนไป
จากตัวอย่างด้านบน HSI DW A มีปริมาณ Bid และ Offer ถึงข้างละ 15 ล้านหน่วย ทำให้เทรดเดอร์เข้าออกได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะมีเทรดเดอร์คนอื่นในตลาดรอคิวซื้อขายในตลาดเป็นจำนวนมากก็ตาม
สรุป
เทรดเดอร์ DW ไม่ควรเลือก DW จากวอลุ่มซื้อขายสูงเพียงอย่างเดียว และควรพิจาณาปัจจัยอื่นๆ ให้ถี่ถ้วน รวมถึงสภาพคล่องของ DW ด้วย ซึ่ง DW ที่มียอดวอลุ่มซื้อขายสูง อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ต้องการ และไม่ได้หมายความว่า DW ตัวนั้นจะมีสภาพคล่องสูงกว่า แต่เทรดเดอร์ควรเลือก DW จากสเปคที่ต้องการ และพิจารณาสภาพคล่องของ DW ตัวนั้นในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ออก DW (URL: https://www.thaidw.com/education/individualtip)