11 + 1 it’s me ETFs ไทย "กองทุนไหนช่วยเติมเต็มพอร์ต?"

เคยได้ยินคำพูดนี้กันไหมครับ “อย่าใส่ไข่ทุกใบไว้ในตะกร้าใบเดียวกัน” ฟังดูแล้วอาจจะงงๆ แต่ในโลกแห่งการลงทุนแล้ว สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญที่สะท้อนภาพการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดีที่สุด เพราะการนำเงินออมทั้งหมดไปลงทุนกับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งนั้น เมื่อราคาเกิดมีการปรับตัวไม่เป็นไปตามคาดอาจทำให้เราสูญเสียเงินจำนวนมากได้

การกระจายการลงทุนจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุน ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในช่วงที่ผ่านคือ อาจจะกล่าวถึงทองคำและดัชนีตลาดหุ้น เพราะในช่วงภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนอันเนื่องจากวิกฤตทางการเงินหรือเกิดความวิตกกังวลในตลาดการเงิน ราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้นถ้านักลงทุนมีการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและทองคำ แม้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง แต่นักลงทุนก็ยังได้รับผลตอบแทนจากทองคำมาทดแทน จึงทำให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมนั้นไม่ได้รับผลกระทบ
เสียหายไม่มากนัก

แต่การเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทผู้ลงทุนเองก็มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาหาข้อมูลประกอบการลงทุนจำนวนมากด้วยเช่นกัน แม้อาจจะดูเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับนักลงทุนมือใหม่ แต่ผลิตภัณฑ์ทางการลงทุน ณ ปัจจุบันก็มีทางเลือกการลงทุนในรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับสินทรัพย์อ้างอิงอย่างกองทุน ETFs ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเชิงลึกมากนัก เพียงแค่จัดสรรเงินให้เหมาะว่าจะนำไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใด และเลือกใช้ ETFs ที่มีผู้จัดการกองทุนช่วยบริหารการลงทุนตามนโยบายที่อยากลงทุน

โดยปัจจุบัน ETFs มีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายมากกว่า 10 กองทุน ผ่านนโยบายการลงทุนที่อ้างอิงกับดัชนีหรือราคาสินทรัพย์ แต่จะมีกองไหนโดนใจบ้างไปดูกัน

• กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด
  มีนโยบายการลงทุนอ้างอิงกับดัชนี SET50 หรือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องการซื้อขายสูง 50 อันดับแรกของ
  ตลาดหุ้นไทย ถ้าใครอยากลงทุนตามตลาดหุ้นไทย TDEX อาจจะเป็น ETFs กองแรกๆ ที่น่าเลือกลงทุน

• กองทุนเปิด BCAP SET 100 ETF (BSET100) บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด สำหรับ BSET100 ก็เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่อยากลงทุนอ้างอิงกับตลาดหุ้นไทยเช่นเดียวกัน แต่จะนโยบายการลงทุนจะครอบคลุมหุ้นใน SET100 หรือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องการซื้อขายสูง 100 อันดับแรก
  ของตลาดหุ้นไทย

• กองทุนเปิด BCAP MSCI THAILAND ETF (BMSCITH) บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด BMSCITH เป็นอีกหนึ่งกองทุน ETFs ที่อ้างอิงกับตลาดหุ้นไทย โดยอ้างอิงดัชนี MSCI ซึ่งก็เป็น Benchmark ที่ถูกจัดโดยบริษัท Morgan Stanley Capital International สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติ เรียกได้ว่าถ้าอยากลงทุนอ้างอิงดัชนีหุ้นไทยในมุมมองต่างชาติ BMSCITH ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี

• กองทุนเปิด BCAP MID SMALL CG ETF (BMSCG) บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด สำหรับนักลงทุนที่สนใจกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ETFs ก็มีกองที่ตอบโจทย์ด้วย BMSCG ที่เน้นการลงทุนในบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี

• รู้ไหมหุ้นหมวดไหนมีขนาดใหญ่สุดในไทย ใช่ครับหุ้นกลุ่มพลังงาน สำหรับ ETFs ก็มีทางเลือกการลงทุนที่อ้างอิงกับหุ้นกลุ่มพลังงานให้เลือกถึง 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด MTRACK ENERGY ETF (ENGY) ที่บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด และ กองทุนเปิด KTAM SET ENERGY ETF TRACKER (ENY) ที่บริหารจัดการ โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยหุ้นกลุ่มพลังงานถือเป็นหุ้นกลุ่มที่มีผู้ลงทุนสนใจจำนวนมากและมีสภาพคล่องการซื้อขายสูง ประกอบกับเป็นหุ้นกลุ่มที่มี market cap สูงทำให้มีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นไทย ดังนั้นผู้ลงทุนที่สนใจกลุ่มพลังงาน หรืออยากตามดัชนีก็เลือก 2 กองทุนนี้เป็นทางเลือกได้เช่นกัน

• กองทุนเปิดไทยเด็กซ์ SET High Dividend ETF (1DIV) บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด มีนโยบายการลงทุนอ้างอิง ดัชนี SET High Dividend 30 Total Return Index ซึ่งเป็นกลุ่มหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงต่อเนื่อง

นโยบายลงทุนอ้างอิงทองคำ

• กองทุนเปิดเคแทม โกลด์ อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (GLD) บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นการลงทุนผ่านหน่วยลงทุนใน
  ต่างประเทศอีกต่อ โดยกองทุน SPDR Gold Trust ลงทุนในทองคำแท่งมาตรฐาน LBMA ความบริสุทธิ 99.5% ผู้ลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนทองคำ GLD ถือเป็นทางเลือกลงทุนผ่าน ETFs

• กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ (CHINA) บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน W.I.S.E-CSI 300 China Tracker สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงดัชนี CSI 300 ที่ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 300 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซิ่นเจิ้น ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นจีน CHINA ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
  
  
• อีกหนึ่งการลงทุนในรูปแบบ Thematic Theme ที่เน้นลงทุนใน Mega Trend ของโลก ได้แก่ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฮี่โร่ อีทีเอฟ (UHERO) มีนโยบายลงทุนในอุตสาหกรรมที่โดดเด่นอย่าง Games & Esports โดยมีดัชนีอ้างอิง คือ ดัชนี Solactive Video Games & Esports Index และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โรโบติกส์ & อาร์ติฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อีทีเอฟ (UBOT) มีนโยบายลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม Robotics & AI โดยมีดัชนีอ้างอิง คือ ดัชนี Indxx Global Robotics & Artificial Intelligence Thematic Index ซึ่งทั้งสองตัวนี้เป็นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนชั้นนำในตลาด NASDAQ ที่มีการลงทุนในหุ้นบริษัทระดับโลก

นอกเหนือจากการเลือกลงทุนใน ETFs เพื่อกระจายการลงทุนแล้ว ผู้ลงทุนยังสามารถใช้ ETFs ในการเติมเต็มพอร์ตการลงทุนได้ด้วยเช่นกัน เช่น การกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ การเสริมตราสารหนี้ หรือการลงทุนในทองคำในช่วงภาวะตลาดผันผวน เช่นเดียวกันกับ ถ้าเรามีลงทุนในสินทรัพย์อื่นอยู่แล้ว หรือลงทุนในต่างประเทศอยู่เยอะ และไม่รู้จะลงทุนหุ้นไทยตัวไหนดี กองทุน ETFs ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ!!

และสำหรับผู้ลงทุนหน้าใหม่ที่พอร์ตไม่ใหญ่ ETFs ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้เงินลงทุนน้อยแต่สามารถใช้สอยโอกาสใหญ่ เนื่องจากกองทุน ETFs ซื้อขายในลักษณะหน่วยลงทุน จึงทำให้มีราคาไม่สูงเหมือนราคาหุ้นขนาดใหญ่ หรือทำลายข้อจำกัดในการไปลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ในต่างประเทศ

ETFs จึงถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยได้ทั้งกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่สูงมากในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญยังสามารถทำการซื้อขายง่ายผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย ซื้อขายด้วยสกุลเงินไทยได้ราคา real time และมีนโยบายลงทุนให้เลือกหลากหลาย ดังนั้นลงทุนครั้งต่อไปก็อย่าลืมให้ “ETFs ในไทย” เป็นหนึ่งในตัวเลือกนะครับ

สนใจศึกษาข้อมูลการลงทุน ETF เพิ่มเติม หรือเริ่มซื้อขาย คลิก: www.setinvestnow.com/ETF