ปั้นพอร์ตหุ้นนอก 3 Theme ด้วย DR และ DRx สุดแกร่ง ที่พร้อมโตในระยะยาว

โดย SET
5 Min Read
28 สิงหาคม 2567
24 views
-3-themes-dr-drx-2024
In Focus

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศ นับวันยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นช่องทางที่ช่วยกระจายความเสี่ยง และยังเพิ่มความหลากหลายในการลงทุนมากยิ่งขึ้นโดยไม่จำกัดแค่ในประเทศไทย ซึ่งแต่ละธีมจะมีรายละเอียดที่น่าสนใจอย่างไรนั้นไปดูกันได้เลย


โดยหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนอย่างเรา ได้ลงทุนหุ้นต่างประเทศอย่างสะดวก ก็คือ
1. Depositary Receipt หรือ DR คือ ตราสารที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้น หรือ ETF ในต่างประเทศได้ โดยผู้ออก DR จะเป็นคนกลางที่ไปซื้อหลักทรัพย์ในต่างประเทศมาเก็บไว้ เพื่อใช้ออก DR แล้วจึงนำมาเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป (IPO) ก่อนจะนำมาซื้อขายผ่านตลาดหุ้น
2. Fractional Depositary Receipt หรือ DRx คือ ตราสารแสดงสิทธิหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ไม่มีวันหมดอายุ มีสินทรัพย์อ้างอิงที่หลากหลาย ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศได้อย่างสะดวก โดยมีผู้ออก DRx คอยดูแลจัดการให้

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ ทั้ง DR และ DRx ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทยล้วนเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่ถูกคัดมาอย่างดีเพื่อให้นักลงทุนได้เลือกสรรด้วยตัวเอง
สำหรับนักลงทุนคนไหนที่สนใจลงทุนผ่าน DR และ DRx แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนในกลุ่มไหนดี วันนี้ SET Thailand ได้รวบรวม 3 ธีมการลงทุนอนาคตไกล ที่นักลงทุนควรมีติดพอร์ตมาไว้ให้แล้ว ซึ่งประกอบไปด้วย
  • Tech Innovators : ผู้พัฒนานวัตกรรมเปลี่ยนโลก
  • Industry Leaders : ผู้นำอุตสาหกรรมแห่งยุค
  • Diversified Growth : กระจายการลงทุน กลุ่มดัชนีชั้นนำระดับโลก
02-3-themes-dr-drx-2024

Tech Innovators [ผู้พัฒนานวัตกรรมเปลี่ยนโลก]
  • ASML Holding N.V. ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #ASML01
    ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปให้กับโรงงานผลิตชิปทั่วโลก โดยมีลูกค้าชื่อดังอย่าง TSMC, Samsung และ Intel นอกจากนี้ บริษัท ASML ยังเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย สำหรับจุดแข็งของ ASML คือบริษัทเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยี Extreme Ultraviolet Lithography หรือ EUV ซึ่งใช้สำหรับผลิตชิปขั้นสูง โดยสามารถวาดลายที่มีความซับซ้อนได้ ช่วยให้ชิปประหยัดพลังงาน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้เป็นผู้ผูกขาดตลาดเครื่องผลิตชิป พร้อมกับครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% ทั่วโลก
  • NVIDIA Corporation ชื่อย่อหลักทรัพย์ DRx คือ #NVDA80X
    ผู้นำด้านการผลิตการ์ดจอ (GPU) ที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมเกม อีกทั้งบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกยังได้ซื้อชิป GPU ของบริษัท เพื่อพัฒนา Data Center และ AI ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Google, Microsoft, Meta, Amazon รวมถึง OpenAI และนั่นจึงเป็นที่มาของงบไตรมาส 1/2024 ที่โตระเบิด พร้อมกับขึ้นแท่นบริษัทที่มีมูลค่าทางตลาดมากที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนั่นเอง นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทก็ยังได้เปิดตัวชิปประมวลผลกราฟิก AI รุ่นใหม่ ที่มีชื่อว่า ‘Blackwell’ ซึ่งมีการประมวลผลเร็วขึ้น 30 เท่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานด้านต่าง ๆ เช่น การประมวลผลภาพ เป็นต้นAlphabet Inc.
  • Alphabet Inc. ชื่อย่อหลักทรัพย์ DRx คือ #GOOG80X
    เจ้าของ Search Engine อันดับ 1 ของโลกอย่าง Google ที่ครอบครองข้อมูลมหาศาล และเจ้าของ Youtube แพลตฟอร์มวิดีโอที่มีผู้ใช้งานมากถึง 2.49 พันล้านคน รวมทั้งยังเป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือ Android และ Gemini เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เจ้าใหญ่ คู่แข่งคนสำคัญของ ChatGPT ความโดดเด่นอย่างหนึ่งของ Alphabet คือการมีเงินสดล้นมือ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากบริษัทจะซื้อกิจการอื่น ๆ แล้วนั้น บริษัทยังเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นด้วยการซื้อหุ้นคืน เพราะจะทำให้มีกำไรต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้น จากจำนวนหุ้นในตลาดที่ลดลง และล่าสุดบริษัทเองก็เพิ่งจะประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกอีกด้วย
  • Tencent Holdings Limited ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #TENCENT80
    บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีธุรกิจหลากหลายกลุ่ม เช่น แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง WeChat และยังเป็นบริษัทเกมระดับโลก ที่มีเกมชื่อดังอย่าง RoV, Clash of Clans และ PUBG แม้ทุกวันนี้ Tencent จะก้าวขึ้นมาเป็นพี่ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน แต่บริษัทก็ยังมองหาช่องทางการเติบโตใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่างการเข้าไปลงทุนในธุรกิจ Cloud Platform และเข้าไปถือหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่น ๆ เช่น Meituan, Sea, JD และ Pinduoduo
  • Microsoft Corporation ชื่อย่อหลักทรัพย์ DRx คือ #MSFT80X
    ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ อย่างโปรแกรม Microsoft 365 ที่ใช้งานได้อย่างครอบคลุม เช่น การพิมพ์งานผ่าน Word, การทำบัญชีรายรับรายจ่าย ด้วย Excel รวมถึงการพรีเซนเทชันด้วย PowerPoint ทั้งนี้ บริษัท Microsoft ในฐานะผู้ลงทุนรายใหญ่ใน OpenAI เจ้าของ ChatGPT ก็ได้นำเทคโนโลยี Generative AI มาอัปเกรดและพัฒนาให้กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท เช่น Azure, Bing และ Office ซึ่งจะช่วยขยายฐานรายได้ใหม่ ๆ ให้กับบริษัท และเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากขึ้น
03-3-themes-dr-drx-2024

Industry Leaders [ผู้นำอุตสาหกรรมแห่งยุค]
  • Ping An Insurance (Group) Company of China, Ltd. ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #PINGAN80
    บริษัทประกันเบอร์หนึ่งของจีนที่โดดเด่นในการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งธุรกิจประกัน, ธุรกิจธนาคาร, ธุรกิจด้าน Healthcare และธุรกิจด้านยานยนต์ อาจเรียกได้ว่า Ping An เป็นผู้นำบริษัทแบบดั้งเดิมที่ลุกขึ้นมา Disrupt ตัวเอง ให้เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่างครบวงจร โดยหนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ Ping An ขึ้นแท่นเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ระดับโลก มาจากแนวทางดำเนินธุรกิจแบบ Cross Selling ซึ่งก็คือการที่บริษัทสามารถเสนอขายสินค้าและบริการระหว่างกลุ่มบริษัทในเครือได้ ทำให้ลูกค้า 1 คน สามารถใช้บริการได้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์นั่นเอง
  • Netflix, Inc. ชื่อย่อหลักทรัพย์ DRx คือ #NFLX80X
    ผู้ให้บริการสตรีมมิงวิดีโอที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลก และให้บริการมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก โดยมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งระหว่างปี 2016-2023 มีสมาชิกกว่า 260 ล้านราย หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 15% โดยปัจจัยที่ทำให้ Netflix ประสบความสำเร็จ และก้าวขึ้นมาครอบครองพื้นที่สื่อออนไลน์ คือ
    • คอนเทนต์ มีความหลากหลาย และมีการผลิตคอนเทนต์เป็นของตัวเอง สร้างความแตกต่างให้กับบริษัท
    • เทคโนโลยี Netflix ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี จึงช่วยให้สมาชิกรับชมได้ง่าย สะดวก ไร้ข้อจำกัดเรื่องสถานที่และเวลา
    • ค่าบริการ มีหลากหลายราคาตามงบและความต้องการของลูกค้า จึงทำให้สามารถเจาะกลุ่มสมาชิกได้หลากหลาย
    • ฐานผู้ชมทั่วโลก ปัจจุบัน Netflix ให้บริการกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ช่วยให้บริษัทมีรายได้จากหลาย ๆ แห่ง ต่างจากสื่อแบบดั้งเดิมทั่วไปที่มักจะมีฐานลูกค้าเฉพาะประเทศนั้น ๆ
  • BYD Company Limited ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #BYDCOM80
    บริษัทสัญชาติจีนที่เป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนระดับโลก  ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดจีน และในตลาดต่างประเทศ ทั้งยังเป็นเจ้าของนวัตกรรมแบตเตอรี่ที่มีสิทธิบัตรเฉพาะตัวอย่าง ‘Blade Battery’  ที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงในเวลานี้ เมื่อ BYD เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่เสียเอง และชิ้นส่วนในรถยนต์ของ BYD ก็ผลิตโดยบริษัทในเครือ ตั้งแต่การขุดเหมืองแร่ลิเทียม แล้วนำมาแปรรูป จนถึงการผลิตชิปประมวลผลใช้เอง ในขณะที่คู่แข่งหลายเจ้าต้องนำเข้าจากซัปพลายเออร์รายอื่น จึงทำให้ BYD ควบคุมต้นทุนได้ดีกว่า และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • SINGAPORE AIRLINES LTD. ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #SIA19
    สายการบินอันดับ 1 และดีที่สุดในโลก จากการจัดอันดับโดย World Airline Awards ประจำปี 2023 โดย Singapore Airlines ดำเนินธุรกิจอยู่ 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ธุรกิจสายการบินบริการเต็มรูปแบบ (Full-Service), ธุรกิจสายการบินราคาประหยัด (Low-Cost) และธุรกิจบริการวิศวกรรมเกี่ยวกับเครื่องบิน (SIAEC) อีกทั้งบริษัทยังมีกำไรจากการดำเนินงานปี 2023/2024 สูงสุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งนับเป็นกำไรที่ทุบสถิติใหม่ 2 ปีติดต่อกัน และถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสายการบินมาเลยทีเดียว
  • LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SE ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #LVMH01
    อาณาจักรสินค้าแบรนด์หรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสินค้าหลากหลายครอบคลุมไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ทั้งกระเป๋าหนัง, นาฬิกาหรู, น้ำหอม, เครื่องสำอาง และอัญมณี โดยบริษัทยังเป็นเจ้าของแบรนด์ดังกว่า 75 แบรนด์ เช่น Louis Vuitton, Christian Dior, Tiffany & Co, Givenchy, Fendi, Celine และ Kenzo เป็นต้น จุดแข็งสำคัญที่ทำให้ LVMH เป็นเจ้าใหญ่ในตลาดสินค้าแบรนด์หรู คือการใช้กลยุทธ์การตลาด ที่ผสมผสานทั้ง การแบ่งส่วนการตลาด (Segmentation), การเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) และการวางตำแหน่ง (Positioning)  เพื่อสร้างความประทับใจ และการรับรู้ของลูกค้าอยู่ตลอด
04-3-themes-dr-drx-2024

Diversified Growth [กระจายลงทุน กลุ่มดัชนีชั้นนำระดับโลก]
  • JP กองทุน ETF "China AMC MSCI Japan Hedged to USD ETF" ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #JAPAN13
    กองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นโดยอ้างอิงดัชนี MSCI Japan 100% Hedged to USD ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนล้อไปกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น และยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากการอ่อนค่าของค่าเงินเยน ตัวอย่างหุ้น 5 อันดับแรก ที่ China AMC MSCI Japan Hedged to USD ETF ลงทุน
    • Toyota Motor Corporation (ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกจากญี่ปุ่น)
    • Mitsubishi UFJ Financial Group (กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น)
    • Tokyo Electron Ltd. (ผู้นำด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในญี่ปุ่น)
    • Sony Corporation (ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากญี่ปุ่น)
    • Keyence Corporation (บริษัทจากญี่ปุ่น ที่เชี่ยวชาญในการผลิตระบบเซนเซอร์ และระบบอัตโนมัติ)
  • VN กองทุน ETF "DCVFMVN DIAMOND ETF" ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #FUEVFVND01
    กองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้นเวียดนามโดยอ้างอิงดัชนี VN DIAMOND ซึ่งเป็นดัชนีที่มีเงื่อนไขว่าหุ้นที่เป็นส่วนประกอบจะต้องมีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นอย่างน้อย 95% ของสัดส่วนที่ลงทุนได้ ตัวอย่างหุ้นชั้นนำที่อยู่ในดัชนี VN DIAMOND
    • Mobile World Investment Corporation (กลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม)
    • FPT Corporation (บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม)
    • Phu Nhuan Jewelry (ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับชั้นนำของเวียดนาม)
    • Refrigeration Electrical Engineering (บริษัทโฮลดิ้งที่มีธุรกิจในเครือหลากหลายกลุ่ม)
    • Vietnam Technological & Commercial Bank (ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำที่ให้บริการแบบครบวงจร)
  • HK กองทุน ETF "Hang Seng China Enterprises Index ETF" ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #HKCE01
    กองทุน ETF ที่ลงทุนหุ้นจีนในตลาดหุ้นฮ่องกงโดยอ้างอิงดัชนี Hang Seng China Enterprises ที่เป็นดัชนีของกลุ่มบริษัทจีนยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง จำนวน 50 ตัว ตัวอย่างหุ้น 5 อันดับแรก ที่ Hang Seng China Enterprises Index ETF ลงทุน
    • Tencent (บริษัทไอทีที่ใหญ่ที่สุดในจีน)
    • Meituan (แพลตฟอร์มฟูดดิลิเวอรีเจ้าใหญ่ของจีน)
    • China Construction Bank (หนึ่งในธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ในจีน)
    • Alibaba (ยักษ์อีคอมเมิร์ซจีนชื่อดัง)China Mobile (บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน)
  • HK กองทุน ETF "Tracker Fund of Hong Kong" ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #HK13
    กองทุน ETF ที่ลงทุนหุ้นจีนในตลาดหุ้นฮ่องกงโดยอ้างอิงดัชนี Hang Seng ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนภาพรวมตลาดหุ้นฮ่องกงได้ดีที่สุด โดยรวบรวมหุ้นขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงในตลาดหุ้นฮ่องกง จำนวน 80 ตัว ตัวอย่างหุ้น 5 อันดับแรก ที่ Tracker Fund of Hong Kong ลงทุน
    • Tencent (บริษัทไอทีที่ใหญ่ที่สุดในจีน)
    • HSBC Holdings plc (หนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งเกาะฮ่องกง)
    • Alibaba (ยักษ์อีคอมเมิร์ซจีนชื่อดัง)
    • AIA Group Ltd (บริษัทประกันชีวิตท็อป 10 ระดับโลก)
    • Meituan Class B (แพลตฟอร์มฟูดดิลิเวอรีเจ้าใหญ่ของจีน)
  • US กองทุน ETF "ChinaAMC NASDAQ 100 ETF" ชื่อย่อหลักทรัพย์ DR คือ #NDX01
    กองทุน ETF ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีระดับโลก เน้นบริษัทที่มีการเติบโตสูงโดยอ้างอิงดัชนี NASDAQ100 ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลตอบแทนของบริษัทชั้นนำ 100 บริษัทระดับโลก ตัวอย่างหุ้น 5 ตัว ที่ ChinaAMC NASDAQ 100 ETF ลงทุน
    • Apple Inc. (บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าของผลิตภัณฑ์ iPhone)
    • Microsoft Corporation (ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก)
    • NVIDIA Corporation (ผู้ผลิตชิปประมวลผลชั้นนำ ที่ AI ขาดไม่ได้)
    • Broadcom Inc. (ผู้ออกแบบ และพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก)
    • Amazon.com Inc. (บริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
วิธีซื้อขาย DR (ซื้อขายเหมือนหุ้นไทย)
  • กดค้นหาชื่อย่อหลักทรัพย์ที่สนใจ บนแอปพลิเคชัน Streaming
  • กดที่แถบ Buy/Sell เพื่อซื้อขาย DR
  • ใส่ตัวเลขจำนวนหุ้น ราคา และ PIN
วิธีซื้อขาย DRx
  • หากมีบัญชีหุ้นไทยแล้ว log in เข้าแอปพลิเคชัน Streaming ไปที่เมนู More/My menu เลือก DRx เพื่อแจ้งความประสงค์ขอซื้อขาย DRx
  • เมื่อบัญชีได้รับการอนุมัติ ไปที่เมนู Portfolio และ Deposit เพื่อฝากเงิน
  • เริ่มซื้อขาย โดยกดที่แท็บ Place Order และค้นหาชื่อย่อหลักทรัพย์ที่สนใจ
  • กดแท็บ Buy พร้อมกำหนดราคาซื้อขายด้วย Limit Order หรือ Market Order
  • ระบุจำนวนเงิน หรือจำนวนหน่วย และกด Buy

เทรดง่ายผ่านแอปพลิเคชัน Streaming โอกาสเป็นเจ้าของบริษัทชั้นนำระดับโลก ผ่านตลาดหุ้นไทย มาถึงมือแล้ว
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DR www.setinvestnow.com/th/newdr
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DRx www.setinvestnow.com/drx

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน