แต่ความจริงแล้ว… การลงทุน ไม่จำเป็นต้องเริ่มด้วยเงินจำนวนมากเลย โดยเฉพาะในยุคที่เราใช้บัตรเครดิต หรือบัตรสะสมคะแนนในชีวิตประจำวันมากขึ้น พอยต์ที่สะสมจากการใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ก็สามารถแปลงมาเป็นมูลค่าเงินลงทุนให้กับเราได้ด้วย
วิธีก็ง่าย ๆ แค่นำพอยต์นั้นมาแลกเป็นกองทุนเท่านี้ก็เริ่มต้นลงทุนได้อย่างง่ายดายแล้ว แถมยังช่วยต่อยอดเงินของเราให้เติบโตได้อีกด้วย
💳 แลกพอยต์เป็นกองทุนรวม คุ้มยังไงไปดูกัน !
✔ ลงทุนได้ เริ่มง่ายไม่ต้องใช้เงินสด*
✔ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น
✔ ลดหย่อนภาษี โดยใช้พอยต์แลกกองทุน (กรณีแลกเป็นกองทุนลดหย่อนภาษี)
🕹 บัตรเครดิตและบัตรสะสมคะแนนใบไหน แลกกองทุนอะไรได้บ้าง
ดูต่อได้… ที่ลิงก์นี้เลย 👉 https://www.setinvestnow.com/th/pointtoinvest#page1
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละบัตรกำหนด
“3 Theme กองทุนมาแรง” น่าลงทุน !
ธีมที่ 1) Technology : ฟันเฟืองสำคัญของหลายอุตสาหกรรม
จากการเติบโตของเทคโนโลยีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง การผลิตชิป Semiconductor เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Artificial Intelligence หรือกลุ่มที่นำเทคโนโลยีไปใช้เป็นเบื้องหลังของการผลิตสินค้าและบริการ อย่างธุรกิจอุปกรณ์ Hardware หรือธุรกิจ E-Commerce ทั้งหมดนี้ ต่างก็สะท้อนให้เห็นว่าธีมเทคฯ กำลังมาแรง อีกทั้งยังมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงอีกด้วย
และด้วยความที่เทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและการดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ก็ยิ่งทำให้ความต้องการในตลาดเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ธุรกิจในกลุ่มนี้จึงมีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นตามไปด้วย
เรียกได้ว่านับต่อจากนี้ “เทคโนโลยี” จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา แบบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญไม่แพ้กับปัจจัย 4 อย่างในอดีตเลยก็ว่าได้
กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีที่น่าสนใจ
- Artificial Intelligence (AI)
ไม่เพียงแค่สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น แต่ยังสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ ซึ่งทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และยังช่วยลดต้นทุนได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หรือปรับปรุงกระบวนการทำงานอื่น ๆ
- Semiconductor
ต้นน้ำการผลิตของสินค้าและบริการหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และยานยนต์อัตโนมัติ ดังนั้น หากธุรกิจในอุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องการพัฒนาและก้าวหน้ามากขึ้น ก็จำเป็นต้องใช้ชิปที่มีคุณภาพสูงมากขึ้นด้วย
- Network 5G
การพัฒนาเครือข่าย 5G ไม่ได้เพียงแต่จะเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อของโลกอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนา IoT (Internet of Things) ซึ่งจะทำให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ธีมที่ 2) Healthcare : รากฐานของสุขภาพและชีวิตที่ดี
การดูแลสุขภาพ เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการอยู่ตลอดเวลา และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรสูงอายุ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหลังจากผ่านพ้นวิกฤติโรคระบาด จึงทำให้ธุรกิจในกลุ่มนี้ได้รับความสนใจพร้อมกับโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่พื้นฐานมีความแข็งแกร่งค่อนข้างสูงอีกด้วย
กลุ่มธุรกิจสุขภาพที่น่าสนใจ
- การวิจัยและพัฒนายา
การลงทุนในบริษัทที่มีการวิจัยและพัฒนายาใหม่ ๆ สามารถนำไปสู่การค้นพบยาที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล และยังเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกอีกด้วย
- เทคโนโลยีทางการแพทย์
การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ อย่างเช่น การใช้ AI ในการวินิจฉัยโรค หรือการใช้หุ่นยนต์ในการผ่าตัด ทำให้การรักษามีความรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัยมากขึ้น
ธีมที่ 3) ESG : เข็มทิศสู่การเติบโตที่ยั่งยืน
ความยั่งยืนของโลกการลงทุน ไม่ได้วัดเพียงแค่ผลประกอบการที่ดีเท่านั้น แต่โมเดลธุรกิจในยุคนี้ ยังจำเป็นต้องมีเรื่องการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมควบคู่กันไปด้วย นั่นจึงทำให้ ESG (Environmental, Social, Governance) เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจนับจากนี้เป็นต้นไป
บริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จะสามารถลดความเสี่ยงทางธุรกิจลงได้ เช่น การถูกฟ้องร้องจากปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นต้น
ซึ่งการดำเนินงานที่โปร่งใส และมีธรรมาภิบาลที่ดี ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในระยะยาวให้กับธุรกิจได้ ทำให้ระยะหลังมานี้ เราจะเริ่มเห็นบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกเริ่มตื่นตัว และให้ความสำคัญกับ ESG มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และการที่นักลงทุนเลือกลงทุนในบริษัทที่มีมาตรฐาน ESG นอกจากจะช่วยในการรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว ยังสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวได้ จากการลดความเสี่ยงของปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้
ถึงตรงนี้เราคงพูดได้แล้วว่า ESG ไม่ใช่แค่เทรนด์ระยะสั้น แต่เป็นเข็มทิศที่นำทางให้ธุรกิจของบริษัทและองค์กร รวมถึงเม็ดเงินของนักลงทุน ได้ก้าวสู่อนาคตที่มั่นคง เติบโต และยั่งยืนนั่นเอง
กลุ่มธุรกิจ ESG ที่น่าสนใจ
- พลังงานสะอาดหรือพลังงานทดแทน
บริษัทที่ลงทุนในพลังงานทดแทน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีโอกาสที่จะช่วยลดความเสี่ยง และค่าใช้จ่ายในอนาคตต่อธุรกิจในระยะยาวได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน 3 ธีมนี้ ไม่เพียงแต่เป็นแนวทางการลงทุนเพื่อเก็บสะสมกองทุนที่มีศักยภาพในการเติบโตเท่านั้น แต่การลงทุนของนักลงทุน ยังเป็นการช่วยสร้างและสนับสนุนผลกระทบเชิงบวกต่อโลก สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นลงทุนแล้ว ก็อย่าลืมเช็กพอยต์ที่มีอยู่ เพื่อนำมาแลกเป็นกองทุนตามธีมลงทุนที่ชอบได้เลย !
Tip : แนะนำสำหรับผู้ที่ทำงานมีรายได้ และต้องการวางแผนภาษี
สามารถเลือกกองทุน RMF ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่เน้นลงทุนระยะยาวไว้สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณ หรือ กองทุน SSF ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อการออม ที่เน้นลงทุนระยะยาว นอกจากนี้ยังมี กองทุน ThaiESG ซึ่งเป็นกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทยที่เข้าหลักเกณฑ์ ESG ก็ได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งทั้ง 3 กองทุนนี้ จะมีสิทธิพิเศษคือสามารถนำเงินที่ลงทุนนั้น มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
แต่ที่พิเศษกว่าก็คือการนำพอยต์มาซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีได้เพิ่ม โดยที่ไม่ต้องใช้เงินตัวเองสักบาทเลย*
ที่สำคัญ…การเริ่มทยอยซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะ มีเวลาวางแผน ไม่ต้องใช้เงินก้อนในช่วงปลายปี แถมยังได้ต้นทุนถัวเฉลี่ยอีกด้วย
📌 ลงทุนได้ ไม่ต้องใช้เงินสด* แถมยังได้ใช้พอยต์ต่อยอดความมั่งคั่งผ่านการลงทุน
รู้อย่างนี้แล้ว ไปเช็กพอยต์ของคุณได้ที่..... www.setinvestnow.com/th/pointtoinvest
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละบัตรกำหนด
คำเตือน : ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน