ในโลกของการลงทุน มีเส้นทางมากมายให้นักลงทุนเลือกเดิน แต่มีเส้นทางหนึ่งที่มักดึงดูดสายตานักลงทุนทั่วโลก คือ การลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth Stocks) เพราะเชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างผลตอบแทนที่ดีและรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งรีบร้อนกระโดดเข้าไปลงทุน เพราะโลกของหุ้นเติบโตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป แต่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความผันผวน และความเสี่ยงที่อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ตลอดเวลา ซึ่งการลงทุนในหุ้นเติบโตเปรียบเสมือนการนั่งรถไฟเหาะ อาจจะน่าหวาดเสียวและทำให้หัวใจเต้นแรง แต่ก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้น ดังนั้น ก่อนจะเริ่มลงทุนหุ้นเติบโต ควรทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง ตั้งแต่หุ้นเติบโตคืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร จะลงทุนอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เพราะหากเตรียมตัวให้พร้อมก็เพิ่มโอกาสเข้าใกล้ความสำเร็จได้ระดับหนึ่ง
หุ้นเติบโต หมายถึง หุ้นที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นและรวดเร็วกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ โดยครอบคลุมตั้งแต่การเติบโตของสินทรัพย์ รายได้ และกำไรของบริษัท โดยอาจทำได้ผ่านการสร้างตลาดใหม่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ขยายสาขาสู่ทำเลใหม่ หรือซื้อกิจการเพื่อเสริมธุรกิจหลัก และอาจเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็ได้ ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมใดก็ได้
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเหล่านี้จะต้องการเงินทุน ซึ่งอาจมาจากการดำเนินงานปกติ การระดมทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ หรือการกู้ยืม ดังนั้น บริษัทเติบโตที่มีแผนการลงทุนที่น่าสนใจมักสามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้ดีกว่าด้วยการลงทุนขยายกิจการ แทนที่จะจ่ายเงินปันผล หมายความว่านักลงทุนในหุ้นเติบโตต้องยอมรับกลยุทธ์นี้ โดยคาดหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนในรูปของกำไรจากส่วนต่างราคาที่สูงในอนาคต แต่หากการเติบโตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นักลงทุนอาจขาดความเชื่อมั่นและราคาหุ้นอาจปรับลดลง
สำหรับการค้นหาหุ้นเติบโตที่ดี ต้องมองให้ไกล เข้าใจให้ลึก โดยเคล็ดลับสำคัญ คือ การมองภาพใหญ่ของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ด้วยการถามตัวเองว่าอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า ธุรกิจแบบไหนจะเป็นดาวรุ่งและเติบโต ด้วยการเริ่มพิจารณา 3 ปัจจัยหลัก
1. คุณภาพของธุรกิจ มองหาบริษัทที่แข็งแกร่ง ช่วยให้แข่งขันได้เหนือกว่าคู่แข่งและเติบโตได้ยาวนาน
2. อัตราการเติบโต ดูว่าธุรกิจกำลังขยายตัวได้ดีแค่ไหน
3. ราคาที่เหมาะสม อย่าซื้อแพงเกินไป
เรื่องควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นเติบโต ศึกษาแนวโน้มอุตสาหกรรม
วิเคราะห์ความได้เปรียบในการแข่งขัน
ประเมินคุณภาพของผู้บริหาร
วิเคราะห์งบการเงิน
ประเมินความเสี่ยง
ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
ใช้เครื่องมือทางเทคนิคประกอบการตัดสินใจ
มีความอดทนและมุมมองระยะยาว
|
สำหรับจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหุ้นเติบโต มีดังนี้
เมื่อตลาดกำลังตกใจ แต่บริษัทยังแข็งแรง
เมื่อตลาดหุ้นผันผวนหรือมีข่าวร้ายระยะสั้น แต่พื้นฐานของบริษัทยังแข็งแกร่ง จะเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นเติบโตในราคาที่น่าสนใจ
หลังประกาศผลประกอบการที่ดีเกินคาด
เมื่อบริษัทประกาศผลประกอบการที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังเติบโตเร็วกว่าที่ตลาดคิด อาจเป็นจังหวะดีที่จะเข้าซื้อก่อนที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นตามผลประกอบการ
เมื่อบริษัทเปิดตัวนวัตกรรมใหม่
เมื่อบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีศักยภาพสูง แต่ตลาดยังไม่ตื่นเต้นมากนัก อาจเป็นโอกาสที่ดี หากเชื่อในวิสัยทัศน์ของบริษัทและเห็นศักยภาพของนวัตกรรมนั้น
ช่วงที่บริษัทกำลังขยายตลาด
เมื่อบริษัทประกาศแผนขยายตลาดหรือเข้าสู่ตลาดใหม่ อาจเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อ ก่อนที่การขยายตัวจะส่งผลให้ราคาหุ้นจะปรับสูงขึ้น
หลังการแก้ไขปัญหาสำคัญ
ทุกบริษัทย่อมเจอปัญหา แต่บริษัทที่แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ บริษัทที่น่าจับตามอง เมื่อบริษัทสามารถจัดการกับความท้าทายสำคัญได้ เช่น ปรับปรุงระบบการผลิต หรือแก้ไขปัญหาคุณภาพสินค้า อาจเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อ เพราะแสดงถึงความสามารถในการปรับตัวและพัฒนาของบริษัท
อย่าลืมว่า ไม่มีจังหวะไหนที่สมบูรณ์แบบ 100% การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แต่ถ้าศึกษาข้อมูลละเอียด รู้จักบริหารความเสี่ยง มีความอดทน ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนหุ้นเติบโตได้แน่นอน
เงื่อนไขการจัดอันดับ
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน