8 หุ้นราคาปรับลดลง แต่ยอดขายและกำไรเติบโตโดดเด่น

โดย ฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3 Min Read
6 สิงหาคม 2567
13.247k views
TSI_Article_609_Inv_Thumbnail
Highlights

สภาวะตลาดหุ้นผันผวน ราคาหุ้นหลายตัวปรับลดลง ทำให้นักลงทุนลังเลกับแผนการลงทุน แต่ในอีกมุมอาจเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ “ซื้อหุ้นดี ราคาถูก” แต่ก็ต้องเลือกให้รัดกุมมากขึ้นด้วยการเน้นปัจจัยพื้นฐาน เช่น ผลประกอบการดี กำไรเติบโตต่อเนื่อง หนี้สินต่ำ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ มีแผนรับมือวิกฤติ มีกลยุทธ์การเติบโตในอนาคต รวมถึงไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเทคโนโลยีใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ถ้าหุ้นตัวไหนมีคุณสมบัติเหล่านี้ แต่ราคาปรับลดลงเพราะตลาดผันผวน อาจเป็นโอกาสที่ดี แต่อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง อย่าทุ่มสุดตัว ควรกระจายการลงทุน และเน้นลงทุนในระยะยาว

ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนอาจรู้สึกวิตกกังวลเมื่อเห็นราคาหุ้นปรับลดลง แต่จริง ๆ แล้ว อาจเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่มองการณ์ไกล โดยเฉพาะเมื่อพบหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง แต่ราคาปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโดยรวม

 

โดยปัจจัยพื้นฐาน บ่งบอกถึงสุขภาพทางการเงินและศักยภาพในการเติบโตของบริษัท เช่น ผลประกอบการ ส่วนแบ่งตลาด ความสามารถในการทำกำไร โอกาสทางธุรกิจในอนาคต บริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีมักจะสามารถฝ่าฟันวิกฤติและเติบโตได้ในระยะยาว

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หุ้นมีพื้นฐานแข็งแกร่งแต่ราคาปรับตัวลดลง

  • ภาวะตลาดโดยรวม ตลาดอาจอยู่ในช่วงขาลง ทำให้หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามบรรยากาศโดยรวม แม้แต่หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีก็อาจได้รับผลกระทบ
  • ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ หรือสงครามการค้า อาจส่งผลลบต่อตลาดโดยรวม ทำให้นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น
  • ผลประกอบการระยะสั้นไม่เป็นไปตามคาด แม้บริษัทจะมีปัจจัยพื้นฐานดี แต่หากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ราคาหุ้นอาจปรับตัวลง
  • การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม เทคโนโลยีใหม่หรือคู่แข่งรายใหม่อาจทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท แม้ว่าปัจจุบันจะยังมีผลประกอบการดี
  • ปัญหาชั่วคราวของบริษัท เช่น การเปลี่ยนผู้บริหาร ปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน หรือข่าวลือเชิงลบ อาจส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงชั่วคราว
  • การขายทำกำไรในระยะสั้น หากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามาก นักลงทุนอาจตัดสินใจขายทำกำไร ทำให้ราคาปรับตัวลง
  • ปัจจัยทางจิตวิทยา ความกลัวและความโลภของนักลงทุน อาจทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานในระยะสั้น
  • การปรับพอร์ตการลงทุนของสถาบัน กองทุนขนาดใหญ่อาจขายหุ้นเพื่อปรับสัดส่วนการลงทุน โดยไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
  • ปัจจัยทางเทคนิค นักลงทุนอาจใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการตัดสินใจซื้อขาย ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน
  • การคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต แม้ปัจจุบันบริษัทจะมีผลประกอบการดี แต่หากนักลงทุนคาดว่าอนาคตอาจไม่สดใส ราคาหุ้นก็อาจปรับตัวลง

 

สำหรับนักลงทุนระยะยาว สถานการณ์นี้อาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นดีในราคาถูก (Buy the Dip) แต่ต้องวิเคราะห์ให้แน่ใจว่าปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งจริง และปัจจัยลบที่กดดันราคาเป็นเพียงปัญหาชั่วคราว ไม่ใช่ปัญหาเชิงโครงสร้างของบริษัทหรืออุตสาหกรรม

 

สำหรับการพิจารณาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งในเบื้องต้น เริ่มต้นจากบริษัทที่มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

  • สะท้อนความสามารถในการแข่งขัน เมื่อบริษัทสามารถเพิ่มรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง แสดงว่ามีความสามารถในการแข่งขันสูง อาจเป็นเพราะมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น บริการที่ยอดเยี่ยม หรือกลยุทธ์การตลาดที่แยบยล ทำให้ลูกค้าเลือกใช้สินค้าหรือบริการแทนที่จะไปเลือกคู่แข่ง
  • แสดงถึงการบริหารจัดการที่ดี รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการวางแผนและการบริหารจัดการที่ดีของผู้บริหาร มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ เข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง
  • เพิ่มโอกาสในการลงทุนและขยายกิจการ เมื่อรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทก็จะมีเงินทุนมากขึ้นสำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ การวิจัยและพัฒนา หรือขยายธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตในอนาคต
  • สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ การเติบโตของรายได้สม่ำเสมอเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน ทำให้หุ้นน่าสนใจมากขึ้น และอาจส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้นในอนาคตอีกด้วย
  • เพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงิน บริษัทที่มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องจะมีความยืดหยุ่นทางการเงินที่ดีสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย การแข่งขันที่รุนแรง หรือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

เคล็ดลับการวิเคราะห์การเติบโตของรายได้

  • ดูย้อนหลัง 3 - 5 ปี ตรวจสอบว่ารายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือไม่
  • เปรียบเทียบกับคู่แข่ง ดูว่าบริษัทที่สนใจเติบโตเร็วกว่าหรือช้ากว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน
  • เข้าฟัง Opportunity Day เป็นวันที่บริษัทจดทะเบียนพบกับนักลงทุน โดยผู้บริหารจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทด้วยตัวเอง ซึ่งจะพูดถึงแผนการเติบโตในอนาคต
  • อ่านรายงานประจำปี จะอธิบายข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท


ถัดมาให้พิจารณากำไรสุทธิ ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานของบริษัทที่ได้รับหลังจากหักค่าใช้จ่ายและภาษี พูดง่าย ๆ ว่าเป็นเงินที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้จริง ๆ ดังนั้น การที่กำไรสุทธิเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับสุขภาพทางการเงิน

  • แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การที่บริษัทสามารถเพิ่มกำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าทีมผู้บริหารมีความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ขายของได้มากขึ้น แต่ต้องรู้จักบริหารต้นทุนด้วย ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในโลกธุรกิจที่แข่งขันกันสูง
  • สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน นักลงทุนชอบความแน่นอน การเห็นกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ ทำให้รู้สึกมั่นใจว่าเงินที่ลงทุนไปจะงอกเงยและปลอดภัย
  • เปิดโอกาสในการลงทุนเพื่อการเติบโต เมื่อบริษัทมีกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เท่ากับว่ามีเงินสดในมือมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หรือซื้อกิจการอื่นเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
  • สร้างความยืดหยุ่นทางการเงิน ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงและเติบโตต่อเนื่องจะมีความยืดหยุ่นมาก สามารถทนต่อความผันผวนได้ดี และมีโอกาสที่จะฉวยโอกาสทางธุรกิจในขณะที่คู่แข่งกำลังดิ้นรนเอาตัวรอด
  • เพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น เมื่อกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น มูลค่าของบริษัทมักจะเพิ่มขึ้นตาม ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น และอาจจ่ายเงินปันผลได้มากขึ้น

เคล็ดลับเบื้องต้นในการสังเกตบริษัทที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่อง

  • เพิ่มรายได้โดยไม่เพิ่มต้นทุนมากเกินไป เป็นสูตรพื้นฐานที่สุดแต่ทำได้ยากที่สุด บริษัทอาจต้องหาตลาดใหม่ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือปรับปรุงการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การลดต้นทุนไม่ได้หมายถึงการตัดทอนทุกอย่าง แต่ต้องรู้ว่าควรลดตรงไหน ลดอย่างไร โดยไม่กระทบคุณภาพของสินค้าหรือบริการ
  • ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุนได้มาก เช่น การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล
  • บริหารเงินทุนหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารสินค้าคงคลัง ลูกหนี้ และเจ้าหนี้อย่างเหมาะสม ช่วยให้บริษัทมีเงินสดใช้อย่างคล่องตัว และลดต้นทุนทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิเป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ปัจจัยที่ควรพิจารณา เมื่อเลือกลงทุน อย่าลืมพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น กระแสเงินสด อัตราส่วนทางการเงิน อ่านบทวิจัย ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์และประวัติการบริหารที่ดี ที่สำคัญถึงแม้จะเป็นโอกาสที่จะได้หุ้นดีในราคาถูก แต่ต้องระวังไม่ให้ตกหลุมพรางของ “หุ้นราคาถูก เพราะปัจจัยพื้นฐานอ่อนแอ” จึงควรวางแผนให้รัดกุม

  • ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน อย่าเชื่อแค่ข่าวลือ ต้องวิเคราะห์งบการเงินและแนวโน้มธุรกิจด้วยตัวเอง
  • ลงทุนแบบทยอยซื้อ ไม่ต้องรีบร้อนเทเงินลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียว
  • กระจายความเสี่ยง อย่าเอาไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว ควรลงทุนในหลาย ๆ อุตสาหกรรม
  • มองระยะยาว อย่าคาดหวังกำไรเร็วเกินไป ให้เวลาบริษัทฟื้นตัวและเติบโต
  • ตั้งจุดตัดขาดทุน กำหนดจุดขายทิ้งหากราคาตกต่ำกว่าที่คาดไว้
Table showing 8 stocks price drops with revenue profit growth

เงื่อนไขการจัดอันดับ

1. ราคาหุ้น 3 มกราคม – 26 กรกฎาคม 2567 ปรับลดลง
2. รายได้รวมเพิ่มขึ้นตลอด 5 ปี (ปี 2562 – 2566)
3. กำไรสุทธิเป็นบวก (ห้ามขาดทุนสุทธิ) ตลอด 5 ปี (ปี 2562 – 2566)
4. กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1 ปี 2567 เป็นบวก (ห้ามขาดทุนสุทธิ)
5. D/E Ratio ต่ำกว่า 1.50 เท่า
6. เงินสดสุทธิ ไตรมาส 1 ปี 2567 เป็นบวก

 

การลงทุนในหุ้นย่อมมีความเสี่ยง แต่หากเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีวินัยในการลงทุน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวก็มีสูงตามไปด้วย อย่างที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ “ตลาดหุ้นเป็นเครื่องมือถ่ายโอนความมั่งคั่งจากคนใจร้อนไปสู่คนที่อดทน” ดังนั้น อดทน ศึกษาให้ดี และอย่าลืมว่าทุกวิกฤติย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ

สำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่สนใจ เรียนรู้วิธีการดูว่ากิจการนั้น จะไปรอดหรือไม่รอด...ต้องดูที่งบกระแสเงินสด โดยเรียนรู้โครงสร้างและเทคนิคในการวิเคราะห์งบกระแสเงินสด ผ่านกรณีศึกษาต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบการได้มาและใช้ไปของเงินสด รวมถึงสภาพคล่องทางการเงินของกิจการ เพื่อเพิ่มโอกาสค้นหาหุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน สามารถเรียนรู้ผ่าน e-Learning หลักสูตร “Statement of Cash Flows” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
แท็กที่เกี่ยวข้อง: