ในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่น่าไว้วางใจ ทำให้การดำเนินธุรกิจภาคเอกชนต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และแน่นอนทำให้ผู้ประกอบการเลือกที่จะเก็บเงินสดเอาไว้ติดตัว พูดง่าย ๆ บริษัทเลือกที่จะมีสภาพคล่องทางการเงินในระดับที่รู้สึกว่าอุ่นใจ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาโดยไม่คาดฝันจะไม่ต้องเดือดร้อนไปหยิบยืม ร้ายไปกว่านั้นหากยืมเงินไม่ได้อาจจะต้องปิดกิจการ
ว่ากันว่าหุ้นที่ถูกจับตามองมากที่สุดกับภาวะเศรษฐกิจผันผวน หนีไม่พ้นหุ้นที่มีกระแสเงินสดเยอะ หนี้สินต่ำหรือไม่มีหนี้สิน พูดง่าย ๆ มีสภาพคล่องทางการเงินแข็งแกร่ง ตรงกันข้ามหุ้นที่มีหนี้สินเต็มบริษัท เงินสดในมือน้อย อาจจะต้องพบกับแรงกดดันกับความอยู่รอดหากเกิดวิกฤติ ซึ่งผู้บริหารทุกบริษัทตระหนักดีว่าการเตรียมเงินสดไว้ในมือเป็นเรื่องสำคัญ
ดังนั้น ในภาวะเช่นนี้ สภาพคล่องทางการเงิน คือ หัวใจของการอยู่รอดของธุรกิจ เพราะหาก “เงินสดขาดมือ” และบริษัทมีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้หรือมีภาระคืนเงินกู้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจนำไปสู่การถูกฟ้องล้มละลายได้
เงื่อนไขการจัดอันดับ
วิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนในการดูว่าบริษัทไหนมีสภาพคล่องทางการเงินที่ไว้วางใจได้ คือ วงจรเงินสด (Cash Cycle) โดยผลลัพธ์ที่ออกมา “ยิ่งน้อยหรือติดลบ ยิ่งดี” เพราะสะท้อนถึงการมีประสิทธิภาพในการสร้างยอดขายและสามารถเรียกเก็บเงินสดจากลูกหนี้การค้าได้ ก่อนที่จะต้องจ่ายเงินสดนั้นออกไปให้กับเจ้าหนี้การค้าหรือนำไปจ่ายหนี้ ทำให้มีเงินสดมาใช้หมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ เช่น การลงทุน การจ่ายเงินปันผล การจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นต้น
“วงจรเงินสด” มีความสำคัญเพราะสามารถบ่งบอกถึงการบริหารจัดการเรื่องกระแสเงินสด ถ้าผู้บริหารจัดการดี จะทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องกระแสเงินสดขาดมือ การหมุนเงินก็คล่อง มีเงินชำระหนี้ได้สบาย ๆ โดยวงจรเงินสดสามารถดูได้จากการขายสินค้าและสินค้าค้างสต็อก
สูตรคำนวณวงจรเงินสด วงจรเงินสด = ระยะเวลาขายสินค้า + ระยะเวลาเก็บหนี้ - ระยะเวลาจ่ายหนี้ |
สำหรับบริษัทที่อาจมีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด คือ ถึงแม้ขายสินค้าได้ แต่เก็บเงินไม่ได้ บริษัทก็จะต้องหากระแสเงินสดจากทางอื่น เพื่อมาใช้ในการดำเนินงาน เช่น พึ่งพาเงินกู้ หรือเพิ่มทุน เป็นต้น สังเกตจากวงจรเงินสด “มีค่าเป็นบวก” แสดงว่าสามารถขายสินค้าและเก็บหนี้ได้ช้ากว่าการจ่ายหนี้ ทำให้มีการเงินที่ติด ๆ ขัด ๆ หรือมีสภาพคล่องต่ำ
ตัวอย่าง
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาหุ้นที่มีวงจรเงินสดติดลบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ จากการที่บริษัทเหล่านี้มีกระแสเงินสดแข็งแรงทำให้มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไม่น่าแปลกใจหากหุ้นที่มีกระแสเงินสดเยอะ ๆ มีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องด้วย
ความสำคัญของวงจรเงินสด
|
ดังนั้น จึงไม่แปลกใจว่านักลงทุนมักจะมองหุ้นที่มีสุขภาพทางการเงินแข็งแรง โดยให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีเงินสดในมือสูง มีกระแสเงินสดต่อเนื่อง สามารถจ่ายหนี้ได้อย่างมั่นคง และสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การดูวงจรเงินสด เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นในบางประเด็นเท่านั้น การวิเคราะห์เพื่อลงทุนยังมีอีกหลายประเด็นที่นักลงทุนต้องวิเคราะห์รายละเอียดอื่น ๆ เช่น ผลประกอบการ อัตราส่วนทางการเงิน และแนวโน้มของอุตสาหกรรมของบริษัทต่อไปด้วยว่าน่าสนใจและควรลงทุนหรือไม่
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน