ขอแนะนำให้รู้จัก “ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์” อีกหนึ่งทางเลือกการออมที่นอกจากจะได้รับผลตอบแทนดีกว่าการฝากเงินแล้ว ยังได้รับการคุ้มครองชีวิต และที่สำคัญ หากมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ก็ยังสามารถนำเงินออมที่เป็นค่าเบี้ยประกันนี้ไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทอีกด้วย
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์นั้นมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น 5/10 7/15 15/25 1/30 20/20 เป็นต้น โดย ตัวเลขด้านหน้า คือ จำนวนปีที่ชำระเบี้ยประกันภัย และ ตัวเลขด้านหลัง คือ จำนวนปีที่คุ้มครอง เช่น ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ 5/10 หมายถึง ระยะเวลาจ่ายชำระเบี้ย 5 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิต 10 ปี เมื่อครบกำหนดอายุกรมธรรม์ ก็จะได้รับเงินออมและผลประโยชน์ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ เป็นต้น
เทคนิคการเลือกประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
หากเลือกชำระเบี้ยเป็นรายปี รายหกเดือน รายสามเดือน และรายเดือน จะได้รับผลประโยชน์ดังนี้
* คำนวณผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ยต่อปีด้วยวิธี Internal Rate of Return (IRR) โดยเป็นการหาผลตอบแทนเฉลี่ยของการลงทุนที่ทำให้เงินสดสุทธิในอนาคตทอนมูลค่ากลับมาปัจจุบันแล้ว มีค่าเท่ากับ เงินลงทุนก้อนแรก เหมาะกับการลงทุนมีการใส่เงินลงทุนหลายๆ ก้อน ในคนละจังหวะเวลากัน
จะเห็นว่า... การชำระเบี้ยประกันแบบรายเดือนหรือรายสามเดือนมีค่าเบี้ยรวมสูงกว่าแบบรายปีประมาณ 8% ทำให้ผลตอบแทนสุทธิตลอดอายุสัญญา ต่ำกว่า การชำระเบี้ยแบบรายปี
ดังนั้น วิธีที่เหมาะสมสำหรับการออมผ่านประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คือ การชำระเงินค่าเบี้ยประกันแบบรายปี เพราะค่าเบี้ยรวมต่ำกว่าและจะได้รับผลตอบแทนสุทธิสูงสุดตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาวไปพร้อมๆ กับการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิต แม้ทางเลือกนี้อาจไม่ได้สร้างผลตอบแทนที่มากมายเมื่อเทียบเท่ากับทางเลือกอื่นๆ แต่หากเทียบกับ ความคุ้มครองชีวิต ที่ได้รับเพิ่มขึ้น ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ควรออมอย่างต่อเนื่องเพื่อความมั่นคงในระยะยาวนั่นเอง
สำหรับใครที่สนใจอยากรู้เทคนิคและวิธีการวางแผนจัดการเงินอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ และสามารถต่อยอดความมั่งคั่งไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงินได้ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “เงินทองต้องวางแผน” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่