‘หุ้นปันผล’ อาวุธการลงทุน สุดแกร่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

โดย SET
5 Min Read
6 มิถุนายน 2567
16.319k views
div 2024 investhow
In Focus

เมื่อพูดถึงการลงทุนที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่และเหมาะสมกับช่วงเศรษฐกิจผันผวนแบบนี้ การลงทุนที่เน้นผลตอบแทนแบบ‘หุ้นปันผล’ ย่อมเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะความน่าสนใจของหุ้นปันผล คือการสร้างกระแสเงินสดของนักลงทุนจากนโยบายปันผลที่ทางบริษัทได้กำหนดสัดส่วนจากกำไรที่ตั้งไว้รวมถึงตัวนักลงทุนเองก็ยังสามารถทำกำไรจากการขายส่วนต่างของราคาหุ้นด้วยนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนหุ้นปันผลก็ยังมีความเสี่ยงที่ต้องระวังด้วยเหมือนกัน เช่น ความเสี่ยงจากผลประกอบการที่ไม่สามารถสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องจนธุรกิจไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ หรือความเสี่ยงจากการถือหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ถึงแม้จะให้เงินปันผลต่อเนื่อง แต่ก็ทำให้นักลงทุนหาจังหวะขายออกได้ยาก และอาจส่งผลต่อพอร์ตลงทุนได้หากถือครองในระยะยาว

 

แต่อย่าลืมว่าการลงทุนหุ้นปันผลนั้น คือ การลงทุนระยะยาว ดังนั้น การคัดเลือกหุ้นปันผลที่มีคุณภาพ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่นักลงทุนต้องใส่ใจ ซึ่งมีด้วยกันอยู่ สามข้อหลัก ได้แก่

 

  • สังเกตงบการเงิน

งบการเงินเป็นสิ่งสำคัญของการเลือกหุ้นปันผล เพราะหุ้นปันผลที่มีผลกำไรดี กระแสเงินสดเป็นบวก และมีหนี้สินน้อย นั่นแสดงถึงความสามารถของบริษัทในการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วย

 

  • เช็กอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน

อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) เป็นตัวบ่งบอกถึงจำนวนเงินปันผลที่เราจะได้รับจากบริษัทที่เราลงทุน ซึ่งถ้ามีอัตราเปอร์เซ็นต์สูง ก็เท่ากับว่าบริษัทมีการจ่ายปันผลสูงด้วย

 

โดยมีวิธีในการคำนวณคือ การนำจำนวนเงินปันผลต่อหุ้น x 100 และ ÷ ด้วยราคาตลาดของหุ้น เท่านี้ก็จะได้ตัวเลขอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนแล้ว

 

  • เลือกบริษัทที่เป็นเทรนด์ขาขึ้น นอกเหนือจากการมองหาบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในท้องตลาดแล้ว ลักษณะธุรกิจที่มาแรง และมีแนวโน้มการเติบโตสูง ก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะการลงทุนในหุ้นปันผลเป็นการลงทุนระยะยาว ยิ่งบริษัทมีการเติบโตที่ดี ย่อมส่งผลดีต่อหุ้นปันผลที่เราถืออยู่ด้วย

 

ทั้งหมดนี้คือแนวทางคร่าว ๆ ของการคัดเลือกหุ้นปันผลเท่านั้น แน่นอนว่า สำหรับนักลงทุนที่ยังเป็นมือใหม่ อาจจะยังไม่คล่องในการคัดเลือกหุ้นที่ใช่เท่าไรนัก  และเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุนกับหุ้นปันผลไทย ทางตลาดหลักทรัพย์ ได้จัดทำรูปแบบการคัดเลือกหุ้นปันผล เพื่อนักลงทุนไทยถึง 2 รูปแบบ 2 สไตล์ด้วยกัน

 

รูปแบบ 1 Dividend Universe

Dividend Universe คือ การคัดกรองหุ้นปันผลโดยฝ่ายวิจัยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา โดยแบ่งช่วงระยะเวลาเก็บข้อมูลออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน คือ 3 ปี, 5 ปี, 7 ปี และมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างสม่ำเสมอปีละหนึ่งครั้งซึ่งจะเน้นไปที่หุ้นปันผลที่เหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว จากบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการดีและมีบรรษัทภิบาลที่ดีเป็นหลัก

 

โดย Dividend Universe มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นปันผลทั้งหมด 4 ข้อ ดังนี้

 

  1. ความสามารถในการทำกำไร โดยต้องเป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิต่อเนื่อง ตลอดช่วงระยะเวลาที่เก็บข้อมูล
  2. ความอยู่รอดของกิจการ มีกระแสเงินสดเป็นบวก ตลอดช่วงระยะเวลาที่เก็บข้อมูล
  3. การจ่ายผลตอบแทน มีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ตลอดช่วงระยะเวลาที่เก็บข้อมูล
  4. บรรษัทภิบาลของบริษัท โดยต้องได้รับคะแนนบรรษัทภิบาล ที่จัดทำโดยคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ ในระดับ “ดี” ขึ้นไป หรืออยู่ในเกณฑ์ 3 ดาว จากการประเมินครั้งล่าสุดเท่านั้น

 

ซึ่งในปี 2567 นี้ มีจำนวนบริษัทจดทะเบียนในไทย ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก Dividend Universe ทั้งสิ้น 446 บริษัท แบ่งเป็นชุดข้อมูล 3 ปี จำนวน 198 บริษัท ชุดข้อมูล 5 ปี จำนวน 141 บริษัท และชุดข้อมูล 7 ปี จำนวนทั้งสิ้น 107 บริษัท

 

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจดูรายชื่อบริษัทที่เข้าเกณฑ์ Dividend Universe สามารถรับชมได้ที่นี่ 👉 https://www.set.or.th/th/education-research/research/database/dividend-universe/overview

 

รูปแบบ 2 SET High Dividend 30 Index (SETHD)

 

เป็นดัชนีหุ้นที่รวบรวมเฉพาะกลุ่มหุ้นปันผลในตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงสุด 30 อันดับด้วยกัน โดยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง และมีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีการพิจารณาปรับหลักทรัพย์ทุก 6 เดือนด้วยกันโดยแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือรอบเดือนมิถุนายน และรอบเดือนธันวาคม

 

ซึ่ง SETHD Index มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นปันผลทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้

 

  1. ต้องเป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SET100 เท่านั้น เนื่องจากบริษัทที่อยู่ในดัชนี SET100 คือบริษัทใหญ่ที่ถูกคัดเลือกมาแล้วว่ามีมูลค่าสูง สภาพคล่องสูง มีความมั่นคง และน่าเชื่อถือ
  2. มีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง ซึ่งวัดจากการเก็บข้อมูลภายในระยะเวลา 3 ปี
  3. ให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่เหมาะสม โดยต้องมีอัตราส่วนการจ่ายปันผลต่อกำไรสุทธิ (Dividend payout ratio) ไม่เกินร้อยละ 100

 

โดยผู้ที่สนใจสามารถตรวจดูรายชื่อบริษัทที่อยู่ใน SETHD Index และทดลองเข้าใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น Streaming ตามขั้นตอนดังนี้

 

     1. เมื่อกดเข้าหน้าแรก ให้ดูที่เมนูแถบด้านบน และกดคลิกที่ช่อง ‘Watch’

1-31080318


     2. เมื่อกดเข้าไปแล้ว ให้เลือกคลิกต่อที่ช่อง ‘SET’

2-31080327


     3. ในช่อง Active List ให้เลื่อนลงมาจนถึงหน้า SET & mai แล้วกดเลือก .SETHD

3

     4. เพียงเท่านี้เราก็จะพบกับรายชื่อหุ้นปันผลทั้ง 30 อันดับของดัชนี SETHD อย่างที่ต้องการ

4


นอกเหนือจากเกณฑ์การเลือกหุ้นปันผลทั้ง 2 รูปแบบแล้ว นักลงทุนยังสามารถหาหุ้นปันผลที่ใช่ ได้แบบประหยัดเวลาและสะดวกกว่าเดิม ที่แอปพลิเคชั่น Streaming บนตัวเลือก Dividend Play ที่คัดรวมหุ้นปันผลที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงและจ่ายปันผลต่อเนื่อง

 

โดยสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอนด้วยกัน

 

  1. เข้าหน้าแอปพลิเคชัน Streaming และกดเลือกที่ช่อง My Menu ที่อยู่ด้านล่างสุด
  2. กดเลือกช่อง Stock Screener ที่ขึ้นมาบนหน้าจอ
  3. เข้าสู่หน้า Quick Screener และกดเข้าไปในช่อง Dividend Play และเลือกดูหุ้นปันผลที่น่าสนใจได้ทันที

 

ทั้งหมดนี้ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือและตัวช่วยชั้นดีของนักลงทุนไทย ที่สามารถย่นระยะเวลาในการมองหาหุ้นปันผลคุณภาพดีที่ตรงใจได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามการศึกษาและทำความเข้าใจกับหุ้นปันผลก่อนลงทุน ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในโลกของการลงทุน ยิ่งรู้มากก็ยิ่งได้เปรียบมาก

 

 

eOpen Banner for investHow-01-01
แท็กที่เกี่ยวข้อง: