เป็นเจ้าของหุ้นเกมจอย Nintendo ผ่านตลาดหุ้นไทย

โดย ฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3 Min Read
28 พฤษภาคม 2567
2.283k views
TSI_Article_592_Inv_Thumbnail
Highlights

หากสนใจซื้อหุ้น Nintendo ไม่ต้องบินไปซื้อที่ตลาดหุ้นโตเกียว วันนี้ซื้อผ่าน DR มีชื่อย่อในการซื้อขายคือ “NINTENDO19” ที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ยกจอยเกมในจอออกมาไว้บนกระดานหุ้นไทย โดย Nintendo เป็นผู้ผลิต พัฒนาและขายเกมพกพา ดำเนินกิจการมากว่า 135 ปี ภายใต้แบรนด์ Nintendo ซึ่ง DR ตัวนี้จะเป็นตัวช่วยในการกระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนไทย เชื่อมโยงการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย พร้อมปลุกพลังเกมเมอร์ในตัวนักลงทุน

หากเป็นเด็กที่ชื่นชอบการเล่นเกม เชื่อว่าต้องเคยครอบครองหรืออย่างน้อยก็เคยเล่นเครื่องเกมยอดนิยมอย่าง Game Boy และ Nintendo Switch หรือเคยเล่นเกม Super Mario มาแล้วอย่างน้อย 1 ภาค และผู้ที่รัก Mario จะมีความสุขมากกว่าเดิมเมื่อได้เล่นภาคอื่น ๆ และใครที่เพิ่งเคยสัมผัสกับ Mario ก็จะหลงรักเขาทันที ขณะที่หลายคนผ่านการไล่จับ Pokemon รวมถึงการเป็นเจ้าของเครื่องเกมพกพา (Console) ซึ่งเจ้าของเกมเหล่านี้มีชื่อว่า Nintendo และแน่นอนหากเป็นนักลงทุนก็ใฝ่ฝันต้องการซื้อหุ้นผู้ผลิตเกมมาริโอและเกมอื่น ๆ วันนี้ฝันได้เป็นจริงแล้วเมื่อสามารถเป็นเจ้าของหุ้นเกมจอย Nintendo ผ่านตลาดหุ้นไทย

 

Nintendo ก่อตั้งขึ้นในปี 1889 โดยมารุฟุกุ (Marufuku Company) เริ่มต้นจากการผลิตไพ่ดอกไม้หรือฮะนะฟุดะ (Hanafuda Cards) และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Nintendo ในปี 1970 โดยมีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นเพื่อเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้กลายเป็นแบบดิจิทัล

 

Nintendo เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิต IP เกมและจำหน่ายเครื่องเกมต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ Nintendo โดยกว่าครึ่งศตวรรษ ได้ผลิตเครื่องเกมออกมาสู่ตลาดมากมาย โดยเริ่มตั้งแต่เครื่อง Nintendo Family (FAMICOM), Super Famicom, Nintendo 64, Gamecube, Gameboy, Gameboy Advanc, Nintendo DS/3DS, Nintendo WII/WIIU และเครื่องเกมรุ่นล่าสุดอย่าง Nintendo Switch รวมถึงเป็นเจ้าของ Character และ IP เกมอย่าง Mario, Pokemon, Zelda, Kirby, Animal Crossing, Fire Emblem เป็นต้น

 

สำหรับประเภทธุรกิจ Nintendo มีรายได้จาก 3 ภาคส่วน ได้แก่

  • ธุรกิจวิดีโอเกมทั้งแบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ (Dedicated Video Game Hardware/Software) ผลิตและจัดจำหน่ายเกมภายในเครือ รวมถึงเครื่องเกมของตัวเอง
  • ธุรกิจบริการเกมมือถือรวมถึงแชร์สิทธิ IP ของตัวเองและอื่น ๆ (Smart Devices, IP Related Income) ให้บริการเกมมือถือ โดยมีรายได้จากการขายไอเทมภายในเกม รวมถึงการแชร์ IP ของตัวเองให้เกิดประโยชน์เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ เช่น การสร้างสวนสนุกใน Universal Studio เป็นต้น
  • ธุรกิจการ์ดเกม (Playing Cards) ผลิตและจัดจำหน่ายการ์ดเกมในเครือ

 

สินค้าหลักของ Nintendo คือ เกมแบบ Exclusive บนแพลตฟอร์มของบริษัท เครื่องเล่นเกมคอนโซล และสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกมคอนโซลหลักของบริษัท คือ เครื่อง Nintendo Switch โดยผลประกอบการปี 2566 (สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคม 2567) มียอดขายทั้งสิ้น 1,671,865 ล้านเยน เพิ่ม 4.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยทำกำไรสุทธิได้ 490,602 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 13.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสัดส่วนรายได้แบ่งตามภูมิภาค ดังนี้

  • ทวีปอเมริกาเหนือและใต้ 44%
  • ทวีปยุโรป 24%
  • ญี่ปุ่น 22%
  • ภูมิภาคอื่น ๆ 10%

นอกจากนี้ Nintendo ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น โดยไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย แต่มีเงินสดในมือราว 2.25 ล้านล้านเยน

 

โดยปีที่ผ่านมา Nintendo ได้รับประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนลง ช่วยให้ทำกำไรได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเกมอย่าง The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom และภาพยนตร์ Super Mario ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงช่วยดันรายได้และกำไร

 

สำหรับปัจจัยที่จะช่วยสร้างรายได้ให้เติบโตได้ในระยะยาว คือ การมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจเกมเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Brand Power ประสบความสำเร็จมากขึ้น เช่น จากผลงานของภาพยนตร์ The Super Mario Bros ก็ทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ออกมาสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ที่ใช้ในการต่อยอดจากตัวการ์ตูนต่าง ๆ ที่สร้างมา

 

นอกจากนี้การวางขายเครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้รายได้เติบโต โดยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Nintendo ได้มีการประกาศเปิดตัวเครื่องเล่นเกมคอนโซล Nintendo Switch รุ่นใหม่ภายในมีนาคม ปี 2568 เพื่อทดแทนเครื่องรุ่นเดิมที่มีการวางขายเมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่หนุนการฟื้นตัวของรายได้และราคาหุ้นในช่วง 1 - 3 ปีข้างหน้า

 

นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่ามีโอกาสสูงที่กลุ่มผู้ใช้งานเดิมจะมีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ที่พร้อมรองรับเกมระดับ A-list ที่ใช้กราฟิกสูง ๆ ได้ ซึ่งจากการเก็บข้อมูลย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 2543 พบว่าในช่วง 6 ครั้งหลังสุดที่ Nintendo มีการวางขายตัวเครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ หุ้นมีการปรับตัวขึ้น 4 จาก 6 ครั้ง (คิดเป็นโอกาสราว 67%) ภายในระยะเวลา 12 เดือนหลังการวางขายและปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 38% เมื่อประกอบกับการที่เครื่อง Nintendo Switch ได้รับความนิยมสูงนับตั้งแต่ช่วงเปิดตัว จึงมองว่ามีโอกาสสูงที่การเปิดตัวครั้งดังกล่าวจะมีผลตอบรับที่ดีจากทั้งกลุ่มลูกค้าและนักลงทุน

 

หากนักลงทุนไทยสนใจ ซื้อหุ้น Nintendo สามารถลงทุนหุ้นตัวนี้ผ่าน DR (Depositary Receipts) หรือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยผู้ออก DR คือ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จะเป็นคนไปซื้อหุ้น Nintendo แล้วนำมาเสนอขายให้กับนักลงทุนไทยในรูปสกุลเงินบาทอีกต่อหนึ่ง โดย DR มีชื่อย่อในการซื้อขายคือ “NINTENDO19” อ้างอิงหุ้นของบริษัท Nintendo ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยข้อดีของการซื้อ DR คือ

  • ลงทุนง่ายผ่านแอป Streaming ที่ใช้ซื้อหุ้นไทย เพียงแจ้งความประสงค์เพื่อซื้อขาย DR กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ
  • เงินน้อยก็เป็นเจ้าของหุ้นระดับโลกได้ แถมยังเลือกส่งคำสั่งเป็นจำนวนบาทได้
  • รับสิทธิประโยชน์เสมือนซื้อหุ้นต่างประเทศนั้นโดยตรง เช่น เงินปันผล
  • ติดตามความเคลื่อนไหวได้สะดวก ซื้อขายตามเวลาตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่หลักทรัพย์อ้างอิงจดทะเบียนอยู่

 

นักลงทุนที่สนใจ ลงทุนใน DR “NINTENDO19” สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> คลิกที่นี่ 

 

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการลงทุนใน DR กลไกการเคลื่อนไหวของราคา ตลอดจนวิธีการซื้อขาย และกลยุทธ์การลงทุนใน DR สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “ลงทุน DR ฉบับมือใหม่” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
แท็กที่เกี่ยวข้อง: