DCA กับ กองทุนรวมตลาดเงิน

โดย SET
3 Min Read
1 มกราคม 2564
6.504k views
TSI_50_DCA กับ กองทุนรวมตลาดเงิน
Highlights
  • กองทุนรวมตลาดเงิน คือ ทางเลือกลงทุนที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการบริหารสภาพคล่อง เพราะสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการคล้ายกับบัญชีออมทรัพย์ที่สามารถเบิกถอนได้ตลอด และยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

  • กองทุนรวมตลาดเงินมีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาหน่วยลงทุนไม่ค่อยผันผวนมาก วิธีการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นการซื้อด้วยเงินก้อนใหญ่ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องถัวเฉลี่ยราคาต้นทุน แต่สำหรับคนที่ไม่มีเงินก้อนพร้อมลงทุน ก็สามารถทยอยลงทุนสะสมด้วยเงินก้อนเล็กๆ ไปทุกเดือนได้ เป็นการสร้างวินัยในการออมให้กับตนเอง

“อยากมีแหล่งสะสมเงิน ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าฝากออมทรัพย์”

“อยากลงทุนระยะสั้นๆ ถอนเงินออกมาใช้จ่ายก่อนได้”
      

“อยากลงทุนแบบที่ไม่ต้องคอยพะวงเรื่องความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้น”

 

แบบนี้จะมีทางเลือกลงทุนอะไร ที่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์การลงทุนเหล่านี้ไปได้ดีกว่า... กองทุนรวมตลาดเงิน

 

หากเป็นสมัยก่อน... เมื่อพูดถึงการเก็บออมและการลงทุน สิ่งแรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงก่อนเสมอคือการฝากเงินในธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการฝากออมทรัพย์ ที่สะดวกสามารถฝากถอนได้ทุกวัน หรือการฝากประจำ ที่ได้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ต้องแลกกับความสะดวกในการถอนเงินที่จะถอนได้เมื่อครบตามกำหนดเวลา

 

แต่ในปัจจุบันเชื่อว่าทุกคนรู้ดีว่า อัตราดอกเบี้ยจากการฝากออมทรัพย์ไม่ได้มากเท่าแต่ก่อน แถมบางธนาคารอาจไม่มีอัตราดอกเบี้ยฝากออมทรัพย์ พูดง่ายๆ ก็คือดอกเบี้ยเป็น 0%

 

จะดีกว่าไหม... ถ้าลองมาทำความรู้จักทางเลือกลงทุนใหม่ๆ เปลี่ยนจากการออมด้วยการฝากเงินในธนาคารมาเป็นการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) ที่มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี คล้ายคลึงกับกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น อีกทั้งยังเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้นของผู้ที่ต้องการบริหารสภาพคล่อง ไม่ต้องการสูญเสียเงินต้น และต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากออมทรัพย์ (แม้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการในอัตราที่ต่างกันไปสำหรับแต่ละกองทุน) ที่สำคัญคือ ผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ (สำหรับบุคคลธรรมดา) และเราสามารถติดตามผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินได้ทุกวันอีกด้วย

 

กองทุนรวมตลาดเงิน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

 

  1. กองทุนรวมตลาดเงิน (ตราสารหนี้ภาครัฐ) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเป็นหลัก เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ
  2. กองทุนรวมตลาดเงิน (ทั่วไป) ที่นอกจากลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐแล้ว ยังกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ของบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคง และเงินฝากของสถาบันการเงินด้วย เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงมากขึ้น

โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.5 – 2.5 % ขึ้นอยู่กับนโยบายและประเภทสินทรัพย์ที่ลงทุน


อีกหนึ่งจุดเด่นของกองทุนรวมตลาดเงินที่ทำให้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในการบริหารสภาพคล่อง เพราะสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการคล้ายกับบัญชีออมทรัพย์ที่สามารถเบิกถอนได้ตลอด โดยเมื่อขายหน่วยลงทุน เราจะได้รับเงินในวันทำการถัดไป (T+1) เช่น หากขายหน่วยลงทุนในวันจันทร์ จะได้รับเงินในวันอังคาร แต่หากขายในวันศุกร์ จะได้รับเงินวันจันทร์ เป็นต้น

 

บริหารสภาพคล่องด้วยการทยอยลงทุนกองทุนรวมตลาดเงิน

 

ด้วยความที่กองทุนรวมตลาดเงินมีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ราคาหน่วยลงทุนไม่ค่อยผันผวนมากเมื่อเทียบกับกองทุนรวมประเภทอื่นๆ ดังนั้น วิธีการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดจึงเป็นการลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องถัวเฉลี่ยราคาต้นทุน แต่สำหรับคนที่ไม่มีเงินก้อนพร้อมลงทุน ก็สามารถทยอยลงทุนสะสมด้วยเงินก้อนเล็กๆ ไปทุกเดือนได้เช่นกัน เพียงแค่สมัครบริการลงทุนแบบ DCA ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ให้หักเงินจากบัญชีธนาคารมาซื้อหน่วยลงทุนให้ทุกๆ เดือน เมื่อทำเช่นนี้นอกจากจะเป็นการทยอยสะสมเงินก้อนโตแล้ว ยังช่วยให้เรามี “วินัยในการออม” ที่ดีมากยิ่งขึ้น

TSI_Article_050_Inv_DCA กับ กองทุนรวมตลาดเงิน_01

จะเห็นว่า... การทยอยลงทุนสะสมในกองทุนรวมตลาดเงินสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าการฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์เฉยๆ โดยที่ไม่ต้องพะวงเรื่องความเสี่ยง และไม่ถูกจำกัดเรื่องสภาพคล่องในการเบิกถอนอีกด้วย

 

เทคนิคการเลือกกองทุนรวมตลาดเงิน

 

  • อัตราผลตอบแทน โดยเลือกกองทุนรวมที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ รวมทั้งดีกว่ากองทุนรวมอื่นๆ และดีกว่าดัชนีชี้วัด (Benchmark) ซึ่งโดยทั่วไปจะเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเฉลี่ย 3 ธนาคารใหญ่ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  • ประเภทของตราสารที่ลงทุน นโยบายการลงทุนจะเป็นตัวกำหนดผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวม ถ้ามีนโยบายการลงทุนในตราสารกลุ่มที่ออกโดยสถาบันการเงินและภาคเอกชนมากๆ กองทุนรวมก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง แต่ก็จะมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารภาครัฐ
  • การกระจายการลงทุน ในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน รวมทั้งพิจารณาจากอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ลงทุน (Duration) และอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ในระดับสูง
  • ค่าใช้จ่าย โดยเลือกกองทุนรวมที่คิดค่าใช้จ่ายต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนรวมที่มีลักษณะและนโยบายการลงทุนเหมือนกัน
  • ความสะดวกในการทำธุรกรรม เลือกกองทุนรวมที่มีที่ตั้งสาขา มีตัวแทนในการซื้อขายหน่วยลงทุน หรือมีระบบซื้อขายออนไลน์ เพื่อให้สะดวกในการซื้อขายได้หลากหลายช่องทาง

 

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มอยากลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน เพราะนอกจากจะเป็นทางเลือกที่สร้างผลตอบแทนได้มากกว่าการฝากเงินที่ธนาคารแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่ำและสภาพคล่องสูงอีกด้วย ดังนั้น กองทุนรวมตลาดเงินจึงเหมาะที่จะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ของนักลงทุนมือใหม่ ถึงแม้จะไม่ได้สร้างผลตอบแทนมากมาย แต่ก็ช่วยให้เงินออมของเราไม่ได้ลดมูลค่าลงไปตามเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ถ้าพร้อมแล้วก็มา >> เปิดบัญชี เริ่ม DCA กันเลยดีกว่า!!

 

สำหรับใครที่สนใจอยากรู้เทคนิคลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA ในหุ้นดี กองทุนเด่น เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินในระยะยาว สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร วางแผนลงทุนสม่ำเสมอด้วยหุ้นและกองทุน” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่

แท็กที่เกี่ยวข้อง: