ส่องเทรนด์แห่งการลงทุนยุคใหม่ ในโลกของ Digital Token

การเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ลงทุน คือหนึ่งในรูปแบบของการให้เงินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ความท้าทายในการลงทุนที่เราทราบกันดี นั่นก็คือการค้นหาแนวทางที่ผู้ลงทุนจะแน่ใจได้ว่าเหมาะสมกับผู้ลงทุนมากที่สุด ทั้งในแง่ของผลตอบแทนที่กำลังมองหา ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือข้อจำกัดด้านอื่นๆ ของผู้ลงทุนเอง

ในวันนี้เราจะขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Digital Token รูปแบบการลงทุนในโลกของการเงินยุคใหม่ เหมาะสมกับผู้ที่กำลังเริ่มต้นลงทุน และผู้ที่กำลังมองหาการลงทุนใหม่ๆ ที่มีรูปแบบผลตอบแทนที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความสนใจและไลฟ์สไตล์ของนักลงทุน พร้อมเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการลงทุนให้มีความโปร่งใสและปลอดภัยยิ่งขึ้น

หากพูดถึงคำว่า Digital Token ทุกคนอาจยังไม่คุ้นชินกันมากนัก แต่หากพูดถึง Cryptocurrency หรือ Bitcoin ทุกคนอาจเคยได้ยินกันบ่อยครั้งแล้วและมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น อันที่จริงแล้ว Digital Token ก็ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นเดียวกันกับ Cryptocurrency ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง แต่มีความน่าสนใจตรงที่ Digital Token ไม่ได้มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าแบบที่ Cryptocurrency เป็น แต่เป็นตัวแทนของ “สิทธิ” หรือ “ผลตอบแทน” ที่สามารถถูกกำหนดได้อย่างหลากหลาย ซึ่งให้ผลตอบแทนในลักษณะคล้ายคลึงกับการถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ แตกต่างจาก Cryptocurrency และสิ่งนี้เองจึงเป็นความน่าสนใจของ Digital Token ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกของการลงทุนยุคใหม่

Digital Token ถือเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ในโลกของการเงิน ซึ่งมีสินทรัพย์รองรับอยู่เบื้องหลังในการออก โทเคน หรือที่เรียกว่า Tokenize ให้ผู้สนใจสามารถร่วมลงทุนในธุรกิจหรือ Project นั้นๆ ได้ โดยมี ความน่าสนใจตรงที่เป็นการเงินแบบ “Decentralized System” หรือ รูปแบบกระจายศูนย์ นั่นก็คือไม่จำเป็นต้องมีคนดูแลหรือมีตัวกลางในการเข้ามาจัดการ แต่ในโลกของการเงินยุคใหม่นี้ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้และตรวจสอบได้อย่างเท่ากัน จึงมีความโปร่งใสสูง และจุดนี้เองคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Digital Token มีความแตกต่าง และอาจเป็นการลงทุนที่หลายท่านกำลังมองหาอยู่

ภาพรวมของ Digital Token ทั้งในไทยและในต่างประเทศสะท้อนถึงความนิยมที่สูงมากขึ้น ในแง่ของความสนใจของผู้ถือสินทรัพย์ที่หันมาออก Digital Token เอง หรือที่เรียกว่า Tokenize ให้ผู้ออกโทเคนดิจิทัลสามารถนำสินทรัพย์ชิ้นหนึ่งที่มีมูลค่าสูงมาระดมทุนจากประชาชนที่สนใจด้วยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่เป็นหน่วยย่อย ซึ่งผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับสิทธิตามที่ผู้ออกโทเคนดิจิทัลกำหนดไว้ใน Whitepaper เช่น สิทธิในการได้รับการแบ่งปันรายได้ที่มาจากกระแสรายรับที่เกิดจากสินทรัพย์ตัวนั้น ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนหรือการมีส่วนร่วมในกิจการหรือ project ที่มีความหลากหลายตามความสนใจของผู้ลงทุนแต่ละราย

ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ยอดฮิตที่เป็นกระแสในไทยอย่างเรื่อง บุพเพสันนิวาส ๒ ก็ได้ทำการระดมทุนจากการเสนอขาย Digital Token ให้ผู้ชมได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นผู้ร่วมลงทุนในภาพยนตร์เรื่องนี้ หรือในต่างประเทศหลากหลายบริษัทและหน่วยงานของรัฐบาลก็ได้เปิดตัวโครงการ Digital Token เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ในฮ่องกงได้มีการนำร่องเปิดตัวโครงการ Tokenized Green Bonds ระดมทุนมูลค่าราว 800 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ Siemens บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ได้มีการระดมทุนผ่านการเสนอขาย Digital Bond มูลค่ารวมทั้งหมดราว 60 ล้านยูโร เป็นต้น

ถึงแม้ว่าปัจจุบันกระแสความสนใจ Digital Token ในฝั่งของผู้ลงทุนไทยยังคงอยู่ในจุดเริ่มต้น แต่จากรายงานของ Boston Consulting Group (BCG) ได้คาดการณ์ไว้ว่า ตลาด Digital Token จะเติบโตสูงถึง 10% ของ GDP โลก หรือกว่า 86 ล้านล้านเหรียญในปี 2030 อันเป็นผลมากจากความน่าสนใจของ Digital Token ในหลายๆ ปัจจัย ดังนี้

• เป็นการลงทุนที่เข้าถึงได้ง่าย และสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เลยด้วยเงินลงทุนสบายกระเป๋า
• มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยบนเทคโนโลยี Blockchain และ Smart Contract
• เป็นผลดีต่อผู้ที่ต้องการระดมทุนหรือผู้ออกโทเคน ที่ต้องการแตกย่อยสินทรัพย์ที่มูลค่าสูงให้กลายเป็นหน่วยย่อย เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้สินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น ศิลปะ อสังหาริมทรัพย์ และหุ้นเอกชน มีสภาพคล่องมากขึ้นและซื้อขายได้ง่ายขึ้น

แม้ว่า Digital Token ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่คล้ายคลึงกับ Cryptocurrency เพราะอยู่บนเทคโนโลยี Blockchain เช่นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างสำคัญอย่างการมีสินทรัพย์ในโลกจริงรับรองอยู่เบื้องหลัง ทำให้ความผันผวนของราคาต่ำกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแต่ละ Digital Token ด้วย

ผู้ที่อยากเริ่มต้นลงทุนใน Digital Token สามารถเลือกลงทุนได้ตามความสนใจและผลตอบแทนที่กำลังมองหา ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มลงทุนในอุตสาหกรรมที่ตนเองมีความรู้ มีความคุ้นชิน หรือการลงทุนใน Project ที่นักลงทุนชื่นชอบ จะยิ่งช่วยให้การลงทุนใน Digital Token เข้าถึงได้ง่ายและตรงตามความสนใจหรือเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ลงทุนอีกด้วย

ทั้งนี้ ขึ้นชื่อว่าการลงทุนก็ย่อมมีความเสี่ยงควบคู่กันไปด้วย โดยความเสี่ยงของ Digital Token ค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของ Token นั้นๆ จึงขอแนะนำให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Digital Token ศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนตัดสินใจลงทุนผ่าน Whitepaper ของโครงการที่ต้องการลงทุนก่อนตัดสินใจ

หากเริ่มสนใจใน Digital Token กันมากขึ้นแล้ว ต่อมาจะขอชวนมาทำความรู้จักโทเคนที่น่าสนใจในตลาดปัจจุบันกันว่ามีอะไรบ้าง

1. Real X Token

ภาพจาก https://www.origin.co.th/real-x-token/

วัตถุประสงค์ : โทเคนที่นำเงินจากการระดมทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งกระแสรายรับจากห้องชุดของคอนโดมิเนียมหรูของกลุ่ม ORIGIN ใน 3 โครงการ เพื่อปล่อยเช่า และนำผลการดำเนินงานจากการให้เช่าและกำไรจากการจำหน่ายคอนโดมิมาแบ่งปันให้กับผู้ถือโทเคนดิจิทัล

อายุของโครงการ: 10 ปี เว้นแต่มีการต่ออายุโครงการ

รูปแบบผลตอบแทน : (1) ผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิในปีที่ 1 – 10 ของโครงการ (รวมทั้งกรณีที่มีการขยายอายุโครงการ) ซึ่งมีการรับประกันรายรับสุทธิในช่วงปีที่ 1-5 ชองโครงการ ตามอัตราที่ระบุไว้ใน Whitepaper และ (2) ผลตอบแทนรายไตรมาสจากการจำหน่ายทรัพย์สินของโครงการในปีที่ 6-10 ของโครงการ (รวมทั้งกรณีที่มีการขยายอายุโครงการ)

ประเภทโทเคนดิจิทัล : โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) โดยมีราคา ICO ที่โทเคนละ 182 บาท

การจดทะเบียนในตลาดรอง: RealX Token ได้มีการจดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่าหนึ่งแห่ง โดยนักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรจาก ICO จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะนำโทเคนดิจิทัลที่ได้รับการจัดสรรไปซื้อขายในตลาดรองแห่งใด และนักลงทุนที่สนใจสามารถซื้อขาย RealX Token
ในตลาดรองที่ตนเปิดบัญชีซื้อขายได้

ผู้ที่สนใจลงทุนใน RealX Token สามารถเปิดบัญชีซื้อขายผ่านตลาดรองได้แล้วที่ TDX ศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัล ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และเป็นบริษัทในกลุ่มของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยดาวน์โหลดแอป TDX และเปิดบัญชีได้แล้ววันนี้ https://www.set.or.th/tdx/download.html  

2. Destiny Token

ภาพจาก https://thestandard.co/destiny-token/

วัตถุประสงค์ : นำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนสร้างภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส ๒ และนำกำไรจากการฉายและจำหน่ายภาพยนตร์ผ่านช่องทางต่างๆ มาแบ่งปันให้กับผู้ถือโทเคนดิจิทัล

อายุของโครงการ: ไม่เกิน 2 ปี

รูปแบบผลตอบแทน :

1. ผลตอบแทนทางการเงินแบบคงที่ตามอัตราที่กำหนดใน Whitepaper
2. หากรายได้จากการฉายภาพยนตร์เกิน 1,000 ล้านบาท ผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับผลตอบแทนทางการเงินเพิ่มแบบคงที่ตามอัตราที่กำหนดใน Whitepaper
3. สิทธิในการซื้อสินค้าที่ระลึก ส่วนลดพิเศษ และการเข้าร่วมงานพบปะนักแสดง
   (มีรูปแบบและสิทธิแตกต่างกันตามโทเคนดิจิทัลแต่ละประเภท)

ประเภทโทเคน :

1. I am Glad (5,559 บาทต่อโทเคน)
2. I am Delighted (159,559 บาทต่อโทเคน)
3. I am Happy (1,555,559 บาทต่อโทเคน)

การจดทะเบียนในตลาดรอง: ไม่จดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

3. Sirihub Token

ภาพจาก Siri Hub

วัตถุประสงค์ : นำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งกระแสรายรับจากรายได้ค่าเช่าของอาคารสำนักงาน SIRI CAMPUS และนำส่วนแบ่งรายได้มาจัดสรรให้แก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัล

อายุของโครงการ: 4 ปี เว้นแต่มีการต่ออายุโครงการ

รูปแบบผลตอบแทน : ผลตอบแทนแตกต่างกันตามประเภทของโทเคน

1. ส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาสในอัตราไม่เกินที่กำหนดใน Whitepaper
2. ส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการ

ประเภทโทเคน :

1. Sirihub A (โทเคนละ 10 บาท)
2. Sirihub B (โทเคนละ 10 บาท)

การจดทะเบียนในตลาดรอง: จดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ซื้อขายโทเคนดิจิทัล

• Digital Token เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่อยู่ในรูปแบบตัวแทนของ “สิทธิ” หรือ “ผลตอบแทน” ที่สามารถถูกกำหนดได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับผู้ออกโทเคนดิจิทัล
• Digital Token กำลังเป็นที่น่าสนใจทั้งในไทยและต่างประเทศ และมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตสูงขึ้นในทุกปี
• Digital Token มีความน่าสนใจเนื่องจากสินทรัพย์ที่อยู่เบื้องหลังในการออกโทเคน รวมทั้งเทคโนโลยีที่มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือได้ นอกจากนี้ รูปแบบการลงทุนสามารถทำได้ง่าย ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นสบายกระเป๋า
• รูปแบบผลตอบแทนมีความหลากหลายตามข้อกำหนดของ Digital Token ซึ่งนักลงทุนสามารถมองหาผลตอบแทนที่สนใจและเหมาะสมกับตนเองตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• การลงทุนใน Digital Token มีความเสี่ยง ผู้ที่สนใจลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยสามารถศึกษารายละเอียดของโทเคนดิจิทัลที่สนใจได้ผ่าน Whitepaper ของแต่ละโทเคนดิจิทัล

ที่สำคัญอย่าลืมว่า สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้