ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Digital Token เป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้ยินกันบ่อยๆ แต่ก่อนที่จะพูดถึงที่มาของความนิยม อยากจะชวนนักลงทุนมาทำความเข้าใจสินทรัพย์ดิจิทัล กับ “ความแตกต่างระหว่าง Digital Token และ Cryptocurrency”
สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Digital Asset เป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่เกิดจากการแปลงสินทรัพย์ในปัจจุบันมาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ในประเทศไทยได้มีการแบ่งสินทรัพย์ดิจิทัลออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 Cryptocurrency หรือที่มักเรียกติดปากกันว่า "คริปโทฯ" นั่นเอง ซึ่งรูปแบบของเจ้าคริปโทฯ คือ สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ ส่วนใหญ่ที่เรามักรู้จักกันเช่น Bitcoin หรือ Ethereum
ประเภทที่ 2 Digital Token ที่สามารถอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าอยู่ในรูปแบบของ “สิทธิ” ที่ได้รับจากการถือโทเคน ซึ่งสิทธิที่ว่าก็ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดที่แต่ละผู้ออกโทเคนกำหนดเอาไว้นั่นเอง โดยหลักๆ Digital Token จะถูกแบ่งออกตามจุดประสงค์ของโทเคนนั้นๆ ซึ่งมี 2 ประเภทคือ
ว่ากันว่า Digital Token จะเป็นอนาคตของการลงทุน เพราะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คนที่สนใจลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายมากขึ้น เช่น อสังหาริมทรัพย์ สินทรัพย์ยอดนิยมของคนทุกๆ รุ่น ที่มักมีข้อจำกัดหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ใช้เงินลงทุนสูง บริหารจัดการยาก และสภาพคล่องต่ำ จึงได้เกิดการลงทุนรูปแบบใหม่โดยการนำสินทรัพย์มาแปลงเป็น Digital Token ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว อย่างเช่น คอนโดมิเนียมหรืออาคารสำนักงาน โดยใช้เงินลงทุนไม่มาก ไม่ต้องบริหารจัดการเอง และมีสภาพคล่องที่ดีกว่า นอกจากนั้นแล้ว Digital Token ยังมีสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลายตามแต่ผู้ออกโทเคน (Issuer) จะสร้างสรรค์ออกแบบ และสามารถให้ผลตอบแทนในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในรูปแบบที่เป็นตัวเงินและไม่ได้เป็นตัวเงิน เช่น สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
แม้ว่าผลตอบแทนของ Digital Token จะมีความหลากหลายและน่าสนใจ แต่ก็มีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรจะต้องศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน เช่น สภาพคล่องช่วงเริ่มต้นการซื้อขายที่ต่ำ ผลตอบแทนที่ผู้ถือโทเคนได้รับอาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ หรือความเสี่ยงเฉพาะตัวด้านธุรกิจของบริษัทผู้ออกโทเคน
ก่อนจะเริ่มต้นลงทุนใน Digital Token อยากชวนนักลงทุนทุกคนมาทำความรู้จักกระบวนการในการออกโทเคนกันก่อน เชื่อว่านักลงทุนหลายคนคุ้นชินกับการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นครั้งแรกอย่าง IPO (Initial Public Offering) กันมาบ้างแล้ว ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลก็มีการระดมทุนที่มีรูปแบบคล้ายกัน อย่างการเสนอขายโทเคนครั้งแรกจะเรียกว่า ICO (Initial Coin Offering) โดย Issuer ต้องระดมทุนผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถทำการจองซื้อในตลาดแรกได้ภายใน 3 ขั้นตอน
หลังจาก Issuer ได้ระดมทุนผ่านการทำ ICO ในตลาดแรกแล้ว ผู้ที่ถือโทเคนจากในตลาดแรก หรือผู้ที่สนใจลงทุนในโทเคนแต่ยังไม่ได้จองซื้อในตลาดแรก สามารถเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยน Digital Token ได้ที่ตลาดรองหรือศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ในตลาดรอง Thai Digital Assets Exchange Company Limited (TDX) หรือ บริษัท ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่มของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่ให้บริการซื้อขายเฉพาะ Digital Token สำหรับนักลงทุนที่สนใจเปิดบัญชีสามารถดาวน์โหลด TDX Application ได้แล้ววันนี้ ผ่าน ระบบ iOS และ ระบบ Android หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/th/tdx/tdxservices
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Digital Token สามารถศึกษารายละเอียด RealX โทเคนเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการอนุญาตให้ออกและเสนอขายจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ที่ realxtoken.finance
และที่สำคัญอย่าลืมว่า สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้