New Tech New Trends การลงทุนแห่งอนาคตผ่าน DRx

          แม้ว่าสถานการณ์ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาจะมีความผันผวนอยู่ไม่น้อย แต่ทิศทางโดยรวมของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกายังคงมีความแข็งแกร่ง เพราะมีปัจจัยสำคัญมาจากกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีที่ได้รับการตอบรับที่ดี จนเติบโตแบบพุ่งทะยาน นั่นก็คือกลุ่มบริษัท Big Tech ชั้นนำระดับโลก อย่าง Alphabet, Apple, Microsoft, NVIDIA และ Tesla นั่นเอง

          ซึ่งเหตุผลที่ทำให้กลุ่ม Big Tech เหล่านี้ขึ้นมามีบทบาทในตลาดการลงทุนก็คือ อิทธิพลของสินค้าและบริการ ที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันไปแล้ว รวมถึง Trends ที่กำลังเข้ามากำหนดทิศทางต่อ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในอนาคตด้วยเช่นกัน รายละเอียดจะมีอะไรบ้าง ไปสำรวจพร้อมกันได้เลย

1. Green Technology

          ปัญหาโลกร้อนและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก รวมไปถึงปัญหาเรื่องของการขาดแคลนพลังงานน้ำมัน ที่มีผลสืบเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้หลายฝ่ายจริงจังกับการอนุรักษ์พลังงาน และจำกัดการปล่อยมลพิษในระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นจุดเร่งที่ทำให้เกิด Green Technology ไม่ว่าจะเป็น

Green Data Center ที่พัฒนาระบบศูนย์ข้อมูลให้ใช้พลังงานน้อยลงกว่าเดิม

Green Construction หรือนวัตกรรมก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Green Energy กลุ่มพลังงานทางเลือก ที่มีทั้งการพัฒนาไฮโดรเจนเขียว การหันมาใช้แผงโซลาร์เซลล์

          รวมถึงรถยนต์ EV ซึ่งเป็น Alternative Mobility ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าแทนน้ำมัน ทำให้รถยนต์ EV ได้รับความนิยมอย่างมาก และยังมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ

บริษัทที่เกี่ยวข้อง :

Tesla Inc. ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก

2. Artificial Intelligence

          แท้จริงแล้ว จุดเริ่มต้นของ AI เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1950s จาก อลัน ทัวริง ที่เป็นผู้ริเริ่มใช้คำว่า Artificial Intelligence (AI) เป็นคนแรก และได้สร้าง The Turing Test เพื่อทดสอบความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ จนกลายเป็นมาตรฐานสากล ตั้งแต่นั้น AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ก็ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และถูกใช้งานหลากหลายรูปแบบ

          สำหรับยุคนี้ AI เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จาก ChatGPT ที่เป็น AI Chatbot อัจฉริยะ ที่มีระบบ Machine Learning ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ H ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อรองรับการทำงานของ AI โดยเฉพาะ ทำให้สามารถคำนวณและประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

          การพัฒนานี้เองทำให้เกิดกระแส AI Boom ขึ้นมา จนเกิดการแข่งขัน AI ในตลาดกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่การพัฒนาการใช้งาน AI ใหม่ ๆ ไปจนถึงการพัฒนา Chip ที่ใช้กับ AI โดยตรง และมีการคาดการณ์ว่า ตลาด AI จะมีมูลค่าสูงมากถึง 1.90 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ค.ศ. 2025

บริษัทที่เกี่ยวข้อง :

Alphabet Inc. ผู้สร้าง Bard

Microsoft Corp. ผู้สร้าง ChatGPT

NVIDIA Corp. ผู้ผลิต Semiconductor เพื่อใช้งานกับ AI

3. Reality Technology

          โลกเสมือนจริง เป็นคำที่ถูกพูดถึงมานานแล้ว และการเกิดขึ้นของ Metaverse ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โลกเสมือนจริงได้รับความสนใจในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าหลัก ๆ แล้วจะเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังเกี่ยวข้องกับศาสตร์ด้านอื่น ๆ ที่สำคัญอีกด้วย อย่างเช่น การแพทย์ การศึกษา

          เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามอง และคาดการณ์ว่าปี ค.ศ. 2025 ที่จะถึงนี้ จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 20,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

บริษัทที่เกี่ยวข้อง :

Apple Inc. ผู้ผลิตแว่นตา Vision Pro

          อ่านมาถึงบรรทัดนี้ แล้วไม่อยากตกเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคต ก็สามารถสร้างโอกาสการลงทุนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในหุ้น Big Tech เหล่านี้ได้ง่ายกว่าเดิม ผ่านการลงทุนในตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่เรียกว่า DRx (Fractional Depositary Receipt) โดยซื้อขายเป็นสกุลเงินบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย

✅ ลงทุนง่ายผ่านแอป Streaming ที่ใช้ซื้อหุ้นไทย เพียงแจ้งความประสงค์เพื่อซื้อขาย DRx กับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ

✅ เงินน้อยก็เป็นเจ้าของหุ้นระดับโลกได้ เลือกส่งคำสั่งเป็นจำนวนบาทหรือจำนวนหน่วย DRx ก็ได้

✅ ติดตามความเคลื่อนไหวสะดวก ซื้อขายตามเวลาตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่หลักทรัพย์อ้างอิงจดทะเบียนอยู่

✅ รับสิทธิประโยชน์เสมือนซื้อหุ้นต่างประเทศนั้นโดยตรง เช่น เงินปันผล

โอกาสลงทุนสะดวกแบบนี้ พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของบริษัท Big Tech ชั้นนำระดับโลกทั้ง 5 ผ่าน DRx ได้ดังนี้ :

1. TSLA80X อ้างอิงกับหุ้น Tesla

2. GOOG80X อ้างอิงกับหุ้น Alphabet (บริษัทแม่ของ Google)

3. MSFT80X อ้างอิงกับหุ้น Microsoft

4. NVDA80X อ้างอิงกับหุ้น NVIDIA

5. AAPL80X อ้างอิงกับหุ้น Apple

แค่มีเงินหลักร้อยก็สามารถมาลงทุนกับ DRx ได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้ ผ่านแอป Streaming
(ช่วงเวลาซื้อขาย 20:00-04:00 น.)

          สำหรับคนที่มีบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ DRx อยู่แล้ว สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อซื้อขาย DRx ผ่านแอป Streaming ได้เลย โดยกดไปที่ปุ่ม My Menu เลือกเมนู DRx และกดปุ่ม “Request DRx Trading” และสำหรับคนที่ยังไม่มีบัญชีหุ้นกับโบรกเกอร์ สามารถติดต่อขอเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการ DRx โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.setinvestnow.com/DRx

*อ้างอิงจากวันที่ 17 ก.ค. 2566

Disclaimer : ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่ปรากฏนี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลในอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นโดยการอิงกับไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Based) หรือกระแส (Trend) ซึ่งรวบรวมมาจากข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่รับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลดังกล่าวรวมทั้งไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ ในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน และตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายจากการนำข้อมูลที่ปรากฏนี้ไปใช้ในทุกกรณี