ทำไม Baidu บริษัทเซิร์ชเอนจินใหญ่สุดในจีนถึงน่าสนใจ
เมื่อพูดถึง Search Engine ตัวท็อปของจีนหลายคนต้องนึกถึง Baidu หรือ ไป่ตู้ อย่างแน่นอน บทความนี้จะพาทุกคนมาเจาะลึกกันว่าน่าสนใจอย่างไร
เมื่อพูดถึง Search Engine ตัวท็อปของจีน ที่ครองสัดส่วนผู้ใช้งานมากที่สุด หลายคนต้องนึกถึง Baidu หรือ ไป่ตู้ อย่างแน่นอน เพราะมีทั้งบริการค้นหาข้อมูล รวมถึงบริการอย่าง Baidu Map Baidu Picture หรือ Baidu Music จนได้รับฉายาว่าเป็น Google แห่งแดนมังกรกันเลยทีเดียว
ซึ่งนั่นก็ทำให้ Baidu มีรายได้และกำไรที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ปี 2563
รายได้ 107,074 ล้านหยวน
กำไร 22,472 ล้านหยวน
ปี 2564
รายได้ 124,493 ล้านหยวน
กำไร 10,226 ล้านหยวน
ปี 2565
รายได้ 123,675 ล้านหยวน
กำไร 7,559 ล้านหยวน
แต่รู้หรือไม่ว่า Baidu ยังมีโมเดลธุรกิจอื่น อีกมากมาย ที่พร้อมเติบโตสอดคล้องไปกับเทรนด์เทคโนโลยี จนกลายเป็นธีมหลักที่นักลงทุนพลาดไม่ได้
แล้ว Baidu ทำธุรกิจอะไรอีกบ้าง ลองไปสำรวจพร้อม ๆ กัน
iQIYI (IQ)
แพลตฟอร์มบริการสตรีมมิงที่มีโมเดลธุรกิจคล้ายกับ Netflix จะต่างกันตรงที่ iQIYI จะมีโฆษณาคั่นสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ทำให้ธุรกิจสร้างรายได้จากโฆษณาเหล่านี้ด้วย
และ iQIYI เป็นผู้ให้บริการเจ้าแรกที่มียอด Subscriber ในจีนกว่า 100 ล้านคน จนสามารถเอาชนะคู่แข่งในประเทศได้ นอกจากนี้ ยังบุกตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในนั้นคือ ประเทศไทยของเรา ด้วยการร่วมมือกับผู้ผลิตอย่างสถานีโทรทัศน์ เช่น ช่อง 8 ช่อง PPTV เพื่อเผยแพร่คอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม และนับเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งต่อการขยายโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย
JOYY Inc. (YY)
แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิงของจีน ที่มีบรรดาครีเอเตอร์เข้าไปไลฟ์สด โดยมีจำนวนคนดูที่ค่อนข้างสูง ซึ่ง YY เป็นบริษัทที่ Baidu ตัดสินใจเข้าซื้อในราคาราว 22,296 ล้านหยวน เพราะเป็นตัวช่วยขยายไปสู่แพลตฟอร์มใหม่ ๆ ในอนาคต
อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง Bigo Live แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิง ที่มีฐานผู้ใช้งานทั่วโลกอายุระหว่าง 18-35 ปี โดยมียอดผู้ใช้งานเติบโตขึ้นทุกปี
Likee แพลตฟอร์มวีดีโอสั้น ที่มีผู้ใช้งานเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์กว่า 20%
Hago แพลตฟอร์มเกี่ยวกับความบันเทิง มีทั้งเกม, ไลฟ์แชทต่าง ๆ ซึ่งปีที่แล้วมีรายได้จากการสตรีมมิงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลย
จากธุรกิจทั้งหมดของ Baidu นั้นถือว่ามีขนาดใหญ่ จนทำให้สามารถเข้าไปจดทะเบียนในตลาด NASDAQ ของสหรัฐฯ ได้ โดยแต่ละธุรกิจครอบคลุมถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ และสอดคล้องกับพฤติกรรมของคนยุคนี้ ที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น คิดเป็นประมาณ 5.16 พันล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงปีที่ผ่านมา 1.9% ทำให้อนาคตของธุรกิจที่มาทางสายนี้ได้รับประโยชน์มากขึ้น
ไม่แน่ว่าในอนาคต เราอาจได้เห็นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากธุรกิจทั้งหมดของ Baidu มากกว่านี้ก็ได้
ตอนนี้โอกาสก็มาถึงแล้ว ! ทุกคนสามารถมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของ Baidu
ด้วยการลงทุน DR ในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
สามารถลงทุนผ่านแอป Streaming เพียงแค่พิมพ์ชื่อย่อ “BIDU80” ก็ลงทุนได้แล้ว บอกเลยว่าไม่ยุ่งยาก เพราะลงทุนเป็นเงินบาท ตามเวลาตลาดหลักทรัพย์ไทยได้เลย
อยากอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ DR เพิ่มเติมได้ที่นี่