มองย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนามได้ปรับตัวลดลงราว 33% กลายเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ผลตอบแทนแย่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลกที่กดดันให้ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 4% สู่ระดับ 6% เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินและควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้ง ยังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่องในภาคอสังหาริมทรัพย์จากการปราบปรามการทุจริตของภาครัฐ ส่งผลให้ในปีที่แล้วนักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นเวียดนามไปพอสมควร
อย่างไรก็ตาม นโยบายการเงินที่เปลี่ยนทิศจากโหมด “เข้มงวด” มาสู่ “ผ่อนคลาย” รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐและการออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหาการขาดสภาพคล่อง ถือเป็นปัจจัยที่ได้กลับมาสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอีกครั้ง สะท้อนผ่านดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) ที่ปรับตัวขึ้นราว 10% นับตั้งแต่ต้นปี ด้วย Valuation ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ Upside ในการลงทุนตลาดหุ้นเวียดนามยังคงมีความน่าสนใจ โดยมี 3 ปัจจัยที่จะสนับสนุนตลาดหุ้นเวียดนามในระยะถัดไป
สำหรับตลาดหุ้นเวียดนาม พบว่าปริมาณการซื้อขายในตลาดเริ่มกลับมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน สอดคล้องกับตัวเลขการเปิดบัญชีหุ้นของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งคิดเป็นกว่า 90% ของปริมาณซื้อขายของตลาด ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 104,624 บัญชี แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กลับมาอีกครั้ง
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่ Bloomberg Consensus ยังคงประมาณการการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียนเวียดนามในปี 2566 ไว้ที่ 12% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีก 25% ในปีหน้า ทำให้ ณ ระดับราคาปัจจุบัน Valuation ของตลาดหุ้นเวียดนามยังคงซื้อขายที่ Forward P/E เพียงแค่ 10 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12.5 เท่าอยู่ประมาณ 25%
ประเมินว่าจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นเวียดนามได้ผ่านไปแล้วและราคาหุ้น ณ ระดับปัจจุบันยังมีความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากตลาดยังไม่ได้ซึมซับปัจจัยบวกจากนโยบายการเงินที่กลับมาผ่อนคลาย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ความกังวลในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่คลี่คลายลง ตลอดจนการฟื้นตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม การเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นเวียดนาม และตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีหลักทรัพย์อ้างอิง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า DR โดยผู้ออก DR จะเป็นคนไปซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศ เช่น หุ้น หรือ ETF ต่างประเทศ แล้วนำมาเสนอขายให้กับนักลงทุนไทยในรูปสกุลเงินบาท ซึ่งผู้ถือ DR จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เหมือนกับการไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศโดยตรง ปัจจุบันมี DR ที่ให้ซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ได้แก่ E1VFVN3001 ที่อ้างอิงกับดัชนี VN30 (หุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของเวียดนาม) และ FUEVFVND01 ที่อ้างอิงกับดัชนี Vietnam Diamond (เป็นดัชนีที่มีเงื่อนไขว่าหุ้นที่อยู่ในดัชนีต้องติด Foreign Limit และนักลงทุนต่างชาติจะต้องถือหุ้นอย่างน้อย 95% ของสัดส่วนที่ลงทุนได้)
การลงทุนผ่านกองทุนรวมและ DR ถือเป็นช่องทางที่น่าสนใจ ทั้งในแง่ของความสะดวกรวดเร็วในการซื้อขายและการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมไปกับตลาดหุ้นเวียดนาม “The Rising Star of Asia” ได้ในระยะยาว
ทำความรู้จักการลงทุน DR เพิ่มเติมได้ที่ คลิกที่นี่
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการลงทุนใน DR ตลอดจนวิธีการซื้อขาย และกลยุทธ์ลงทุนใน DR สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “ลงทุน DR ฉบับมือใหม่” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่