ความผันผวนเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องเผชิญสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นอยู่เสมอ โดยความผันผวนมักจะสูงขึ้นในช่วงที่ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอนมากมาย เช่น ในปี 2565 ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูงอันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซียกับยูเครน ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็ว หรือเมื่อต้นปี 2566 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารในสหรัฐฯ ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้คนแห่ถอนเงินฝาก เป็นต้น
ถึงแม้ว่าการขจัดความผันผวนออกจากการลงทุนในตลาดหุ้นดูจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก แต่เชื่อว่านักลงทุนสามารถสร้างโอกาสจากการลงทุนได้เสมอ โดยทางเลือกการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงที่น่าสนใจ คือ การลงทุนใน ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถือเป็นเครื่องมือการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงได้ดี ซึ่ง ETF มี 3 ประเภท
1. ETF ความเสี่ยงน้อย ผลตอบแทนคาดหวังสม่ำเสมอ
แนวทางการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก ETF เป็นหลุมหลบภัยในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนสูงเนื่องจากมีทางเลือกให้ลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยหลายประเภท เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ (อาทิ ทองคำ) พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นต้น
ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีข้อดี คือ เป็นพันธบัตรที่ได้รับการการันตีโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความน่าเชื่อถือระดับสูงสุดที่ AAA ทำให้แทบไม่มีความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ อีกทั้ง ยังจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ (ส่วนใหญ่จะจ่ายทุกเดือน) ช่วยให้นักลงทุนได้รับกระแสเงินสดสม่ำเสมอ เช่น SPDR Bloomberg 1 - 3 Month T-Bill ETF (BIL) ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 1 – 3 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักเงินสดเพื่อรับผลตอบแทนคาดหวังที่สูงกว่าเงินฝากหรือลงทุนในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากพันธบัตรระยะสั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาน้อยกว่าพันธบัตรระยะยาวในช่วงที่ดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น โดย BIL ETF มีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.14% ต่อปี ถือว่าต่ำมาก ในขณะที่มีผลตอบแทนปันผลราว 3.1% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
ตรงกันข้าม หากดอกเบี้ยเป็นช่วงขาลง นักลงทุนอาจพิจารณาลงทุนใน ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรระยะยาว เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เช่นกัน เช่น iShares 10 - 20 Year Treasury Bond ETF (TLH) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 – 20 ปี โดยมีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.15% ต่อปี และมีผลตอบแทนปันผลราว 3.3% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
สำหรับ ETF ที่ลงทุนในทองคำ ถึงแม้ว่าในบางช่วงเวลาทองคำอาจถูกพิจารณาเป็นสินทรัพย์เสี่ยงได้เช่นกัน เนื่องจากราคาทองคำมักจะผันผวนตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในระยะยาว เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองและราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อในระยะยาว อีกทั้ง ยังสามารถเก็บรักษามูลค่าได้นานเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเสื่อมค่าต่ำกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ
โดย ETF ที่ลงทุนในทองคำที่น่าสนใจ เช่น SPDR Gold Trust (GLD) ซึ่งเป็น ETF ที่ลงทุนในทองคำแท่งจริง ๆ และมีแนวโน้มเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาทองคำโลก ดังนั้น นักลงทุนที่ลงทุนใน GLD เสมือนได้ลงทุนในทองคำจริง แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บทองคำจริงเอาไว้กับตัว
GLD เป็น ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ราว 2 ล้านล้านบาท และมีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.4% ต่อปี เป็นต้น อย่างไรก็ดี การลงทุนใน ETF ทองคำ อาจไม่มีการจ่ายเงินปันผลเหมือนกับ ETF ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หมายความว่า ผลตอบแทนที่คาดหวังจึงเกิดจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ (Capital Gains) ในระยะยาวเป็นหลัก
2. ETF ความเสี่ยงสูงขึ้น ผลตอบแทนคาดหวังสูง
นักลงทุนที่เป็นสายลงทุนระยะยาวอาจไม่ได้กังวลกับความผันผวนที่เกิดขึ้นในระยะสั้นมากนัก ดังนั้น การลงทุนตามธีม หรือ Thematic จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยหากเชื่อมั่นในธีมลงทุนระยะยาว ความผันผวนก็เป็นเพียงปัจจัยลบที่เกิดขึ้นระหว่างทางเท่านั้น จึงประเมินว่าความน่าสนใจและเป็นเมกะเทรนด์ของโลกในระยะยาว (5 – 10 ปี) ได้แก่ ธีม AI และพลังงานสะอาด
AI (Artificial Intelligence) กำลังเป็นที่นิยมในโลกของการลงทุนทั่วโลก หลังเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพัฒนาทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดย ETF ธีม AI ที่น่าสนใจ เช่น iShares Robotics and Artificial Intelligence Multisector ETF (IRBO) ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวกับการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีหรือหุ่นยนต์ที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น Nvidia (NVDA) ที่เป็นบริษัทผู้ผลิตชิปสำหรับ AI อันดับหนึ่งของโลก หรือ Microsoft (MSFT) บริษัทที่ลงทุนใน ChatGPT แชทบอท AI ชื่อดัง ผู้จุดกระแสวงการในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับธีมพลังงานสะอาด กำลังเป็นที่นิยมในระดับนานาชาติ เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยมลพิษผ่านการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และมีการตั้งเป้าในการลดมลพิษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน รวมทั้งสนับสนุนการใช้รถยนต์ EV หรือโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง
โดย ETF ที่น่าสนใจ เช่น iShares Global Clean Energy ETF (ICLN) ซึ่งเป็น ETF ที่ลงทุนในบริษัทเกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานสะอาด อาทิ SolarEdge Technologies (SEDG) บริษัทผู้ผลิตระบบจัดการพลังงานแสงอาทิตย์ หรือหากสนใจลงทุนในธีมรถยนต์ EV เช่น iShares Self-Driving EV and Tech ETF (IDRV) เนื่องจากลงทุนในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ EV ชั้นนำอย่าง Tesla (TSLA) หรือผู้นำรถยนต์ EV จากจีน BYD (1211)
อย่างไรก็ดี การลงทุนใน ETF ที่อิงกับธีมที่เป็นกระแสต่าง ๆ นักลงทุนควรต้องพิจารณาในเรื่องมูลค่าหุ้นที่เป็นส่วนประกอบด้วยว่ามูลค่าสูงเกินไปหรือราคาขึ้นมาอย่างร้อนแรงเกินไปหรือไม่ หากมูลค่าหุ้นแพงเกินไป ความน่าสนใจก็จะลดน้อยถอยลงได้เช่นกัน
3. ETF ความเสี่ยงสูง ลุ้นผลตอบแทนรายวัน
นักลงทุนที่มีสไตล์ลงทุนแบบเก็งกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงเป็นพิเศษ ขอแนะนำให้รู้จักกับดัชนี VIX (Volatility Index) เป็นดัชนีที่วัดความผันผวนของดัชนี S&P 500 โดยหากดัชนีปรับตัวขึ้น หมายความว่าภาพรวมของหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนอิงดัชนี VIX ได้ผ่าน ETF เปรียบเสมือนการเก็งกำไรกับความผันผวนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงในระยะสั้น โดย ETF ที่น่าสนใจ เช่น iPath Series B S&P 500 VIX Short-Term Futures ETN (VXX) ที่ลงทุนในฟิวเจอร์สของดัชนี VIX ซึ่งเหมาะสำหรับการเก็งกำไรในระยะสั้นมากกว่าการถือลงทุนในระยะยาว
โดยสรุป ถึงแม้ว่าความผันผวนจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนมิอาจหลีกเลี่ยงได้สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น แต่ผู้เขียนมองว่านักลงทุนยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในช่วงเวลาดังกล่าวได้อยู่เสมอ (เพราะความผันผวนมาพร้อมกับโอกาส!) ผ่านการลงทุนใน ETF ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีทางเลือกการลงทุนมากมาย และเหมาะกับนักลงทุนหลากหลายประเภท อย่างไรก็ดี เนื่องจาก ETF บางประเภทอาจเหมาะสำหรับการเก็งกำไร จึงควรมีเวลาติดตามผลตอบแทนอย่างใกล้ชิด ศึกษาความรู้ให้เข้าใจถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใช้เพื่อสำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่สนใจ ลงทุนในกองทุนรวม ETF แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สามารถเรียนรู้ลักษณะพื้นฐาน ผลตอบแทนและความเสี่ยง สิทธิประโยชน์ทางภาษี และวิธีซื้อขายกองทุน ETF พร้อมเทคนิคการลงทุนอย่างมืออาชีพ ผ่าน e-Learning หลักสูตร “รอบรู้ลงทุน ETF” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่