ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่เร็วที่สุดในรอบกว่า 40 ปีนับตั้งแต่ปี 1980 และส่งผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์ลงทุน เช่น หุ้น พันธบัตรรัฐบาล กอง REITs ตลอดจนสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่ผลตอบแทนปรับลดลงอย่างรุนแรง เนื่องมาจากการดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด เพื่อปราบเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานสูงสุดในรอบ 40 ปี อย่างไรก็ตาม วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นดังกล่าวกำลังใกล้สิ้นสุดลงด้วย 3 เหตุผล ได้แก่
นอกจากนี้ หากพิจารณาอัตราเงินเฟ้อล่าสุดที่ 5% เทียบกับประมาณการการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด หรือที่เรียกว่า Dot Plot ที่บ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) ที่เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นไปที่ระดับ 5.00 - 5.25% หมายความว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงแค่ 1 ครั้งในปีนี้ และหยุดวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยไว้เพียงเท่านี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยได้กลับมาสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อแล้ว
โดยสถานการณ์ล่าสุดจากกรณีผู้คนแห่ถอนเงินจากธนาคาร (Bank Run) ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ผ่านมา เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้เฟดจำเป็นต้องระมัดระวังมากขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด
กลยุทธ์การลงทุน
ในแง่ของกลยุทธ์การลงทุน ประเมินว่าตลาดได้มองข้ามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว และหันมาให้น้ำหนักกับการคงและปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ดังนั้น เมื่อแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเริ่มผ่อนคลาย ราคาสินทรัพย์หลายประเภทมีโอกาสฟื้นตัวและเป็นโอกาสในการลงทุนครั้งสำคัญสำหรับวัฏจักรเศรษฐกิจรอบนี้
โดยประเภทสินทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุน คือ สินทรัพย์คุณภาพสูงที่ราคาปรับตัวลดลงแรงในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา จากความกังวลต่อภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น โดยมีธีม (Themes) การลงทุนที่น่าสนใจ ดังนี้
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้พื้นฐานการวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจแบบง่าย ๆ เพื่อจับทิศทางการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ และค้นหาหุ้นเด็ดในแต่ละช่วงเวลา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “Macro Analysis” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
หรือเรียนรู้แนวทางการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการลงทุนรายกลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมเจาะลึกเทคนิคในการจับจังหวะเปลี่ยนกลุ่มลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการลงทุน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “Sector Rotation” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่