เชื่อว่าในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนหลายท่านอาจจะได้ยินคำว่าลงทุนตามธีม (Thematic Investment) อยู่บ่อยๆ ซึ่งพูดง่ายๆก็คือการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เชื่อว่าจะมีการเติบโตสูงตามทิศทางกระแสหลักของโลก หรือ Mega Trend
ทำให้การลงทุนตามเมกะเทรนด์นั้นได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ลงทุน ซึ่งหากพิจารณาถึงธีมที่เป็นเมกะเทรนด์นั้น จะมีให้เลือกลงทุนหลากหลาย เช่น ธุรกิจกลุ่มพลังงานสะอาด ที่เกิดจากการที่ทั่วโลกตื่นตัวกับกระแสลดโลกร้อน เทคโนโลยีชีวภาพเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ ช่วยแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ และแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว หรือ เทคโนโลยี ที่เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของผู้คนและธุรกิจอย่างมากโดยเฉพาะหลังวิกฤติ COVID-19 ของผู้คนทั่วโลก รวมถึง สื่อสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกการสื่อสารที่แท้จริง และอีกธุรกิจที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองก็คือ Metaverse และ Game
ธุรกิจ Gaming & eSports เป็นอีกหนึ่งธีมการลงทุนที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเกมออนไลน์ แต่เดิมเกมอาจจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มคนที่มีเครื่องเล่นเกม เช่น PlayStation หรือ Game Boy เป็นต้น ซึ่งภายหลังจากการเฟื่องฟูของ Smartphone ในลักษณะจอสัมผัสทำให้โทรศัพท์มือถือสามารถใช้เป็นเครื่องเล่นเกมได้ อุตสาหกรรมเกมจึงก้าวกระโดดไปอีกขั้นหนึ่งและสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานใหม่ๆ ได้มากขึ้น
มีผู้เล่นผ่านโทรศัพท์มือถือทั่วโลกกว่า 2.8 พันล้านคน ผ่านคอมพิวเตอร์ 1.4 พันล้านคน และเครื่องเล่นเกมอีกประมาณ 0.9 พันล้านคน และที่สำคัญคือปัจจุบันเกมได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมบันเทิงและกีฬาหรือ eSports ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมกันไปทั่วโลก กระแสความนิยมนั้นมีมากถึงขนาดว่ามีการเอาเรื่องเกี่ยวกับ e-sport ไปสร้างเป็น TV series กันหลายเรื่อง ด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรม จึงไม่แปลกใจเลยว่าหลายๆ ท่านจึงต้องการไปลงทุนในหุ้นของบริษัทในวงการเกมและอีสปอร์ต ซึ่งธีมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเกมนั้นยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากการประเมินตาม report ของ Newzoo Global Games Market Report 2021 พบว่ามูลค่าอุตสาหกรรมรวมจะเติบโตปีละ 8.7% และจะมีมูลค่าราว 2.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีกสามปีข้างหน้า (GDP ของไทยในปี 2020 มีมูลค่า 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ)
ในปัจจุบันผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มเกมและอีสปอร์ตหรือธีมการลงทุนอื่นทั่วโลก อาจทำได้โดยไปลงทุนในหุ้นของบริษัทนั้นโดยตรงในต่างประเทศ หรือไปซื้อ “กองทุน ETF ในต่างประเทศ’ แต่สำหรับท่านที่อาจมีงบลงทุนจำกัดและต้องการความสะดวกสบาย ก็อาจใช้วิธีการซื้อกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund : FIF) ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปลงทุนในกองทุน ETF ในต่างประเทศอีกทีหนึ่ง กองทุน ETF หรือ Exchange Traded Fund เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
และมีวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีกลุ่มหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ที่ ETF นั้นอ้างอิงอยู่ และเนื่องจากกองทุน ETF นั้น สามารถอ้างอิงกับสินทรัพย์ได้หลากหลาย จึงเป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและช่วยการกระจายการลงทุน กองทุน ETF ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลก ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา กองทุน ETF ที่เป็นที่นิยมได้แก่กองทุนที่อ้างอิงดัชนี S&P500 ซึ่งเป็นดัชนีที่ประกอบไปด้วยหุ้นจากบริษัทขนาดใหญ่ 500 บริษัทในสหรัฐอเมริกา หรือ QQQ ที่อ้างอิงดัชนี NASDAQ-100 ที่มีหุ้นเทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบกว่าครึ่งหนึ่ง โดยในปีนี้ ดัชนี NASDAQ-100 ให้ผลตอบแทนกว่า 27% จากการลงทุนตั้งแต่ต้นปี 2021 นอกจากนี้ยังมี Thematic ETF ต่างๆอีกมากมาย
สำหรับตลาดไทยนั้น ในปี 2021 มีกองทุน ETF ที่จดทะเบียนทั้งหมด 11 กองทุน และมีมูลค่าทรัพย์สินรวม ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2021 กว่า 1.8 หมื่นล้านบาทประกอบไปด้วย ETF ประเภทที่อ้างอิงตราสารหนี้ ทองคำ ดัชนีหุ้นต่างประเทศ หรือดัชนีหุ้นในประเทศ โดย ETF ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นในประเทศมีจำนวนมากที่สุดทั้งหมด 8 กองทุน จุดเด่นของกองทุน ETF ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ก็คือ ใช้เงินลงทุนไม่มาก ซื้อขายด้วยสกุลเงินบาท ค่าธรรมเนียมไม่สูง และที่สำคัญที่ต่างจากกองทุนทั่วไปคือ สามารถซื้อขายได้ตลอดช่วงเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการในลักษณะเดียวกับหุ้น โดยไม่ต้องรอซื้อขายด้วยราคา NAV ณ สิ้นวัน และมีผู้ดูแลสภาพคล่องทำหน้าที่วาง Bid/Offer เพื่อให้ราคาเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับมูลค่าที่ทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยโดยประมาณ หรือ Indicative Net Asset Value (iNAV) มากที่สุด ซึ่ง iNAV จะมีการเผยแพร่ผ่าน marketdata.set.or.th โดยจะมีการ update ทุกๆ 15-30 วินาที ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเปรียบเทียบราคา iNAV กับราคา Bid/Offer ในตลาดได้และทำการซื้อขายได้อย่างมั่นใจ
โอกาสใหม่สำหรับการลงทุนตามธีมด้วย ETF !!!
สำหรับผู้ที่มองหาโอกาสการลงทุนในเมกะเทรนด์โลก ดังที่กล่าวไปข้างต้น เตรียมพบกับ Thematic ETF ของไทยซึ่งจะทะยอยเปิดซื้อขายในปี 2565 เช่น “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฮีโร่ อีทีเอฟ กองทุน ‘ETF ที่อ้างอิงกับหุ้นในธุรกิจ ‘เกมและอีสปอร์ต’ ซึ่งจะเริ่มเปิดให้จองซื้อในช่วงต้นปี 2565 โดยผู้สนใจลงทุนที่มีบัญชีหลักทรัพย์อยู่แล้วสามารถส่งคำสั่งซื้อขายผ่านบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ฯ ได้เลย นอกจากนั้น ยังมีการขยายช่องทางการลงทุนให้ผู้ลงทุนโดยสามารถซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ออกกองทุน ETF และตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (Selling Agent) ที่ได้รับการแต่งตั้งได้ด้วย โดยผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่ www.setinvestnow.com/ETF หรือเว็บไซต์ของผู้เสนอขาย ETF แต่ละราย