โลกในยุค ‘ก่อนและหลัง COVID-19’ พฤติกรรมของผู้บริโภคไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทั้งในแง่ของ “เทรนด์ชีวิต” และ “เทรนด์ลงทุน” ซึ่งคงไม่มีใครปฏิเสธข้อเท็จจริงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในท่ามกลางวิกฤติ COVID-19 ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ ‘ชั่วครู่ชั่วยาม’ แค่ในระยะสั้นเท่านั้น แต่หลายเทรนด์นั้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและสังคม ที่จะวิวัฒน์และพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเป็น “เทรนด์ระยะยาว” ของโลกที่จะนำเราไปสู่ “ยุค New Normal” เลยทีเดียว
“รูปแบบการใช้ชีวิต เช่น การทำงาน การเรียน การช้อปปิ้งออนไลน์ ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์ชีวิตที่เกิดขึ้นในยุค COVID-19 นี้ เช่นเดียวกับรูปแบบของการลงทุนก็มีเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเติมเต็มในจักรวาลการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นทั้ง ‘โอกาส’ และ ‘ความท้าทาย’ ในโลกการลงทุนเช่นเดียวกัน”
จะพบว่าท่ามกลาง ‘เทรนด์ชีวิต’ ที่เปลี่ยนไป มีผลให้ ‘เทรนด์การลงทุน’ เกิดขึ้นตามมามากมายในช่วงวิกฤติ COVID-19 นี้ ซึ่งการ เชื่อมโยง (Connect) เข้าสู่โลกของการลงทุนภายใต้เทรนด์การลงทุนหรือธีมการลงทุนใหม่ๆ เหล่านี้ในปัจจุบันสามารถทำได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้นโดยผ่าน ‘กองทุนรวม’ นั่นเอง
ปัจจุบันประเทศไทยเองก็มี ‘กองทุน Thematic’ ให้เลือกลงทุนค่อนข้างหลากหลาย และครอบคลุมเทรนด์การลงทุนหลักของโลกปัจจุบันและในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นธีมเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ธีมหุ่นยนต์และ AI (Robotics & AI), ธีมอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce), ธีมเกมและอีสปอร์ต (Games & E-sports), ธีมเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) หรือธีมที่เน้นลงทุนในธุรกิจด้านเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech), ธีมเทคโนโลยีด้านสุขภาพและการแพทย์สมัยใหม่ อย่างธีมจีโนมิกส์ (Genomics), ธีมเฮลท์แคร์และเทคโนโลยีชีวภาพ (Healthcare & Biotechnology), ธีมกัญชา (Cannabis) ที่ปัจจุบันมีการเพาะปลูกและแปรรูปกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ รวมไปถึงธีมที่เกี่ยวข้องกับ ‘ความยั่งยืน’ อย่างธีมพลังงานสะอาด (Clean Energy) และธีม ESG (ESG Investing) เป็นต้น ซึ่งเป็นทางเลือกการลงทุนที่มาพร้อมกับ ‘เทรนด์ชีวิต’ แนวใหม่ของคนทั่วโลก จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนไทยที่จะมีโอกาสการลงทุนที่หลากหลายและเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การบริหารพอร์ตการลงทุนมีสีสันและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน
หากมองดูพัฒนาการของ ‘กองทุนรวมในประเทศไทย’ เองนั้น ก็ก้าวเข้ามามีบทบาทและมีความสำคัญมากขึ้นในฐานะของ ‘เครื่องมือทางการลงทุน’ ที่มีความสะดวกและง่าย ตอบโจทย์ให้กับนักลงทุนทั่วไป ใช้เงินลงทุนน้อย และเข้าใจข้อมูลการลงทุนที่ง่ายขึ้น ที่สำคัญมี ‘มืออาชีพ’ อย่าง ‘ผู้จัดการกองทุน’ ที่มาช่วยบริหารจัดการดูแลเงินลงทุนให้อีกด้วย
“กองทุนรวม...ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ที่มีอยู่ในจักรวาลการลงทุน ทั้งที่มีอยู่ในประเทศและต่างประเทศได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์หลักอย่างหุ้น, ตราสารหนี้, อสังหาริมทรัพย์, ทองคำ หรือน้ำมัน เป็นต้น หากมองในแง่ของภูมิภาค ก็มีในส่วนทั้งที่ลงทุนทั่วโลก, ภูมิภาค หรือโฟกัสรายประเทศให้เลือกลงทุน และในยุคหลังมานี้ จะขาดไม่ได้เลย คือ การลงทุนตามธีมการลงทุนที่มีความน่าสนใจในลักษณะของ ‘Thematic Fund’ นั่นเอง ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถนำมาจัดเป็นพอร์ตการลงทุนเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของตัวเองได้เป็นอย่างดี”
เป็นที่น่าเสียดาย ที่กลุ่มคนที่เข้ามาใช้ประโยชน์จาก “กองทุนรวม” ในปัจจุบันยังมีอยู่ไม่มากนัก ยิ่งช่วงเวลานี้ เรากำลังอยู่ใน “ยุคดอกเบี้ยต่ำ” ไม่เพียงเท่านั้น..วงเงินคุ้มครองเงินฝากก็ลดลงเหลือเพียง 1 ล้านบาทต่อคนต่อสถาบันการเงินเท่านั้น การขยับออกจากฝั่งของ “เงินฝาก” มาสู่โลกของการลงทุน จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีกว่า จนเกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า ‘Search for Yield’ เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นการหนีออกจากแหล่งลงทุนที่ให้ ‘ผลตอบแทนต่ำ’ ไปสู่การลงทุนที่ให้ ‘ผลตอบแทนที่ดีกว่า’ นั่นเอง
“ปัจจุบันโอกาสการลงทุนของนักลงทุนไทยเองถือว่าเปิดกว้าง สามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ใน ‘จักรวาลการลงทุน’ ได้อย่างครบครัน อย่างไรก็ตามการลงทุนใน ‘ตลาดบ้านเกิด’ ซึ่งเรามีความคุ้นเคยและมีความเข้าใจสามารถติดตามการลงทุนได้สะดวกและง่ายกว่านั้น ก็ยังทำให้พอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ของนักลงทุนโดยทั่วไปทั่วโลก จะยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในประเทศของตัวเองเป็นหลักอยู่นั่นเอง”
แน่นอนว่า...‘การลงทุนต่างประเทศ’ ถือเป็นโอกาสและสีสันที่จะช่วยเติมเต็มพอร์ตการลงทุนให้กับตัวคุณเอง แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกลงทุนใน“ตลาดหุ้นไทย” โดยผ่าน “กองทุนรวมหุ้นไทย” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทยอยู่นั่นเอง
“ลองหลับตานึกภาพตามบนทางเลือกระหว่าง ‘การฝากเงิน’ แล้วได้ ‘ดอกเบี้ย’ กับ ‘การลงทุนในหุ้น’ แล้วได้รับ ‘ปันผล’ ทางเลือกไหนให้ผลตอบแทนที่ดีกว่านักลงทุนก็จะเลือกลงทุนบนทางเลือกนั้น เป็นการมองโดยเปรียบเทียบ เราทราบว่าฝากเงินได้ผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) เท่าไร ในขณะที่การลงทุนในหุ้น ถ้าบริษัทที่เราลงทุนกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี ราคาหุ้นก็ควรจะปรับตัวขึ้นสะท้อนผลประกอบการ เงินปันผลที่จะได้รับก็จะเพิ่มขึ้นด้วยตามกำไรที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ‘กองทุนรวมหุ้นไทย’ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้มีเงินฝากที่กำลังมองหาทางเลือกในการเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตเงินฝากของคุณได้เป็นอย่างดี”
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับพันธมิตรในตลาดเงิน ตลาดทุน เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเงิน-การลงทุนให้แก่ประชาชน และหวังสร้างรากฐานทางการเงินให้มีความมั่นคงในอนาคต อีกทั้งต้องการร่วมสร้างวัฒนธรรมการลงทุนให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยหนึ่งในแผนงานสำคัญ คือการจัดมหกรรมการลงทุน ‘SET in the City’ ซึ่งในปีนี้จัดภายใต้ธีม ‘เทรนด์ชีวิต’ & ‘เทรนด์ลงทุน’
“ในช่วงวิกฤติ COVID-19 นี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับโลกของเรา ทั้งในรูปแบบของ ‘เทรนด์ชีวิต’ ที่เปลี่ยนไปอย่างมาก การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านทั้งทำงาน ช้อปปิ้ง เรียน เล่น ดูหนัง ฟังเพลง การเข้าสังคม เป็นต้น ย้อนกลับไปก่อน COVID-19 ใครจะคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นและเป็นการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนหลายคนในช่วงแรกก็ปรับตัวแทบไม่ทัน แต่ปัจจุบันในท่ามกลาง COVID-19 ที่ยังคงปกคลุมอยู่ทั่วทุกอณูของโลกใบนี้ ชีวิต...ยังคงต้องเดินต่อไป พร้อมกับในวิกฤติที่เกิดขึ้นก็ก่อกำเนิดโอกาสการลงทุนเป็น ‘เทรนด์ลงทุน’ ใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมามากมาย เราจะเห็นว่าในช่วง COVID-19 นี้เองได้ก่อให้เกิดเทรนด์ลงทุนใหม่ๆ และกลายมาเป็น ‘โอกาสการลงทุน’ ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของเรานั่นเอง”
ดังนั้น พลวัตที่เปลี่ยนไปใน ‘เทรนด์ชีวิต’ ย่อมส่งผลต่อเนื่องไปถึง ‘เทรนด์ลงทุน’ หากคุณยังหยุดนิ่งกับมุมมองการลงทุนเมื่อก่อนวิกฤติ COVID-19 ก็อาจจะถูก ‘โลกการลงทุน’ ทิ้งไว้เบื้องหลัง และเพื่อไม่ให้คุณพลาดโอกาสในการมาอัพเดททั้ง ‘เทรนด์ชีวิต’ และ ‘เทรนด์ลงทุน’ ที่กำลังเปลี่ยนไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองอย่างครบครันทั้งเรื่องของ ‘ชีวิต’ และ ‘การลงทุน’ จึงไม่ควรพลาดที่จะเข้ามาร่วมค้นหาคุณค่าและความหมายเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันในงาน ‘SET in the City 2021’ ในครั้งนี้
แม้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 โครงการที่ต้องการให้ความรู้และส่งเสริมวัฒนธรรมด้านการลงทุนก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2564 นี้ ‘SET in the City’ ได้กิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ (Virtual Conference) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 –21 พฤศจิกายน 2564 เพื่อเปิดมุมมอง แนวคิดเพื่อปรับ “เทรนด์ชีวิต เทรนด์ลงทุน” พร้อมรับกับโลกวิถีใหม่
โดยภายในงานนี้ จะมีหลายหน่วยงานมาร่วมให้มุมมองการลงทุน โดยเฉพาะในช่วง ‘Trend Pick Up : ลงทุน
ทันเทรนด์ ที่จะให้คุณได้ก้าวทันตามโลกแห่งการลงทุน อีกทั้งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มาร่วมให้ข้อมูลกองทุนในช่วงของ ‘FUND Pick Up’ ซึ่งจะเป็นกองทุนที่แนะนำโดย บลจ. ที่อยู่ใน ‘3 Theme เด่น’ ได้แก่ 1) ทดแทนเงินฝากได้ / ให้ปันผลต่อเนื่อง ในกลุ่ม ‘กองทุนหุ้นไทย’ 2) มั่งคั่ง ยั่งยืน กับธุรกิจยั่งยืน ซึ่งกำลังเป็นกระแสหลักของโลกการลงทุน กับกลุ่ม ‘กองทุน ESG’ และ 3) กองทุนเกาะติดเทรนด์โลก ต้องมีติดพอร์ต ซึ่งเป็นแนวโน้มหลักที่เกิดขึ้นมาจนเป็นเทรนด์การลงทุนระดับโลกที่นักลงทุนไทยเองก็สามารถมีส่วนร่วมได้ในปัจจุบัน ได้แก่ ‘กองทุน Global Trend’ ต่างๆ ซึ่งนักลงทุนสามารถนำมาใช้จัดพอร์ตการลงทุนเพื่อตอบโจทย์การลงทุนระยะสั้น-กลาง-ยาวได้เป็นอย่างดี” และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังมีคำถามว่า ‘จะเลือกกองทุนไหนดี?’ การเข้าร่วมกิจกรรม SET in the City ในปีนี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะได้คำตอบ
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิเช่น ‘เศรษฐกิจ การลงทุน : ความท้าทายในปี 2022’ และ ‘เทรนด์ลงทุน เมื่อตลาดหุ้นไร้พรมแดน’
อีกทั้งมี Publishers / Gurus ชื่อดังจากเพจต่างๆ ที่จะมาให้เทคนิค การเรียนรู้ การเปิดรับเทรนด์ สำคัญๆ และการปรับตัว โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนและทักษะเรื่องการวางแผนการเงิน จากการที่ ‘โลกเปลี่ยน ต้องปรับ รับโลกลงทุนใหม่ใน New Normal’ รวมถึงแชร์ประสบการณ์ มุมมอง และแรงบันดาลใจในการลงทุน และสาเหตุที่ว่าทำไมต้องลงทุน อีกทั้งจุดเริ่มต้น การเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะกับตนเอง และ Life Style ‘เมื่อชีวิต...ต้องคิดลงทุน’ และการลงทุนอย่างชาญฉลาดแบบ ‘Smart to Invest: ด้วยเครื่องมือลงทุนหุ้น กองทุน’
ผู้ที่สนใจเข้าฟังข้อมูลดีๆ ในงาน ‘SET in the City 2021’ ในครั้งนี้ สามารถรับชมย้อนหลังทางออนไลน์ ได้ที่ Youtube SET Thailand หรือ หุ้นและกองทุนแนะนำ คลิก
วิกฤติ COVID-19 ในครั้งนี้ ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ให้เกิดขึ้น ที่ส่งผลให้กับ ‘เทรนด์ชีวิต’ และเชื่อมโยงไปถึง ‘เทรนด์การลงทุน’ ด้วยเช่นกัน เป็นการปรับเปลี่ยนไปสู่ “ยุค New Normal” ที่จะต่างไปจากเดิม ซึ่งเราจำเป็นต้องก้าวตามให้ทัน เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในชีวิตและโอกาสในการลงทุนที่กำลังเกิดขึ้นนั่นเอง
คำเตือน: ผลตอบแทนในอดีต มิได้รับประกันถึงผลตอบแทนในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน