ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เป็นของธรรมดาที่อยู่คู่กับโลกใบนี้ เป็นคำพูดที่เรียบง่ายและจริงเสมอ ไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ หรือชนชั้น ดังนั้นการเตรียมความพร้อมและหาทางลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิต
ซึ่งหากจะพูดถึงเรื่องการลดความเสี่ยง หรือการประกันภัย มนุษย์เราได้มีการคิดค้นมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว โดยเริ่มจากความคิดที่จะปกป้องความเสี่ยงจากการสูญหายของสินค้าในการเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ เพื่อทำการค้าขาย และเมื่อวิทยาการการคำนวณมีการพัฒนามากขึ้นและข้อมูลมีมากขึ้น ทำให้ผู้ให้ประกันภัยสามารถที่จะประเมินความเสี่ยงในการรับประกันได้ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ก็เริ่มมีหลากหลายเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองกับความต้องการของสังคม ซึ่งยิ่งเทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ก็จะทำให้การประเมินความเสี่ยงทำได้ง่ายขึ้น และสามารถเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่มมากขึ้นอีกด้วย
โดยหากพูดถึงบริษัทประกันภัยที่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลกในการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้บริการ ประเมินความเสี่ยง และปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม คงหนีไม่พ้น บริษัท ผิงอัน อินชัวรันซ์ (กรุ๊ป) ออฟ ไชน่า จำกัด (Ping An Insurance (Group) Company of China, Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทที่รู้จักกันดีว่ามีการลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมหาศาล เพื่อพัฒนาใน 4 เทคโนโลยีหลัก ที่เชื่อว่าจะมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจการเงิน ได้แก่ Cognitive Recognition, AI, Blockchain และ Cloud Computing ปัจจุบันบริษัท ผิงอัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน และจดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้
ผิงอัน ทำธุรกิจอะไรบ้าง?
ผิงอัน ในภาษาจีน มีความหมายว่า “ความปลอดภัยและเป็นสุข” (Safe and Well) เป็นบริษัทที่เติบโตมาจากการให้บริการประกันชีวิตกับลูกค้าภายในประเทศจีน จากนั้นก็มีการขยับขยายมายังธุรกิจประกันวินาศภัย ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และธุรกิจบริการด้านสุขภาพ โดยบริษัทมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง มีลูกค้ารายบุคคลอยู่ที่ 225 ล้านราย และมีผู้ใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตกว่า 668 ล้านคน ในปี 2022 ผิงอัน ได้รับการจัดอันดับจากสถาบันแบรนด์ไฟแนนซ์ (Brand Finance) ให้เป็นบริษัทประกันภัยที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งมีการประเมินมูลค่าแบรนด์ไว้กว่า 54,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.91 ล้านล้านบาท
และเมื่อมองลงไปยังรายได้ของบริษัท ผิงอัน พบว่ารายได้หลักกว่า 71% มาจากธุรกิจประกันภัย แบ่งเป็น 50% มาจากธุรกิจประกันชีวิต และอีก 21% มาจากธุรกิจประกันวินาศภัย ทั้งนี้ ผิงอัน ยังได้มีการแผ่ขยายอาณาจักรไปยังธุรกิจอื่น ๆ อีกด้วย และเมื่อมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และมีระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่รองรับการให้บริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านการเงิน บริการด้านสุขภาพ บริการด้านยานยนต์ บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ และบริการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เป็นต้น ทำให้บริษัทสามารถเสนอขายสินค้าและบริการข้ามกันในกลุ่มบริษัทได้ (Cross Selling) ภายใต้กลยุทธ์ “One customer, multiple products and one-stop services” หรือ ลูกค้าหนึ่งราย สามารถใช้ได้หลากหลายผลิตภัณฑ์ ด้วยการบริการที่ครบวงจร ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะขยายการเจริญเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจของผิงอัน
ความน่าสนใจและความเชื่อมโยงของแต่ละธุรกิจของบริษัท ผิงอัน
เริ่มจากธุรกิจประกันภัย ผิงอัน เติบโตมาจากธุรกิจประกันชีวิต ตามมาด้วยการให้ประกันสุขภาพ และธุรกิจประกันวินาศภัย ผิงอัน มีฐานลูกค้าที่ใหญ่และมีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับโดยลูกค้าในประเทศอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีการทำการตลาดและการสื่อสารกับลูกค้าในประเทศมาอย่างยาวนานเป็นสิบ ๆ ปี รวมทั้งมีเครือข่ายในการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง มีหน่วยบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง Offline และ Online เป็นต้น นอกจากนี้ ผิงอันมีการพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาช่วยในธุรกิจประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ทำให้สามารถช่วยทั้งการบริหารต้นทุน การคำนวณค่าเบี้ยประกัน ความเสี่ยงของผู้ทำประกัน รวมถึงการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคมาประมวลผล จนได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการและความเสี่ยง จึงสามารถที่จะครองพื้นที่ในตลาดจีนได้อย่างมั่นคง และส่งผลบวกต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
โดยหากมองแนวโน้มตลาดประกันภัยในประเทศจีนยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก เนื่องจากประชากรจีนจำนวน 1,400 ล้านคน ปัจจุบันมีประชากรเพียง 2.4% เท่านั้นที่ทำประกันชีวิต ซึ่งยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั้งโลกที่ทำประกันชีวิต 3.3% และหากไปดูที่ประกันสุขภาพ ยิ่งน่าสนใจ เพราะจากข้อมูลในปี 2022 มีเพียง 0.8% ของประชากรเท่านั้นที่ทำประกันสุขภาพ และจริงอยู่ที่รัฐบาลจีนมีประกันสุขภาพพื้นฐานให้กับประชาชน แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ต้องเป็นโรงพยาบาลของรัฐและเบิกได้เฉพาะตามที่รัฐกำหนด ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้การเข้าถึงบริการดังกล่าวเป็นไปได้ยากขึ้น ทำให้ประชาชาชนบางส่วนที่มีกำลังใช้จ่ายหันมาสมัครบริการประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น
ธุรกิจธนาคาร หนึ่งในธุรกิจหลักของผิงอัน เป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้ารายบุคคล ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิย้อนหลัง 4 ปี คิดเป็นอัตราการเติบโตทบต้นถึง 14% ต่อปี และมียอดหนี้เสียรวมโดยเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีเพียง 1.47% เท่านั้น โดยปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของธุรกิจธนาคาร คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในการทำธุรกิจ เช่น การทำ Mobile Banking การทำ Big Data Analytic เพื่อมาวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า และการนำ AI และ Machine Learning มาใช้ในการตรวจสอบและพัฒนาการให้คะแนนความเสี่ยงในการปล่อยกู้ (Credit Scoring) เป็นต้น
ธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยี จากนโยบายของผิงอันที่มุ่งเน้นเป็นแพลตฟอร์ม (Platform) ทางการเงิน ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อที่จะสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ซึ่งจะนำมาสู่การเสนอขายสินค้าและบริการข้ามกันภายในกลุ่มบริษัท (Cross Selling) ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันที่ให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรของผิงอัน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Good Doctor” เป็นแพลตฟอร์มให้บริการทางการแพทย์ ทั้งแบบ Online และ Offline เริ่มตั้งแต่ให้คำปรึกษาโดยแพทย์แบบ Online การสั่งซื้อยา และบริการประกันสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้บริการในแพลตฟอร์มเป็นไปอย่างสะดวก ต่อเนื่อง และรวดเร็ว เช่น การนำ AI มาจับคู่ผู้ป่วยกับแพทย์เฉพาะทาง การวิเคราะห์โรคจากภาพถ่าย เป็นต้น การรวบรวมและเชื่อมต่อผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ป่วย ผู้ประกันตน แพทย์ โรงพยาบาล และสถาบันบริการสุขภาพเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้แพลตฟอร์มมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมียอดลงทะเบียนแล้วกว่า 440 ล้านราย และมีการให้คำปรึกษาไปแล้วกว่า 1,300 ล้านครั้ง
Lufax Holding เป็นแพลตฟอร์มบริการทางการเงินส่วนบุคคลชั้นนำที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ดำเนินการในหลายธุรกิจ เช่น การบริหารความมั่งคั่ง และการปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อย เป็นต้น โดยการบริหารความมั่งคั่ง Lufax มุ่งมั่นที่จะจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายสำหรับชนชั้นกลางและประชาชนที่ร่ำรวย โดยใช้ฐานข้อมูล และ AI ในการจับคู่ระหว่างผลิตภัณฑ์และลูกค้า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2021 มีผู้ใช้ลงทะเบียนแล้วกว่า 48.7 ล้านราย และสินทรัพย์ทั้งหมดของลูกค้าที่สร้างผ่านแพลตฟอร์มสูงถึง 425.1 พันล้านหยวน ขณะที่การปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อย มียอดรวมของสินเชื่อสูงถึง 645.1 พันล้านหยวน และจำนวนผู้กู้สะสมเพิ่มขึ้นประมาณ 16.2 ล้านราย
ผลประกอบการของผิงอัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤติ COVID-19 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของมนุษย์แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นวงกว้างอีกด้วย โดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาด และด้วยการใช้นโยบาย Zero-COVID ก็ทำให้ธุรกิจในประเทศจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง (รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID ในเดือนมกราคม 2566) ซึ่งบริษัท ผิงอัน ก็ได้รับผลกระทบจากรายได้และกำไรจากการขายประกันที่น้อยลง และผลตอบแทนที่โดนกดดันจากนโยบาย Zero-COVID ของรัฐบาลจีน
หากมองภาพรวมของสถานะทางการเงินในระยะยาว รายได้และกำไรสุทธิของบริษัท ผิงอัน ยังมีแนวโน้มที่จะมีการเติบโต แม้ว่าในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาจะโดนกดดันจากนโยบาย Zero-COVID และผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้น นอกจากนี้ หากพิจารณาจากอัตราส่วนที่ใช้วัดประสิทธิภาพของธุรกิจประกันภัยของบริษัท ผิงอัน จะเห็นว่า Combined Ratio (อัตราสินไหมทดแทนรวมกับอัตราค่าใช้จ่าย) และ Benefit-Expense Ratio (อัตราส่วนภาระความคุ้มครองต่อรายรับเบี้ยประกัน) ยังต่ำกว่าร้อยละ 100 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รายรับจากเบี้ยประกันสุทธินั้นมากกว่าค่าใช้จ่ายหรือภาระที่ทางบริษัทต้องแบกรับ ซึ่งแม้แต่ในปีที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 บริษัทก็ยังสามารถทำได้ดี และยังสะท้อนถึงจุดเด่นของบริษัท ผิงอัน คือเป็นบริษัทประกันภัยขนาดใหญ่ มีความมั่นคงสูง มีลูกค้ายอมรับอย่างกว้างขวาง แม้ว่ายอดขายและกำไรจะมีการหดตัวในระยะสั้น แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนพื้นฐานของสิ่งที่ผิงอันเป็นอยู่ หรือทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางในการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด
สรุปความน่าสนใจของบริษัท ผิงอัน
ลงทุนหุ้นผิงอัน (Ping An) ผ่านตลาดหุ้นไทย
ปัจจุบัน นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ผ่านการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่ซื้อขายบนกระดานตลาดหุ้นไทย เช่น DR (Depositary Receipt) ซึ่งเป็นตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยผู้ออก DR จะเป็นคนไปซื้อหุ้นหรือหน่วยลงทุนต่างประเทศ แล้วนำมาเสนอขายให้กับนักลงทุนไทยในรูปสกุลเงินบาทอีกต่อหนึ่ง ซึ่งผู้ถือ DR จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เสมือนลงทุนหุ้นหรือหน่วยลงทุนต่างประเทศโดยตรง เช่น สิทธิในการรับเงินปันผล เป็นต้น
ในเดือนมีนาคมนี้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศของบริษัท ผิงอัน อินชัวรันซ์ (กรุ๊ป) ออฟ ไชน่า จำกัด หรือ DR ของหุ้น Ping An มีสัญลักษณ์ซื้อขาย คือ PINGAN80 เพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อขายหุ้น Ping An ได้บนกระดานตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีข้อดีคือ ไม่ต้องยุ่งยากในการไปลงทุนหุ้น Ping An ในต่างประเทศโดยตรง ซื้อขายได้ด้วยเงินบาท ใช้บัญชีเดียวกันกับการซื้อขายหุ้นไทย เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป ซึ่งหากนักลงทุนมีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อขายได้เลย ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่ และเทรดได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน Streaming เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น
อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ เช่น ลักษณะธุรกิจของหุ้นที่จะลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อที่จะลงทุนได้อย่างมั่นใจและช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุน
Note:
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่สนใจ เรียนรู้ลักษณะพื้นฐาน ทางเลือกลงทุน และวิธีการลงทุนในต่างประเทศผ่านตลาดหุ้นไทย เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว สามารถเรียนรู้ได้ผ่าน e-Learning หลักสูตร “มือใหม่หัดลงทุนต่างประเทศ” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่