“ปกป้องเงินต้น และมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง” คือ การลงทุนในฝันของนักลงทุนหลายคน รวมถึงกลุ่มคนวัยเกษียณ ที่ใจหนึ่งต้องการรักษาเงินต้นที่ได้สั่งสมมาตลอดชีวิต ไม่กล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แต่อีกใจหนึ่งก็ยังคาดหวังผลตอบแทนในระดับสูง
หากกลุ่มคนวัยเกษียณต้องการผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและตราสารหนี้ ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนวัยเกษียณที่กังวลกับการสูญเสียเงินต้น แต่ยังสนใจลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง และยังสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้มีชื่อว่า กองทุน Double Shark-Fin Note
โดยทั่วไปรูปแบบการจัดพอร์ตลงทุนของคนวัยเกษียณมักจะเน้นไปที่การลดความเสี่ยง ด้วยการลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ แต่สินทรัพย์เสี่ยงต่ำก็ให้ผลตอบแทนที่ต่ำเช่นเดียวกัน ส่งผลให้พอร์ตลงทุนได้รับผลตอบแทนค่อนข้างต่ำหรืออาจต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ และอาจเผชิญกับปัญหาเงินไม่พอใช้หลังเกษียณ
กองทุน Double Shark-Fin Note หรือ กองทุนครีบปลาฉลาม 2 ด้าน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว เพราะมีลักษณะเป็นกองทุนลูกผสมที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ผนวกกับตราสารอนุพันธ์ ทำให้มีคุณสมบัติที่พิเศษทั้งในแง่ของการ “ปกป้องเงินต้น พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนเมื่อเป็นขาขึ้น และไม่ขาดทุนเมื่อเป็นขาลง” โดยเป้าหมายการลงทุนของกองทุนดังกล่าวจะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
เป้าหมายแรก คือ ลดความเสี่ยงในการขาดทุนเงินต้น ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดของนักลงทุนวัยเกษียณ ทำได้โดยการนำเงินลงทุนส่วนใหญ่ เช่น 98% ของเงินลงทุนทั้งหมดไปลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ขึ้นไป และเงินฝากธนาคาร เพื่อรับผลตอบแทนที่แน่นอน ดังนั้น เมื่อครบกำหนด กองทุนจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและเงินต้นคืน ช่วยปิดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้นได้
เป้าหมายต่อมา คือ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ด้วยการนำเงินลงทุนส่วนน้อย เช่น 2% ของเงินลงทุนทั้งหมด ไปลงทุนในตราสารอนุพันธ์ เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทออปชัน (Options) เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมให้กับนักลงทุน โดยสามารถเลือกสินทรัพย์อ้างอิงได้หลายประเภท เช่น ดัชนีตลาดหุ้น กองทุนรวม ETF สินค้าโภคภัณฑ์ และอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ทั้งนี้ หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงมีการเคลื่อนไหวเป็นไปตามเงื่อนไขที่กองทุนกำหนด นักลงทุนก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากหรือตราสารหนี้ได้ ในทางกลับกัน หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวไปตามเงื่อนไข นักลงทุนก็ไม่ต้องเผชิญกับภาวะการขาดทุนและยังได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
เช่น กองทุน Double Shark-Fin Note อายุ 1 ปี มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นดัชนี S&P 500 โดยมีการกำหนดกรอบการเคลื่อนไหว (Barrier) ของดัชนีไว้ที่ระหว่าง +20% กับ -20% อัตราการมีส่วนร่วม (Participation Rate) 50% และอัตราผลตอบแทนส่วนชดเชย (Rebate Rate) ที่ 0.25% ผลตอบแทนที่มีโอกาสเกิดขึ้นจากการลงทุนกองทุน Dual Shark - Fin แบ่งได้ออกเป็น 2 กรณีหลัก ดังนี้
ในทางกลับกัน หากตลาดหุ้น S&P 500 ปรับตัวลดลง -20% ผลตอบแทนที่ได้รับจะเท่ากับ 20% คูณกับอัตราการมีส่วนร่วม 50% เท่ากับ 10% และได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน แปลว่า นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนและรักษาเงินต้นได้ ไม่ว่าตลาดหุ้นจะเป็นขาขึ้นหรือลง
จะเห็นได้ว่า หัวใจสำคัญที่นักลงทุนได้จากการลงทุนในกองทุน Double Shark-Fin Note คือ การปกป้องเงินต้น ไม่ว่าสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ในขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ ดังนั้น กองทุนประเภทนี้ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ ตรงใจวัยเกษียณให้สามารถลงทุนได้อย่างสบายใจ ขณะเดียวกันยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะและความเสี่ยงของกองทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และใช้เพื่อสำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับใครที่สนใจ เรียนรู้แนวคิดและเทคนิคในการสร้างแผนลงทุนด้วยกองทุนรวม สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “มือใหม่หัดสร้างแผนลงทุนด้วยกองทุนรวม” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่