ในช่วงปลายปี 2564 บรรยากาศโดยรวมผู้คนยังมีความกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่ยังคงต้องเก็บเงินหรือประหยัดเหมือนเดิม เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและอาจต้องใช้เงิน อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการออมการลงทุนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรหยุดนิ่ง โดยเฉพาะปลายปีเช่นนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (กองทุนรวม SSF) เพื่อการประหยัดภาษีและการออมระยะยาว
จากสถานการณ์ COVID-19 อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในกองทุนรวม SSF อยู่บ้าง หากนักลงทุนต้องกันเงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อไว้ใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม หากวางแผนการเงินได้อย่างลงตัว มีการกันเงินสำรองส่วนหนึ่งไว้เผื่อฉุกเฉิน เชื่อว่าจะสามารถกันเงินบางส่วนมาลงทุนในกองทุนรวม SSF ได้อย่างแน่นอน
กองทุนรวม SSF มีนโยบายการลงทุนหลากหลายรูปแบบให้เลือกลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนในตลาดหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ หรือลงทุนแบบผสม ดังนั้น นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้อย่างหลากหลาย
มองเป็นเรื่องวางแผนการเงิน
จะว่าไปแล้วกองทุนรวม SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมให้คนไทยออมเงินเอาไว้ใช้ยามเกษียณ ส่วนสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นเรื่องของแรงจูงใจให้ออมเงิน ด้วยเหตุนี้จึงมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานประมาณหนึ่ง (ต้องถือครอง 10 ปีนับจากวันซื้อ) และถ้าทำผิดเงื่อนไขก็จะมีบทลงโทษด้วย
ดังนั้น ควรมองการลงทุนในกองทุนรวม SSF เป็นการวางแผนเพื่อวัยเกษียณและควรเริ่มเก็บออมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะมีข้อดีตรงที่ว่าได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว (Investment Return) แถมไม่ได้บังคับว่าจะต้องลงทุนปีละกี่บาท แต่เป็นการเก็บเงินแบบน้ำซึมบ่อทราย นั่นคือ ค่อย ๆ สะสมไป ปีไหนมีมากก็ซื้อเยอะ ปีไหนมีน้อยก็ซื้อน้อย และยิ่งลงทุนแบบทยอยลงทุนทุกเดือน สม่ำเสมอ (Dollar Cost Average : DCA) จะรู้สึกว่าไม่เป็นภาระกับเงินในกระเป๋า นั่นคือ ไม่หนักเกินไป และเมื่อลงทุนไปสักระยะหนึ่งแล้ว จะเริ่มเห็นเงินออมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะเริ่มรักการออมไปเอง
ดังนั้น หากให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงิน จึงควรออมเงินให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะเมื่อออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะได้เปรียบคนที่เริ่มต้นออมเงินตอนอายุเยอะ แต่ก็ยังมีคนที่อายุน้อยที่มองว่าไม่ควรลงทุนในกองทุนรวม SSF เพราะกว่าจะได้ใช้เงินนั้นอีกนาน หรือบางคนอ้างว่ายังเสียภาษีในอัตราที่ต่ำ จึงไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน
ตรงกันข้าม อยากให้นักลงทุนมองว่าการลงทุนในกองทุนรวม SSF เป็นการสร้างวินัยด้านการออม ดังนั้น ไม่ว่าอายุจะน้อยหรือมากก็ควรลงทุน แต่ก็ต้องมีการวางแผนว่าจะลงทุนอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับสไตล์การลงทุนและความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของตัวเอง
ใช้พอยต์บัตรเครดิตก็ซื้อ SSF ได้
ช่วง COVID-19 ระบาด หลายคนมีพอยต์บัตรเครดิตและไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ก็สามารถนำคะแนนมาเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อแลกซื้อกองทุนรวม SSF หรือ กองทุนรวม RMF ได้ ผ่านโครงการ POINT to INVEST สมาร์ทช้อยส์...ใช้พอยต์แลกกองทุน เรียกว่า พอยต์ไม่หาย แถมยังได้ต่อยอดให้งอกเงย พูดง่าย ๆ ใช้พอยต์บัตรเครดิตแทนเงินสดมาซื้อกองทุนรวมนั่นเอง
ปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่ง เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถใช้พอยต์บัตรเครดิตแลกซื้อกองทุนรวมได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ธ.กรุงเทพ ธ.กสิกรไทย ธ.ทหารไทยธนชาต ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.ยูโอบี บ.บัตรกรุงไทย บ.บัตรกรุงศรีอยุธยา และ บ.อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส
นอกจากนี้ แต่ละสถาบันการเงินยังมีกองทุนรวมให้เลือกหลากหลายจาก บลจ. ชั้นนำ ทั้งกองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมหุ้น หรือกองทุนรวมประหยัดภาษีอย่าง SSF และ RMF ซึ่งสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงของเราได้
หากท่านใด มีบัตรเครดิตของสถาบันการเงินใดอยู่ ลองสำรวจพอยต์ที่คุณมีและลองนำมาแลกเป็นกองทุนรวมดู แล้วคุณจะรู้ว่าความคุ้มค่าของการแลกพอยต์มีอยู่จริง และพอยต์ไม่ได้มีไว้แค่แลกที่พักหรือจองตั๋วเครื่องบินอีกต่อไป โดยผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมการแลกพอยต์ได้ที่เว็บไซต์ POINT to INVEST >> คลิกที่นี่
และสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนรวม SSF & RMF แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองมาทำความรู้จักกองทุนทั้ง 2 แบบเข้าใจง่าย และเจาะลึกมากขึ้น ทั้งในแง่ของภาพรวมกองทุน กลยุทธ์การลงทุน ตลอดจนเทคนิคการประหยัดภาษีอย่างฉลาด ด้วย “คู่มือ SSF&RMF แฝดคู่ใหม่ใช้ลดหย่อนภาษี” ดาวน์โหลดและอ่านฟรี!! >> คลิกที่นี่