ตกงาน บริษัทเจ๊ง ล้มละลาย จัดการได้ด้วยการวางแผนคุ้มครองรายได้

โดย SET
3 Min Read
1 มกราคม 2564
3.824k views
TSI_33_ตกงาน บริษัทเจ๊ง ล้มละลาย จัดการได้ด้วยการวางแผนคุ้มครองรายได้
Highlights

มนุษย์เงินเดือนก็มีความเสี่ยงเรื่องการถูกเลิกจ้าง หรือว่างงานกระทันหันเช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ จึงต้องมีการเตรียมพร้อมวางแผนคุ้มครองรายได้ ซึ่งสามารถทำได้หลายทาง ตั้งแต่การวางแผนเงินออมและเงินฉุกเฉินของตัวเอง การมีรายได้ที่มากกว่า 1 ทาง รวมถึงการเป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม และการใช้สิทธิตามกฎหมายของ พรบ.คุ้มครองแรงงาน

“ไม่มีอะไรในโลกที่ไม่มีความเสี่ยง การเป็นมนุษย์เงินเดือนก็เสี่ยงพอๆ กับทำอาชีพอิสระนั่นแหละ
ถ้าอยู่ดีๆ บริษัทเกิดขาดทุน เจ๊งขึ้นมา เคยคิดกันหรือเปล่าว่า ถึงเวลานั้นจะทำอย่างไรกัน”

 

ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี อาจจะทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายๆ คนเกิดความกังวล และรู้สึกถึงความเสี่ยงในการถูกออกจากงาน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นจริงจะทำอย่างไร จะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย หากเราไม่ได้มีการวางแผนทางการเงินที่ดีก็จะทำให้ลำบากได้ เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงเวลาที่เราสามารถทำงานได้อย่างปกติก็ควรเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงเรื่องการตกงานด้วย ลองมาดู 4 เคล็ดลับช่วยวางแผนคุ้มครองรายได้” ดังนี้

 

1. วางแผนคุ้มครองรายได้จากเงินออม

 

ควรออมเงินเอาไว้เผื่อช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่ดี และตั้งงบประมาณสำรองเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยการคำนวณค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของตัวเองและสำรองเงินไว้ตามที่กำหนด ลองเขียนออกมาดูเลยว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างในแต่ละเดือน เช่น

 

  • ค่าเช่าห้อง           5,000 บาท
  • ค่ากินอยู่             5,000 บาท
  • ค่าเดินทาง           1,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ       5,000 บาท
  • รวม                 16,000 บาท

 

นั่นหมายความว่า หากเราเกิดตกงานขึ้นมาแล้วไม่เงินสำรองเลย จะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในช่วงที่กำลังหางานใหม่ ดังนั้น ควรเก็บเงินสำรองอย่างน้อย 3 – 6 เดือนเอาไว้ คิดเป็นประมาณ 48,000 - 96,000 บาท ด้วยการทยอยออมเงินจากรายได้ในแต่ละเดือนให้ครบตามที่กำหนด

Tip การออม

เราควรเลือกรูปแบบการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินที่มีความปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง เช่น เงินฝากออมทรัพย์ หรือกองทุนรวมตลาดเงินที่นอกจากจะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์แล้ว ยังมีสภาพคล่องสูงกว่าบัญชีเงินฝากประจำ สนใจเปิดบัญชีกองทุนรวม >> คลิกที่นี่

2. วางแผนคุ้มครองรายได้ด้วยการลงทุน

 

คงเป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์เงินเดือนหลายๆ คนที่จะแบ่งเวลาไปประกอบอาชีพอื่น แต่เราสามารถให้เงินทำงานแทนเราได้ด้วยการนำเงินออมที่มีอยู่มาลงทุนในกองทุนรวมหุ้นหรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีการจ่ายเงินปันผล อย่างน้อยเวลาตกงานจะได้มีเงินสดเอาไว้ใช้ยังชีพ หรือถ้ามีความรู้และประสบการณ์มากพอ ก็อาจหาโอกาสลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพในการเติบโตต่อไปในอนาคต เพื่อให้เงินลงทุนของเราเติบโตไปพร้อมกับกิจการด้วย

 

3. ใช้สิทธิเงินทดแทนรายได้จากกองทุนประกันสังคม

 

หากเราจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนการว่างงาน (ถูกเลิกจ้างหรือลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา) โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย กองทุนประกันสังคมจะจ่ายเงินทดแทนให้ โดยเราต้องยื่นขึ้นทะเบียนว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ ภายใน 30 วัน หลังจากถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงาน โดยมีเกณฑ์การได้รับเงินทดแทนดังนี้

TSI_Article_033_PF_ตกงาน บริษัทเจ๊ง ล้มละลาย จัดการได้ด้วยแผนคุ้มครองรายได้_01
4. ใช้สิทธิเงินชดเชยรายได้จาก >> พรบ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 


ในการตกงานและเลิกจ้างโดยที่เราไม่ได้ลาออกเองโดยสมัครใจนั้น จะได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายแรงงานอยู่แล้ว สามารถตกลงกับนายจ้างเพื่อขอรับเงินชดเชยได้ตามอายุการทำงานดังนี้

TSI_Article_033_PF_ตกงาน บริษัทเจ๊ง ล้มละลาย จัดการได้ด้วยแผนคุ้มครองรายได้_02

การวางแผนคุ้มครองรายได้สามารถทำได้หลายทาง ตั้งแต่การวางแผนเงินออมและเงินฉุกเฉินของตัวเอง การมีรายได้ที่มากกว่า 1 ทาง รวมถึงการเป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม และการใช้สิทธิตามกฎหมายของ พรบ.คุ้มครองแรงงาน เพราะฉะนั้น อย่าลืมวางแผนทางการเงินเพื่อคุ้มครองรายได้เมื่อต้องประสบภาวะวิกฤติของชีวิต

แท็กที่เกี่ยวข้อง: