เจาะวิธีดูงบการเงิน ทำไมงบดี แต่ราคาหุ้นลง!

โดย SET
3 Min Read
15 ตุลาคม 2564
18.087k views
15-SET-investHow_Thumbnail-Code_1200x660_R3

          ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มักจะเป็นช่วงที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร และเก็บหุ้นที่ทำผลงานได้ดีอย่างคึกคัก แต่หลายครั้งสงสัยไหมว่าทำไมบางบริษัทงบดี กำไรเติบโต ราคาหุ้นกลับลง แต่อีกบริษัทงบออกมาแย่ หุ้นกลับขึ้นซะงั้น ทั้งที่ตามความเป็นจริงแล้วใคร ๆ ก็อยากได้หุ้นพื้นฐานดีกันทั้งนั้น

 

          สาเหตุที่เป็นแบบนี้ เราขอแบ่งออกเป็น 2 เรื่องหลัก ๆ ประการแรก คือ ความคาดหวังของตลาด ประการที่สอง คือ งบการเงินที่คิดว่าดี อาจจะไม่ได้ดีจริง ๆ อย่างที่คิด

 

ราคาหุ้นมาจากความคาดหวังของตลาด

          แม้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นจะสะท้อนมาจากปัจจัยพื้นฐาน แต่อีกปัจจัยที่กำหนดราคาหุ้นคือ "ความคาดหวังของนักลงทุน" หากส่วนใหญ่มองว่าเป็นช่วงที่หุ้นน่าเข้าซื้อ ราคาหุ้นก็จะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งการที่นักลงทุนยอมซื้อหุ้นในวันนี้ เพราะหวังว่าจะสร้างกำไรในอนาคต ทำให้สรุปสาเหตุว่าทำไมงบออกมาดี แต่หุ้นกลับลง ได้ดังนี้

 

  1. เกิดการ sell on fact ราคาหุ้นขึ้นไปตั้งนานแล้ว

          การที่เราซื้อหุ้นเมื่อข่าวออก บางครั้งอาจจะช้าเกินไป เพราะทุกคนรู้แล้วว่าดี พอผลประกอบการออกมาตามที่ตลาดประเมินไว้ จึงเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "Sell on Fact" คือ การขายทำกำไรเมื่อมีข่าวดี เนื่องจากราคาหุ้นอาจจะปรับเพิ่มขึ้นจนใกล้เต็มมูลค่าแล้วนั่นเอง

 

  1. งบออกมาโตน้อยกว่าที่คาด

          ก่อนที่งบจริงจะออก จะมีการประเมินผลประกอบการล่วงหน้าจากวิเคราะห์การลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งหุ้นบางตัวงบออกมาดีจริง กำไรโต 20% เป็นต้น แต่ถ้าตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะโตถึง 50% แบบนี้แสดงว่าหุ้นทำให้ตลาดผิดหวัง นักลงทุนก็พร้อมจะเทขายได้เช่นกัน เพราะอย่างที่รู้กันว่าตลาดหุ้นคือตลาดแห่งความคาดหวัง

          อย่างไรก็ดี นักลงทุนสามารถประเมินความคาดหวังของตลาด และสำรวจประมาณการงบการเงินล่วงหน้าได้จากบทวิเคราะห์การลงทุน ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ รวบรวมไว้ได้ที่นี่ คลิก 

 

งบที่มองว่าดี อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด

          งบการเงินเป็นเหมือนสมุดพกที่บอกฝีมือของการดำเนินธุรกิจ หากเข้าใจข้อมูลสำคัญในงบการเงินได้ถูกต้อง จะช่วยให้การตัดสินใจลงทุนสมเหตุสมผลขึ้น แต่หากดูไม่ละเอียดเพียงพอ ก็มีโอกาสที่จะทำให้ตัดสินลงทุนผิดพลาดได้เช่นกัน วิธีอ่านงบการเงินที่ถูกต้องนั้น ควรมองให้ครบทุกมิติ สามารถแยกออกเป็น 5 ส่วนประกอบ ได้แก่

 

  1. งบแสดงฐานะการเงิน

          แสดงถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจและความมั่งคั่งของกิจการ ณ ช่วงใดช่วงหนึ่ง สิ่งที่ควรโฟกัสมีด้วยด้วย 3 ตัวเลข คือ 1. สินทรัพย์ ว่าเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนหรือไม่หมุนเวียน เงินสดเยอะไหม ขนาดของสินทรัพย์เป้นเท่าไหร่ 2. หนี้สิน เป็นหนี้ระยะสั้นหรือระยะยาว อัตราการเพิ่มขึ้นของหนี้เหมาะสมไหม 3. ทุน สัดส่วนทุนเมื่อเทียบกับหนี้สินเป็นอย่างไร ทุนเพิ่มขึ้นจากอะไร เป็นต้น

 

  1. งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ

          เป็นส่วนที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด ซึ่งบอกว่าผลการดำเนินงานในรอบบัญชีนั้นของบริษัทดีแค่ไหน โครงสร้างของการอ่านงบกำไรขาดทุน แนะให้เริ่มจาก "รายได้" "ต้นทุน" แล้วค่อยไล่ลงไปดูในส่วนของ "กำไร" ทั้ง กำไรขั้นต้น กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) และกำไรสุทธิ

          โดยต้องเปรียบเทียบกำไรกับปีที่แล้ว (YoY) เพราะบางธุรกิจมี seasonal รวมถึงเปรียบเทียบกับไตรมาสที่แล้วด้วย (QoQ) เพื่อให้เห็นพัฒนาการเติบโต อีกจุดสังเกตคือกำไรที่เห็น เป็นกำไรคุณภาพหรือไม่? ซึ่งต้องเกิดจากการดำเนินธุรกิจหลัก ไม่ใช่กำไรพิเศษที่เกิดเพียงครั้งเดียว

 

  1. งบกระแสเงินสด

          เงินสดเป็นดั่งเส้นเลือดของธุรกิจ โดยงบส่วนนี้จะแสดงเงินสดที่รับมาและจ่ายออกไป ซึ่งการที่บริษัทมีกำไรเติบโตมาก ๆ ใช่ว่าจะมั่นคงเสมอไป นักลงทุนควรดูกระแสสดประกอบสดประกอบด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจติดขัด

 

  1. หมายเหตุประกอบงบ

           แสดงรายการทางบัญชีที่สำคัญเพื่อให้นักลงทุนตรวจสอบความโปร่งใสในงบการเงิน ประกอบด้วยประเด็นสำคัญ อาทิ นโยบายของกิจการ เหตุการณ์ที่ผิดปกติ และสาระสำคัญที่ไม่ได้แสดงในงบ ซึ่งเราสามารถดูรายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีประกอบการพิจารณา หากเจอสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล จะได้ระวังตัวได้ทัน

eOpen Banner for investHow-01-01
  1. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น

          เป็นส่วนที่แสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น เอาไว้ดูเคลื่อนไหวของทุนว่ามีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากรายการไหนบ้างในระหว่างปี

 

        ทุกคนจะเห็นเลยว่าการเข้าใจส่วนต่าง ๆ ในงบการเงิน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจและสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับมือใหม่ที่อยากหัดอ่านงบการเงินอย่างถูกต้อง ขอแนะนำ e-Learning หลักสูตร “ลงทุนหุ้นมั่นใจ ต้องเข้าใจงบการเงิน” ได้ฟรี! คลิกที่นี่

 

          นักลงทุนยังสามารถเข้าไปอ่านงบการเงินอย่างละเอียด โดยใช้เครื่องมือ SETSMART ที่เมนู Financial Statements โดยสรุปข้อมูลย้อนหลังถึง 5 ปี และสามารถดาวน์โหลดออกมาเป็นไฟล์ Excel สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลต่อได้อีกด้วย เพียงแค่สมัครบริการ SETSMART ในราคาเพีบง 250 บาทต่อเดือน คลิกที่นี่

 

          สุดท้ายนี้จะเห็นว่าการเลือกหุ้นลงทุนนั้น จะดูเพียงกำไรสุทธิที่อยู่บรรทัดสุดท้ายเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องไล่เรียงอยู่งบอย่างละเอียดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ภาพรวมธุรกิจแข็งแกร่งจริงหรือเปล่า รวมถึงประเมินความคาดหวังของตลาดประกอบด้วย เพื่อที่จะได้พบหุ้นดีในราคาเหมาะสม

ปุ่ม erc
ปุ่ม setsmart
แท็กที่เกี่ยวข้อง:

e-Learning น่าเรียน

e-Learning น่าเรียน